งานบอกตัวตน

วันพุธที่ 9 ธันวาคม พ.ศ. 2552

ข่าวเคหาสน์สีแดง1

************
กดภาพเพื่อดูคลิปข่าวเคหาสน์รวม



------
ตัวอย่าง1ออกอากาศวันแรก 3 มีนาคม 2554



เริ่มเดินเรื่อง



-----------
ข่าวสีสันเคหาสน์สีแดง 15 12 53




--------------
เคหาสน์สีแดง 12 53 8 ตลุยกองถ่าย

......


***********

วันเปิดกล้องแฟนคลับไปให้กำลังใจ





..................




เริ่มแล้วข่าวสารต่างๆๆเกี่ยวกับละคร
*********************************


----------
ข่าวจากสีสันช่อง3
17/10/53
จากน้องบัว


อัดเองแต่ไม่เต็ม


==========
สยามรัฐ




http://www.siamrath.co.th/web/?q=node/51194

วัดพลังดารา “แอนดริว เกรกสัน” อยู่หรือไปจาก “เคหาสน์สีแดง” !?!

การกลับมาของ แอนดริว เกรกสัน เชื่อว่าน่าจะทำให้หลายคนรู้สึกลุ้นอยู่มืใช่น้อย!


ตั้งแต่ตัวผู้จัด นพพล โกมารชุน ที่เลือก แอนดริว เกรกสัน กลับมาร่วมงานกันอีกครั้ง, ทาง ช่อง3
ที่คงจะลุ้นระทึกมิใช่น้อย กลับการคัมแบ๊คของ แอนดริว ที่ ณ วันนี้เขาอยู่ในสถานภาพ “คนเคยฮิต”
ที่กำลังรอการฮิตอีกครั้ง รวมทั้งตัวของเขาเองด้วย
ความจริงที่ปฏิเสธไม่ได้ก็คือ ในอดีต แอนดริว เกรกสัน ก็คือพระเอกสุดฮิต ที่เคยฝากความฮิตระดับ
ทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ มาแล้วจาก เริ่มจากละครทางช่อง3 เรื่อง “ธรณี...นี่นี้ใครครอง”
(ปี41)ที่ฮิตสนั่นประเทศ “มัสยา” (ปี43)ทางช่อง7,ไม้เมือง” (ปี43) ทาง ช่อง3 , ลูกไม้...ไกลต้น (ปี43)
ทาง ช่อง7,
กระทั่งมาฮิตสนั่นในระดับ ทอล์ค ออฟ เดอะ ทาวน์ จาก “ทางผ่านกามเทพ” ( ปี44) ละครแนวตบจูบ ทางช่อง3
และ รักเกิดในตลาดสด” (ปี44)ละครแนวพ่อแง่แม่งอน ทางช่อง7และฮิตเรตติ้งกระฉูดอีกหลายเรื่อง

ไม่ได้ตั้งใจจะตอกย้ำ หรือ ซ้ำเติม แต่ ชีวิตของ แอนดริว เกรกสัน คือ ตัวอย่างที่ดี สำหรับการเรียนรู้ว่า
ในวันที่ ชื่อเสียง ความสำเร็จ ยังอยู่กับเรา จะชื่นชมกับมันอย่าง มีสติ...อย่าปล่อยให้ “ภาวะเฮียหลง”
เขาครอบงำ ทำให้เรากลายเป็น “ไอ้เยอะ” ในสายตาคนอื่น จนแม้แต่ ยุงแขยง แมลงขยาด...!
เพราะเมื่อ วันเวลาของเขาผ่านพ้นไป... ไม่ง่ายนักที่จะเรียกกลับคืนมา...
เพราะทุกวันนี้ มีหนุ่มสาวมากมายที่พร้อม “จ่อคิวดัง” อีกมากมาย
“ดัง และ ดี” ให้ผู้คนระลึกถึงและจดจำจะดีกว่า.


ความฮิตของเขาถึงขนาดที่ ช่อง3 หยิบยื่นโอกาสให้เขาเป็น ผู้จัดละคร ตั้งแต่อายุยังน้อย
ทำให้เขากลายเป็น ผู้จัดละครที่หล่อที่สุด หนุ่มที่สุด ในขณะนั้น ที่เขาประเดิมด้วยผลงานละครเรื่อง “สะดุดรัก”
ที่เขาเล่นคู่กับ บัวชมพู ฟอร์ด

ในฐานะ นักแสดง ต้องยอมรับว่า แอนดริว คือ นักแสดงคุณภาพคนหนึ่งของวงการ
เขาคว้ารางวัลมาแล้วหลายรางวัล รางวัลท้อปอวอร์ด ปี44 สาขานำชายยอดเยี่ยมจาก ทางผ่านกามเทพ
, รางวัลโทรทัศน์ทองคำ ปี 44 สาขาดารานำชายยอดเยี่ยม จาก รักเกิดในตลาดสด,
รางวัลคมชัดลึกอวอร์ด ปี47 สาขาดารานำชายยอดเยี่ยม จาก เรือนไม้สีเบจ
และ รางวัลเมขลา ปี47 สาขาดารานำชายยอดเยี่ยม จาก เรือนไม้สีเบจ
แต่ในเรื่องการทำงาน ก็ต้องยอมรับว่า แอนดริว เกรกสัน เป็นพระเอกที่ “เยอะ”
คนหนึ่งของวงการ ในมุมที่ ภาพพจน์ออกมาดู เรื่องมาก งี่เง่า มีโลกส่วนตัวสูง
ร่วมงานด้วยยาก อีโก้จัด รวมความว่า “โคตรเยอะ”!
หลังความโด่งดังแบบต่อเนื่องของเขา ทำให้ แอนดริว เริ่มออกอาการ “เยอะ” มากขึ้นเรื่อยๆ
มีข่าวว่า เวลาที่เขารับเล่นละครสักเรื่อง เขา “โคตรเยอะ”!
เขาจะขอ เลือกเรื่อง เลือกผู้กำกับ เลือกนักแสดง ขอเลือกนางเอก ขอเลือกแม่พระเอก (คือตัวเขาเอง)
เขาเป็น ขาวีน ขาเหวี่ยง จนผู้จัดเอือมระอา แม้แต่ดาราด้วยกันก็ยังพากันขยาด
หลังจากละคร เรือนไม้สีเบจ ที่ทำให้เขาได้รับรางวัล ได้รับคำชมในแง่การแสดงมากมาย
ดูเหมือน ยุคทองของเขา ก็เริ่มเสื่อมมนต์ขลัง ผลงานเรื่องต่อๆมาไม่ค่อยเปรี้ยงปร้าง
รวมทั้งละครที่เขาเป็นผู้จัดเอง ก็มาแบบ “เรื่องเดียวจอด”
เขาทิ้งผลงานเรื่อง “สะดุดรัก” ที่เขาเป็นผู้จัดไว้ในปี 49 ไว้เป็นเรื่องสุดท้าย
ก่อนจะหายหน้าไปจากวงการถึงสองปีเต็ม ในปี 50-51 ที่ผู้คนแทบจะลืมชื่อ แอนดริว เกรกสัน ไปแล้ว

แอนดริว สะดุดชีวิตตัวเองเข้าอย่างจัง...
แอนดริว กลับมาอีกทีในปี 52 กับผลงานละครเรื่อง “เกมลุ้นรัก” ทาง ช่อง3
ที่เขาเล่นคู่กับ ศิรพันธ์ วัฒนจินดา ที่ไม่เปรี้ยงปร้างอย่างวันเก่าๆ
ตามด้วย “มงกุฏแสงจันทร์” โปรเจกต์ละครที่ฮือฮาตั้งแต่ประกาศสร้าง
ส่อแววฮิตสนั่น เพราะฟอร์มดี ตั้งแต่ ผู้จัด นพพล โกมารชุน ที่เคยทำละคร “ฮิตทุกเรื่อง” ที่ ช่อง7
ฟอร์มนักแสดงที่ดูดีมี แอนดริว ประกบ ศรีริต้า เจนเซ่น และ เรื่องดี
เพราะเนื้อหาใกล้เคียงกับสถานการณ์บ้านเมืองในขณะนั้น
แต่น่าเสียดายที่ เขาไม่อาจสร้างปรากฏการณ์ฮิตดังอดีตได้อีก!
มาวันนี้ ทั้ง ช่อง3 และ นพพล ยังมีความหวัง และพร้อมจะมอบโอกาสให้
แอนดริว อีกครั้ง ด้วยการหยิบยื่นโปรเจกต์ ละครฟอร์มดี ให้เขาเล่นอีก
ณ วันนี้ ละครฟอร์มดี มีแววฮิต อย่าง “เคหาสน์สีแดง” จึงกลายเป็นผลงานที่ แอนดริว จะต้องพิสูจน์
พลังดารา พลังเสน่ห์ของตัวเอง อีกครั้งว่า เขาจะสามารถกอบกู้ ชื่อเสียง เรตติ้ง และ แฟนละคร
ให้กลับคืนมาดังเก่าได้หรือไม่...?
เพราะนั่นคือ คำตอบที่จะบอกว่า เขาสมควร... ได้รับสิทธิ์ให้ไปต่อ... หรือว่า...จะถูกโหวตออก!?!

คอลัมน์ - อะไรยังไง
โดย - คมเดช วิเศษนัก





http://www.khaosod.co.th/view_news.php?newsid=TURObGJuUXlOVEl3TURRMU5BPT0=§ionid=TURNeE1nPT0=&day=TWpBeE1TMHdOQzB5TUE9PQ==


วันที่ 20 เมษายน พ.ศ. 2554 ปีที่ 21 ฉบับที่ 7447 ข่าวสดรายวัน
ชูรสสำคัญ

คอลัมน์ หมายเหตุมายา
นิมิต ประชาชื่น


ไม่แปลกใจเลยว่าทำไมละครแต่ละเรื่อง ถึงใส่ใจในการหาตัวชูรสมาเสริมให้กับละคร หากตัวนำแสดงยังไม่แข็งพอ

ดูละครเรื่อง "เคหาสน์สีแดง" ทางช่อง 3 เป็นตัวอย่าง

ถึงจะได้พระเอกฝีมือดีอย่าง "แอนดริว เกร้กสัน" มาเป็นตัวดึงดูดแล้วก็ตาม

แต่พอเจอนางเอกใหม่ที่อ่อนทางการแสดงอย่างหนู "มิ้นท์"ณัฐวรา วงศ์วาสนา

จะแสดงสีหน้าสีตาแต่ละอารมณ์ ไม่ว่าเศร้า ทุกข์ สุข โกรธ ดีใจ เสียใจ แสดงออกได้เพียงหน้าเดียว

แม้ครั้งนี้การแสดงของน้องหนูจะกระเตื้องขึ้นจากเรื่องก่อน "เงารักลวงใจ"

แต่พอมาเจอเสียงที่ทั้งแหบและใหญ่ซึ่งเป็นข้อด้อยของตัวเธอเอง กลับกลบแอ๊กติ้งนั้นจนเกือบหมด

แรกทางผู้จัดคงหวังจะดึงพระเอกมือดีมาดันนางเอกมือใหม่

การณ์กลับพลิกผัน เพราะดันไม่ขึ้น แถมยังฉุดกันดำดิ่ง

ก็พระเอกดันเล่นเป็นหุ่นยนต์ตามนางเอกไปซะนี่

แสดงอารมณ์ไหนๆ ก็ใช้โทนเสียงเดียวตลอด

หนำซ้ำยังมาเจอนางร้ายอย่าง "ชาม"ไอยวริญท์ โอสถา นนท์ ที่มีเสียงเล็กแหลมไร้น้ำหนัก ยิ่งไปกันใหญ่

ดีว่าบทประพันธ์ "เคหาสน์สีแดง" ของ "ดวงดาว" เขาแข็ง

บวกกับได้คนเขียนบทระดับอาจารย์อย่าง ศัลยา สุขะนิ วัตติ์ มาร้อยเรียง เลยดึงให้ละครชวนติดตาม

ยิ่งมาผนวกกับ 3 นักแสดงรุ่นใหญ่มากฝีมืออย่าง ป้าเหน่ง-เมตตา รุ่งรัตน์,
น้าต้อย-ศิริพร วงศ์สวัสดิ์ และ อาแอ๊ด-โฉมฉาย ฉัตรวิไล ที่รับบทแม่ละม่อม,
แม่พิน และ แม่พร้อม 3 แม่บ้านแห่งเคหาสน์สีแดงมาเป็นตัวชูรสผนึกกำลังแสดง
ทำให้ละครมีชีวิตชีวาขึ้นทันตา

ทั้งลีลา การปะทะคารม เรียกว่าสอดคล้องกลมกลืน

เหน็บนิดหยิกหน่อย พอให้แสบๆ คันๆ ดูน่ารัก เป?นอรรถรสที่ทำให้ดูไม่เบื่อ

ไม่อย่างนั้นถ้าเจอแต่พระเอกนางเอกละก็

คงจะถูกเข้าใจผิดคิดว่าใช้แต่หุ่นยนต์มาแสดง


------------
จากไทยรัฐ 27 มีนาคม 2554
http://www.thairath.co.th/content/ent/159012
'แอนดริว' คืนจอควงคู่ 'มิ้นท์' ละครสุดคลาสสิก "เคหาสน์สีแดง"









'ชาร์ม''วีนแตก ร้ายไม่ยั้ง
14 ตุลาคม 2553 7:35 น




เรียกว่าเป็นนักแสดงสาวดาวรุ่งหน้าใหม่ที่น่าจับตามองจริงๆ สำหรับ ''ชาร์ม'' ไอยวริญท์ โอสถานนท์
ที่ล่าสุดได้มาลงประเดิมผลงานเรื่องแรกทางช่อง 3 กับบทบาทนางร้ายป้ายแดงใหม่แกะกล่อง
ในละคร ''เคหาสน์สีแดง'' ของผู้จัดรุ่นใหญ่ ''อาตู่'' นพพล โกมารชุน

ที่ต้องบอกเลยว่าในเรื่องนี้เธอต้องร้ายแบบสุดขั้ว ไม่ว่าจะเป็นท่าทางสีหน้าหรือแม้กระทั่งการแต่งตัว
ที่จี๊ดโดนใจซะจริงๆ และเมื่อเราได้มีโอกาสไปบุกกองละคร ''เคหาสน์สีแดง'' ที่บึงบัว ย่านบางใหญ่
เราก็ไม่พลาดที่จะไปสัมภาษณ์สาวชาร์มเกี่ยวกับบทบาทร้ายในเรื่องนี้ซะหน่อยว่าเป็นอย่างไรบ้าง

พูดถึงฉากวันนี้
วันนี้เป็นฉากที่นางเอกเขามาสวีตหวานแหววกัน มีดอกบัวบาน ทุกอย่างสวยงามมาก แต่อยู่ดีๆ เราก็โผล่
มานั่งอยู่กลางเรือแล้วเราก็ไม่พูดอะไรมากแค่บอกว่าถอยไปแล้วก็ตบๆ

เรียกว่าร้ายมากๆ
วันนี้ร้ายกว่าทุกครั้งค่ะ เพราะว่าคือปกติแล้วร้ายลึก แต่อันนี้เราสามารถร้ายเต็มที่ได้เพราะเป็นความฝันสนุกมากค่ะ

มีฉากตบพลาดบ้างไหม
ไม่ค่ะ ถ้าเป็นตบชาร์มจะกลัวมากเลยต้องวัดระยะเต็มที่ คือปกติถ้าเป็นละครเรื่องก่อนๆ ชาร์มจะโดนต
บ คราวนี้เราจะตบเขาอย่างเดียวเลย ไม่เคยโดนตบ ต้องวัดระยะเดี๋ยวเล็บไปข่วนเขา อาตู่บอกว่าต้องไว้
เล็บยาวนิดนึงและต้องทาสีแดงด้วย ถ้าพลาดไปข่วนหน้าเขาหนูเศร้าเลย

เป็นอย่างไรบ้างคะกับบทนางร้าย
สนุกมากเลยค่ะ ตอนแรกก็หนักใจนะคะ พอไปเรื่อยๆ สนุกดี เพราะว่าเราได้แสดงอารมณ์เต็มที่ ปลดปล่อยอารมณ์เต็มที่ด้วย อย่างฉากตบโอ้โห มันส์มากๆ

ฝากผลงานละครหน่อย
อย่างไรก็ฝากละครเรื่องเคหาสน์สีแดงด้วยนะคะ เพราะว่าทีมงานทุกๆ คนนักแสดงทุกๆ คนทุ่มเท
กันอย่างเต็มที่ เล่นจริงลุยจริง เปียกจริงด้วย สำหรับชาร์มเล่นเป็นร้ายเรื่องแรกด้วย อย่างไรฝากด้วยนะคะ

แหม!...เรียกว่าร้ายแบบสุดขั้วจริงๆ เลยนะจ๊ะชาร์ม แต่งานนี้สาวชาร์มเขาก็ยืนยันมาแล้วค่ะว่าร้ายในจอ
เท่านั้น เพราะนอกจากเธอคนนี้น่ารักและใจดีค่ะ เตรียมติดตามชมฝีมือการแสดงบทร้ายแบบเต็มๆ
เรื่องแรกของสาวชาร์มได้ในเร็วๆ นี้ ทางช่อง 3 กับละครดรามา ''เคหาสน์สีแดง'' จ้า

ภาพจากน้องบัวให้มา



-----------==
“แอนดริว” ไม่เข็ด ยังตะบี้ตะบันเป็นผู้จัดละคร ปัดโลกส่วนตัวสูงทำโสดสนิท

โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 12 สิงหาคม 2553 12:56 น.






“แอนดริว” ลั่นไม่ทิ้งงานผู้จัดละคร แม้ทำแล้วจะเจ๊งไม่ประสบความสำเร็จ เผยปีนี้ติดเหตุผลส่วนตัว ยัน
ปีหน้าได้เห็นผลงานแน่ ตอนนี้กำลังลุยถ่าย “เคหาสน์สีแดง” ชม “มิ้นท์” นางเอกใหม่แสดงเก่ง
พร้อมแย้มมีเรื่องใหม่ทาบ ส่วนเรื่องหัวใจปัดโลกส่วนตัวสูงทำโสดสนิท

หลังจากเคยลองชิมลางการเป็นผู้จัดละครมาได้พักหนึ่ง สำหรับพระเอกหนุ่มสุดติสท์ “แอนดริว เกรกสัน”
แต่ดูเหมือนฟีดแบคการตอบรับในแต่ละเรื่อง จะไม่ค่อยประสบความสำเร็จเท่าที่ควร ทำให้มีกระแสข่าว
ว่าผู้ใหญ่ช่อง 3 ชักจะไม่ปลื้ม และไม่อยากให้พระเอกหนุ่มทำละครอีก ซึ่งเรื่องนี้เจ้าตัวยันยังไงก็ไม่ทิ้ง
งานผู้จัดฯ แต่ปีนี้คงไม่ได้เห็นผลงานเพราะติดเหตุผลส่วนตัว

“โปรเจกต์ที่ผมเป็นผู้จัดฯเองคงต้องรออีกสักพักนึง ยังไม่คิดจะทิ้งครับ ตอนนี้ยังไม่ได้เสนออะไรไปเลย
ก็มีคิดไว้หลายแนว เอาไว้ให้ถึงเวลาแล้วเดี๋ยวค่อยว่ากันอีกทีดีกว่า คือมันมีเหตุผลบางประการที่ผมต้อง
รออะไรบางอย่างอยู่ เป็นเหตุผลส่วนตัวครับ มีความไม่สะดวกบางอย่างในเวลานี้ เรื่องสปอนเซอร์
ไม่เกี่ยวเลย ไม่ใช่กำลังหาคนเล่น ยังบอกไม่ได้ ยังไม่ถึงเวลา ก็คงไม่นานมากครับ คงปีหน้า”

ส่วนการแสดงละครเจ้าตัวเปรยกำลังถ่ายทำละครเรื่อง “เคหาสน์สีแดง” คู่นางเอกใหม่
“มิ้นท์ ณัฐวรา วงศ์วาสนา” ชมเปาะฝ่ายหญิงเล่นเก่ง พร้อมแย้มมีละครเรื่องใหม่ที่กำลังพูดคุยกันอยู่

“ตอนนี้ก็ถ่ายละครอยู่ครับ ถ่ายไปประมาณครึ่งเรื่องแล้ว แต่บทยังมาไม่หมด ถ้าบทมาหมดก็คิดว่
าคงใช้เวลาไม่นาน ก็มีเครียดบ้างเป็นบางช่วงนะ เวลาทำงานผมก็เครียดเป็นปกติ แต่ถึงเรื่องนี้จะเป็นการ
เอากลับมาทำใหม่แต่มันก็นานแล้วนะ นานมาก ผมยังจำไม่ได้เลยว่าผมได้ดูหรือเปล่า ไม่มั่นใจ
แต่ทราบว่าเป็นพี่แซม(ยุรนันท์ ภมรมนตรี) เล่น ส่วนกับน้องมิ้นท์ผมว่าเขาก็ไม่ใหม่นะ ผมว่าเก่งนะ
เป็นคนมีพรสวรรค์ ผมว่าเขาเล่นละครเก่ง นึกถึงตัวเองสมัยก่อน ถ้าด้วยอายุงานยังไม่ได้อย่างเขาเลยมั้
ง ดูเขามีความเข้าใจในงานที่เขาทำ ผมก็ไม่ได้สอนอะไรเขา มิบังอาจครับ(หัวเราะ)”

“หลังจากนี้ก็มีละครที่คุยกันอยู่อีก แต่ว่ารอให้มันแน่นอนเรียบร้อยก่อนค่อยว่ากันอีกทีดีกว่า ก็ขอบคุณ
ทุกคนครับที่ยังคิดถึงผม ก็ไม่ได้มีเหตุผลอะไรที่ทิ้งช่วงหายไป ถ้าดูย้อนกลับไปก็จะเป็นอย่างนี้
ตลอดนะ จังหวะและเวลาก็เป็นอย่างนี้เสมอ ผมก็ไม่รู้เหมือนกัน โดยไม่ได้ตั้งใจจริงๆ”

เผยตอนนี้หัวใจยังว่างโสดสนิท ไม่มีคุยศึกษากับสาวไหนทั้งนั้น

“ตอนนี้โสดครับ ผมไม่เคยบอกว่ามีใครนะ ไม่ได้บอก(หัวเราะ) ที่ผ่านมามันก็เป็นแค่ข่าวครับ
ณ เวลานี้ก็โสดสนิทเลย เป็นเพราะมีโลกส่วนตัวสูงหรือเปล่า ก็ไม่หรอกครับ”

-------------
ล้วงลึกๆ . . .จับถึงใจ ''มิ้นท์-ณัฐวรา'' ปลื้มใจ พักพิง ณ เคหาสน์สีแดง ! ? !
11 สิงหาคม 2553 7:33 น.


เดินเครื่องถ่ายทำกันเต็มพิกัด แต่ไม่รู้จะได้ชม ได้ดูกันภายในปีหน้าหรือเปล่า สำหรับละครเรื่อง
''เคหาสน์สีแดง'' ที่ค่าย ''เป่า จิน จง'' ของ ''เฮียตู่'' นพพล โกมารชุน มาเอาปรุงใส่มะนาวนิดใส่พริก
หน่อย เพื่อให้รสชาติถูกปาก ถูกตาโดนใจคอละครอีกครั้ง

โอ๊ย...ยยย! อยากดูเร็ว อยากดูเร็วๆ แต่ระดับเฮียตู่มีหรือ จะเร่งทำละครออกมาลวกๆ เพื่อตอบสนอง
ความต้องการของเราคนดู แต่เจ้านี้เค้าพิถีพิถันรายละเอียดทุกเม็ด รับรองคุ้มค่าการรอเป็นแน่แท้เจ้า!

เหลียวซ้าย ชายตาแลขวา มองหน้า อ้าว...วว นี้เราอยู่ ณ กองถ่ายละคร ''เคหาสน์สีแดง'' หรือนี่
เดินเสสรวลไปมาหา เอ้า! นั้นมันน้องนางสาว ''มิ้นท์'' ณัฐวรา วงศ์วาสนา นางเอกสาวของท้องเรื่อง
แต่ชุดงามเพียบพร้อมมาแต่ไกล เออช่างเข้ากันดี ไม่ขัดแย้ง เลยตรงปรี่เข้าไปหา ถามไถ่ข่าวคราวบ้าง
นะจ๊ะ
สาวมิ้นท์เป็นปลื้มได้ร่วมงานกับพระเอกอย่าง หนุ่มแอนดริว เกร็กสัน ชมเปราะ พี่เค้าทำการบ้านมาดี
เอ้า! สาวมิ้นท์ชูนิ้วโป้ง ให้เล้ย...ยย
''ดีค่ะ พี่แอนดริวเค้าเป็นคนที่แบบตั้งใจกับการทำงาน เวลาเค้ามาทำงาน ก็เหมือนเค้าทำการบ้านมาจาก
บ้านแล้ว ซึ่งพร้อมทำงานได้เลย บอกสิว่าฉากไหน อะไรยังไง มิ้นท์ก็ไม่ค่อยจะได้เห็นพี่เค้าถือบทซัก
เท่าไหร่ บทจะยาวแค่ไหนพี่เค้าก็จำได้หมดเลยค่ะ''

แล้วพ่อหนุ่มแอนดริว พระเอกมากฝีมือ เค้าสอนอะไรให้ไหมหล่ะ
''มีค่ะ พี่เค้าก็สอนอะไรเล็กๆ น้อยๆ อะไรที่บอกได้ก็บอกค่ะ''

ได้เจอะกับสาว ''ชาม'' ไอยวริญท์ โอสถานนท์ ที่ต้องปะทะ เป็นชามเธอเป็นตัวร้าย แถมร้ายมากอีกด้วย
งานนี้สาวมิ้นท์แจงมาว่า เค้าเป็นเพื่อนกันนะตัวเอง
''ชามกับมิ้นท์เป็นเพื่อนกันนะ ก็ดีค่ะ มีพูดจาแบบเสียดๆ แล้วก็จิกๆ ตา''

อาตู่ กำกับอย่างนี้ ได้ทำงานด้วย แล้วเป็นยังไงบ้างเวลาเทกยับ!
''เราจะเป็นคนตกใจเอง อาตู่ก็บอกว่าใจเย็นๆ ก็จะแบบเหมือนย้ำที่เราไม่ได้ค่ะ'

===============
เหตุเกิดที่ 'เคหาสน์สีแดง'' 'ชาม'' บริการ 'แอนดริว'' น้ำกระจาย
08 สิงหาคม 2553 10:19 น.







ลั้นลา ลั้นลา...ชีวี มีชีวา จะห่อเหี่ยวไปทำไย สดใสร่าเริงให้กระชุ่มกระชวยดีกว่า นะตัวเธอทั้งหลาย
ที่ดูซาบซ่าเยี่ยงนี้ ไม่ใช่เพราะอะไรมากมาย แต่วันนี้ เราสยามดารามีเบื้องหลัง ที่ไม่ใช่เบื้องหลัง
ขาวจั๊วะของสาวๆ ทั้งหลาย แต่กลับกลายเป็นเบื้องหลังละคร ของค่ายละครฝีมือเจ๋ง ''เป่า จิน จง''
ทายสิ ทายเอ่ย ว่าเรื่องอะไร

เราๆ มาเฉลย ''เคหาสน์สีแดง'' ที่วิกสามพระรามสี่ เค้าจัดนำเสนอมิใช่น้อย เพราะเอากลับมาทำใหม่
เวอร์ชั่นนี้ นักแสดงฝีมือดีเพียบ ไม่น้อยหน้าไปกว่ารุ่นแรกที่เล่นเอาไว้ แถมสร้างชื่อเสียงซะดังทะลุจอ
ขนาดนั้น มีหรือเวอร์ชั่นใหม่จะยอม...เอ้า! อย่ารอช้าไปดูกันดีกว่าว่าอะไรยังไงกันจ๊ะ

เรื่องของเรื่อง มันเป็นฉากที่เสาวรส (ชาม) แฟนที่ตีตัวออกห่าง แต่พยายามจะกลับมาหาคนคุ้นเคย
อย่างรุจ (แอนดริว) แต่รุจกลับนอนโทรมเพราะอาการป่วย งานนี้เข้าทางของเสาวรส เลยจัดแจง
ปรนิบัติอย่างเต็มเหนี่ยว แต่ด้วยความที่เสาวรสเป็นลูกคุณหนู เรียนจบเมืองนอก พูดไทยคำอังกฤษ
คำ ไม่เคยดูแลใคร แทนที่จะปรนิบัติ กลับเป็นการสร้างเรื่องรำคราญให้กับรุจไม่ใช่น้อย เหตุเพราะทำอะไร
ไม่เป็นซักอย่าง ทั้งๆ ที่ก็ไม่ยากอะไรนักหนา ทั้งป้อนข้าว ป้อยา เช็ดตัว แต่ไม่ได้เรื่องซักอย่าง แต่แทน
ที่รุจจะเหวี่ยง และวีนใส่ อย่างว่า คนเคยคุ้นเคยกัน จะว่าลงได้อย่างไร

งานนี้ หนุ่มแอนดริว ไม่ต้องพูดอะไรมากมาย แค่นอนเฉยๆ จนแทบจะหลับ เพราะหน้าที่ปรนนิบัติเป็น
เรื่องของสาวชาม ด้วยความที่หนุ่มแอนดริวต้องเป็นฝ่ายรำคาญ เลยทำให้สาวชามแอบเกร็งพอตัว
เพราะกลัวจะเทกหลายรูป แต่ด้วยความเป็นมืออาชีพของสาวชามมีหรือจะเทกยับ แต่ดูท่าจะเกร็ง
ไปนิดนะสาวชาม

แล้วเพราะเหตุใดเล่า ถึงเกร็งขนาด...ดด

''ตื่นเต้นน่ะค่ะ เพราะว่ามันเป็นฉากที่พยายามให้แต่ละอย่างมันผ่านไปได้ภายในหนึ่งเทป เพราะว่า
ถ้าหลายเทก แล้วมันเป็นฉากที่เราต้องทำน้ำหก เค้าก็ต้องมาเช็ดแล้วเช็ดอีก คือเสาวรสต้องการใ
ห้หมอรุจกลับมารักเค้าเหมือนเดิม หลังจากที่เห็นบ้านอันใหญ่โตของเค้า เราก็หลงรักบ้านของเค้าเลย
ทันทีค่ะ แล้วก็ต้องคว้าตัวเค้ามาให้ได้ ให้เค้ากลับมารักเราเหมือนเดิม เหมือนตอนที่เราเคยอยู่ด้วยกัน
ที่อังกฤษค่ะ เมื่อตอนต้นเรื่อง''

เดินเครื่องเต็มกำลัง ถ่ายทำกันเต็มที่ เสร็จเมื่อไหร่ เตรียมตั้งตารอดูได้เล้ย...ยย ระดับเป่า จิน จง
ไม่เคยทำให้ผิดหวังอยู่แล้วจ้า
**-------**


--------**


ภาพและข่าวจากน้องบัวหามาให้คะ







000000000000000000000000000

http://www.siamdara.com/ClipVDO/100503_739.html


ขอบใจคะน้องบัวสำหรับข่าวนี้



000000000000000000000000000

http://www.komchadluek.net/detail/20100505/57968/%E0%B8%95%E0%B8%B9%E0%B9%88%E0%B8%88%E0%B8%B1%E0%B8%9A%E0%B9%81%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B9%8C%E0%B8%8A%E0%B8%B2%E0%B8%A1%E0%B8%9B%E0%B8%A3%E0%B8%B0%E0%B8%8A%E0%B8%B1%E0%B8%99%E0%B9%83%E0%B8%99%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B9%8C%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B9%81%E0%B8%94%E0%B8%87.html

'ตู่' จับ 'แอนดริว-มิ้นท์-ชาม' ประชันใน 'เคหาสน์สีแดง'

คมชัดลึก :"ตู่" นพพล โกมารชุน เผยเหตุผลเลือก "แอนดริว-มิ้นท์-ชาม" ลง "เคหาสน์สีแดง"
รับหนักใจเรื่องหาสถานที่ถ่ายทำมากที่สุด

เป็นละครเก่า ที่นำมาเล่าใหม่อีกหนึ่งเรื่อง สำหรับ เคหาสน์สีแดง ที่ครั้งนี้ เป่าจินจง
เลือกเอา แอนดริว เกร้กสัน มาประกบคู่นางเอกใหม่อย่าง "มิ้นท์" เพชรา วงศ์วาสนา
และมี "ชาม" ไอยวริญท์ โอสถานนท์ รับบทนางร้ายครั้งแรก โดย "ตู่" นพพล
บอกเหตุผลของการเลือกนักแสดงครั้งนี้

"สำหรับนักแสดงนั้น เราเลือกแอนดริว เพราะเรื่องแรกที่แอนดริวมาทำงานกับเรา
เขาเข้ากับทีมงานได้ดีมาก แล้วผู้ใหญ่ก็อยากให้เป็นเขาด้วย บทนี้พระเอกต้องขรึม
มีความรักซ่อนเร้น ก็คิดว่าเขาน่าจะทำได้ดี ส่วนมิ้นท์นั้น ถือว่าเป็นนโยบายของคุณประวิทย์
ที่อยากให้เป็นนักแสดงใหม่ แม้ว่ามิ้นท์ จะผ่านการเกลามาจากคุณหนุ่ม (กฤษณ์ ศุกระมงคล)
แล้ว แต่ก็ยังถือว่าใหม่มากๆ เพราะเรื่องนี้เขาต้องเปลี่ยนคาแรกเตอร์จาก เงารักลวงใจ
มาเป็นสาวเศร้า หวาน เล่นดนตรีไทย ถูกพระเอกโขลกสับ แต่เราก็ไม่ได้หนักใจกับตัวมิ้นท์
เพราะเขาก็เคยผ่านงานมาบ้าง ส่วนชาม ที่เลือกเขามารับบท เสาวรส เพราะดูท่าทางเขา
น่าจะเล่นได้ เป็นนางร้ายที่ไม่ได้กรี๊ดๆ แต่เป็นความหยิ่งในตัว เราเห็นว่าคนไหนเหมาะสมกับบท
เราก็เลือกมา ไม่เกี่ยวกับว่าจะปลอบใจเขาจากละครเรื่อง ฟ้าให้เรามารักกัน
ไม่ได้ออกอากาศหรอก" ตู่พยายามอธิบาย

ส่วนที่เลือกบทประพันธ์ดังกล่าว กลับมาทำอีกครั้งนั้น บอสใหญ่เป่าจินจงกล่าวว่า
อยากจะลองปรับเปลี่ยนแนวดูบ้าง หลังจากที่มีละครบู๊มาแล้วใน "มงกุฎแสงจันทร์"

"ความน่าสนใจของเรื่องนี้ คือเป็นเรื่องรักหวาน เราบู๊มาแล้ว ก็อยากจะปรับแนวบ้าง
สำหรับค่าใช้จ่ายในการทำละครเรื่องนี้ ก็หมดไปเยอะเหมือนกัน แต่ก็ได้ทางฝ่ายศิลป์ของช่อง 3
มาช่วย แต่ไม่ใช่ละครเร่งออกอากาศ เพราะว่างานละครพีเรียด ช่อง 3 จะค่อนข้างปล่อย
แต่สิ่งที่เรากังวล ก็คือโลเกชั่น ค่อนข้างหายากมาก วิ่งมาหมดแล้วทั่วประเทศไทย
ไปมาหลายแห่ง ไปไกลถึงนครพนมกันเลย งานต้องละเมียด เพราะเป็นละครพีเรียด
และเป็นละครหวานๆ" ตู่กล่าวสรุป



>>>>>>>>>>>>>>>>>>
วันอังคารที่ 4 พฤษภาคม 2553
คมชัดลึก > บันเทิง > ข่าวทั่วไป


http://www.komchadluek.net/detail/20100504/57833/%E0%B9%82%E0%B8%95%E0%B9%89%E0%B8%81%E0%B8%B4%E0%B9%8A%E0%B8%81%E0%B8%A5%E0%B8%B9%E0%B8%81%E0%B8%AA%E0%B8%B2%E0%B8%A7%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B8%81%E0%B8%81%E0%B8%B2%E0%B8%A3%E0%B9%80%E0%B8%A1%E0%B8%B7%E0%B8%AD%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B8%AD%E0%B8%B8%E0%B8%9A%E0%B8%99%E0%B8%B1%E0%B9%88%E0%B8%87%E0%B9%81%E0%B8%97%E0%B9%88%E0%B8%99%E0%B8%81%E0%B8%B3%E0%B8%81%E0%B8%B1%E0%B8%9A.html
โต้กิ๊กลูกสาวนักการเมือง'แอนดริว'อุบนั่งแท่นกำกับ


คมชัดลึก :แอ นดริว เกร้กสัน ยันลูกสาวนักการเมืองเป็นเพื่อนของ "แว่น"
ผู้จัดการส่วนตัว แย้มสาวคนไหนอยากเข้ามา ต้องรับสภาพกัดก้อนเกลือกินได้
ปิดปากงานละครและนั่งแท่นผู้กำกับ เหตุกลัวการเปลี่ยนแปลง

เป็นพระเอกที่ใครๆ ก็หาว่าชีวิตลึกลับซับซ้อน โดยเฉพาะเรื่องความรัก มักไม่ค่อยได้ยิน
จากปากเท่าไหร่นัก แต่ล่าสุดมีข่าวกับลูกสาวนักการเมือง ทั้งนี้เมื่อถามไปยัง แอนดริว
พระเอกคนดังยืนยัน ว่าเป็นแค่เพื่อนเท่านั้น

"คนที่เคยเป็นข่าว จริงๆ เขาเป็นเพื่อนของคุณแว่น (ผู้จัดการส่วนตัว) รู้จักนานแล้ว
แต่เป็นแค่เพื่อนกัน ผมไม่มีแฟนมานานแล้ว จริงๆ ก็ไม่เคยตั้งเป้าเลยนะว่าต้องแต่งงาน
มันเป็นแค่การประกาศให้ทุกคนรับรู้ และให้เกียรติฝ่ายหญิง (มีคนเข้ามาบ้างไหม)
ไม่ค่อยเจอนะ แต่ไม่ได้มีโลกส่วนตัวเยอะ ไม่รู้สิ เราเป็นคนปกตินะ เขาบอกว่าผมติสท์แตก
ติสท์แตกเป็นแบบนี้เองเหรอ ผมยังไม่เคยมองตัวเองเป็นอาร์ติสท์เลย แล้วมาเรียกผมติสท์แตกแล้ว

ถ้าจะมีใครสักคน ก็คงต้องเป็นคนยอมกัดก้อนเกลือกินกับผมได้ ยุคสมัยนี้คงหายากแล้วล่ะผมว่า
เพราะผมไม่มีภาระ ไม่มีหนี้ ผมเลยไม่ได้เดือดร้อนว่าเงินต้องสำคัญ จริงๆ มันก็มีบางอารมณ์
ที่อยากมีครอบครัว แต่ไม่ใช่ว่าอยากจะมีลูกอะไรขนาดนั้น แต่คงเป็นเพราะเห็นของเพื่อน
ก็จะมีบ้างแวบๆ แต่จะเป็นเมื่อไหร่ก็บอกไม่ได้เหมือนกัน เพราะชีวิตผมชอบมีอะไรเซอร์ไพรส์เ
รื่อยเลย ยังไงถ้ามีจะบอกแน่นอน คงไม่กล้าปิดหรอก" แอนดริวกล่าว

เห็นกลับมาร่วมงานละครเรื่อง เคหาสน์สีแดง กับ เป่าจินจง อีกครั้ง เลยอดไม่ได้ที่จะถามว่า
บริษัทของแอนดริวเอง จะผลิตละครอีกหรือไม่ พระเอกหนุ่มเผยว่า

"ไว้ถ้ามีอะไรแน่นอน ขออนุญาตบอกอีกทีแล้วกัน ช่วงว่างก็อ่านโน่นอ่านนี่ ผมชอบคิดมัน
ก็จะอดคิดไม่ได้ อยู่ว่างๆ ก็จะคิด แต่เสนอผู้ใหญ่หรือยัง เอาไว้ให้มันแน่นอนก่อนดีกว่า (ยิ้ม)
ผมยังไม่อยากบอกก่อน เดี๋ยวบอกแล้วไม่ได้ทำ เพราะมันมีความเปลี่ยนแปลงเกิดขึ้นได้ตลอด
(คิดทำรายการไหม) ก็มีคิดไว้ แต่ไว้ให้ชัวร์ก่อนแล้วกัน (เป็นคนไม่เร่งรีบ?)
ดูเหมือนจะเป็นอย่างนั้นนะ บางทีคิดจะทำ ก็จะเอาเดี๋ยวนั้น แต่บางทีก็รออยู่นั่นแหละ

ที่ผ่านมาได้ทำงานละครมาบ้าง ก็จะเห็นอุปสรรคว่าทำงานกับคนหมู่มาก
ปัญหามันก็จะเยอะตาม ทำงานร่วมกัน บางทีก็จะมีกระทบกระทั่งบ้าง มีอะไรเต็มไปหมด
ยิ่งทำละครด้วยแล้ว อุปสรรคร้อยแปด ถึงแม้จะเตรียมงานมาแล้ว แต่ก็แก้ไขกันไปได้
(จะนั่งแท่นกำกับเองไหม) ถ้ามีก็ดี ไว้ให้ชัวร์แล้วจะบอกอีกทีแล้วกัน เขาว่าผมชอบซุ่ม
แต่ยังไม่บอกดีกว่า เอาไว้ให้แน่นอน แล้วจะแจ้งให้ทราบ จริงๆ คิดไว้เยอะแหละ
แอนดริวกล่าวสรุป

****************************
http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9530000061073
ผู้จัดการ Online | หน้าแรกบันเทิง | ดารา/ละคร/ทีวี
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 4 พฤษภาคม 2553 16:59 น.

ม็อบแดงป่วน “ตู่” เลื่อนเปิด "เคหาสน์สีแดง" แฮปปี้ได้ “แอนดริว” ร่วมงานต่อ


“ตู่ นพพล” แฮปปี้ ได้ “แอนดริว” ร่วมงานต่อ ประกบนางเอกใหม่ "มิ้นท์" ใน “เคหาสน์สีแดง”
เผยไม่กดดันทำละครรีเมค แต่หนักใจเรื่องหาโลเกชั่น เพราะเป็นละครพีเรียด
แจงเหตุเลื่อนเปิดกล้อง เพราะติดม็อบเสื้อแดง ร้านตัดเย็บเสื้อผ้านักแสดงไม่ทัน
แย้มเตรียมละครใหม่เสนอวิก 3 อีกเพียบ

ขึ้นชื่อว่าเป็นค่ายละครที่สร้างสรรค์แต่งานคุณภาพ สำหรับค่ายเป่าจินจงที่
นำโดยหัวเรือใหญ่อย่าง "ตู่ นพพล โกมารชุน" ที่ล่าสุดหลังหันมาซบช่อง 3
"มงกุฏแสงจันทร์" จนได้รับเสียงตอบรับดีเกินคาด ผู้กำกับมากฝีมือก็จ่อเปิด
กล้องละครรีเมคเรื่อง "เคหาสน์สีแดง" ต่อทันที โดยยังคงใช้บริการพระเอกติสท์แตก
"แอนดริว เกร็กสัน" เหมือนเคย และทำตามนโยบายของช่องหนุนนางเอกใหม่
"มิ้นท์ ณัฐวรา วงศ์วาสนา" ที่เคยผ่านงานแสดงเรื่อง "เงารักลวงใจ"
ซึ่งเจ้าตัวก็แฮปปี้กับคู่พระ-นางเป็นอย่างมาก เผยไม่กดดันที่ต้องมาทำละครรีเมค
บอกเรื่องหาโลเกชั่นในการถ่ายทำยังยากกว่า

ที่มาลงตัวพระเอกว่าเป็นแอนดริว คือหลังจากที่เราเคยได้ร่วมงานใน
มงกุฏแสงจันทร์ เขาเองก็ค่อนข้างจะร่วมงานกับทีมงานได้ดีมาก
ผู้ใหญ่เองก็อยากให้เขามีงาน เราก็อยากได้แอนดริวมาเป็นพระเอกต่อเนื่องอีกสักเรื่องหนึ่
ง แต่ว่าเปลี่ยนรูปแบบจากที่เขาเคยเล่นเมื่อเรื่องก่อน ให้เขาเล่นเป็นพระเอกที่ขรึมและดุ
ซึ่งคิดว่าแอนดริวจะทำตรงนี้ได้ดี"

"ส่วนน้องมิ้นท์ ทางผู้ใหญ่บอกว่าให้ขึ้นไปดูนักแสดงของช่อง ซึ่งเป็นนโยบาย
โดยตรงของคุณประวิทย์ (มาลีนนท์) ที่บอกกับผู้จัดทุกคนเลยว่า อยากให้สนับสนุนนัก
แสดงหน้าใหม่ ให้ขึ้นไปช่วยกันเลือกแล้วมาทำงานกัน เรื่องนี้เลยได้น้องมิ้นท์ซึ่งถือ
ว่าใหม่เลย ถึงแม้ว่าจะได้ขัดเกลามาแล้วหนึ่งเรื่อง แต่พอมาถึงเรื่องนี้เขาต้องเปลี่ยน
คาแรคเตอร์อย่างมาก ต้องมาเศร้า แต่มิ้นท์ได้เปรียบตรงที่เคยผ่านงานแสดงมาแล้ว
การปรับเลยไม่ยาก”

“เรื่องกดดันในการทำงานไม่มีหรอกครับ (หัวเราะ) กำกับมาเกือบ 20 ปีแล้ว
เพราะฉะนั้นทุกเรื่องเราตั้งใจทำให้ดีที่สุด ผมถือว่าใครทำก็จะมีไอเดียสมัยที่เป็น
ของสถานีอื่น ก็จะเป็นสไตล์ของเขา แต่ผมมาทำก็จะมีกลิ่นอายของผมจะเป็นอย่างนั้น
มากกว่า การถ่ายทำก็ไม่ได้เร่งอะไร
สิ่งที่เรากังวลมากที่สุดคือเรื่องโลเกชั่น หายากมาก ไม่ใช่หายากธรรมดา
หาทั่วประเทศเลย ต้องหาหลายแห่ง ไปหมดเลยจังหวัดไหนที่มีสถานที่สวยๆ มาเสนอ
เราก็ไปดูที่ไกลที่สุดตอนนี้ไปถึงนครพนม เขาบอกว่ามีศาลากลางสวยมาก จวนผู้ว่าฯ
สวย เราก็ไปดูตรงนั้นว่า ความเป็นไปได้ที่จะใช้ถ่ายมีมากน้อยแค่ไหน ก็ต้องเก็บทุกรายละเอียด”

เผยเหตุเลื่อนเปิดกล้อง เพราะร้านที่ตัดเสื้อผ้านักแสดงติดม็อบเสื้อแดง ทำให้เย็บไม่ทัน

“เราจะเริ่มถ่ายทำจริงๆ วันที่ 13 พ.ค.นี้ เพราะคิวนักแสดงจะไปลงตัวช่วงนั้น
แล้วสถานการณ์บ้านเมืองไม่ค่อยจะดี ยิงกันอะไรกัน ยิ่งเฉพาะเรื่องเสื้อผ้าทีแรก
นึกว่าวันนี้จะไม่ทัน เพราะร้านพี่ไข่อยู่สวนลุมพินี (หัวเราะ) กว่าจะเอาเสื้อออกมาได้
เลยต้องไปเปิดกล้องวันที่ 13 นักแสดงก็มืออาชีพทั้งนั้น ความจริงต้องเริ่มถ่ายแล้ว
แต่เสื้อผ้าไม่ทันจริงๆ ไม่รู้ว่าช่างเข้าไปทำงานได้หรือเปล่า ก็ต้องรอ”

แย้มมีแพลนเสนอละครใหม่กับช่อง 3 หลายเรื่อง เพราะสั่งให้ลูกน้องกระจาย
ไปอ่านนวนิยาย เพื่อจะได้ไอเดียใหม่ๆ

“จบจากเรื่องนี้ก็ยังไม่ได้วางเรื่องอะไร แต่เตรียมเสนอไว้หลายเรื่องแล้ว
ตอนนี้พนักงานคนไหนที่ว่างก็จะจับให้อ่านหนังสือให้หมดเลย ให้ไปอ่านนวนิยาย
คนละเรื่องแล้วมาเสนอ ต้องมาเล่าให้ฟัง คือผมต้องวิ่งไปดูโลเกชั่น เราเองก็อยาก
ได้ไอเดียด้วย ให้ผมอ่านให้คุณนุช (ปรียานุช ปานประดับ) อ่านไอเดียก็จะซ้ำ
เลยเปิดโอกาสให้น้องๆ ทำบ้าง เขาอาจจะมีมุมมองที่เรามองไม่เห็น แล้วน่าสนใจกว่าเรา”

<<<<<<<<<<<

http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRJM01qYzBOVGc1T0E9PQ==&catid=0102

วันที่ 02 พฤษภาคม พ.ศ. 2553 เวลา 03:22 น. ข่าวสดออนไลน์

แอนดริวไม่กลัว รุ่นน้องแซงหน้า
พระเอก แอนดริว เกร้กสัน หลังจากมีผลงานเรื่องมงกุฎแสงจันทร์แล้ว
ล่าสุดหวนร่วมงานกับค่ายเป่าจินจงต่ออีกเรื่อง ใน“เคหาสน์สีแดง”
ประชันนางเอกมือใหม่ช่อง 3 มิ้นท์-ณัฐวรา วงศ์วาสนา จากละครเงารักลวงใจ



แอนดริว กล่าวว่า กับน้องมิ้นท์ เพิ่งเจอกันวันนี้วันแรก เรื่อง
เป็นป๋าดัน ยินดีครับ ดันใครได้ ก็ขอให้ดันคนอื่นเขาดันเรามา
เยอะแล้ว แต่เอาตัวเองให้รอดก่อนดีกว่า



นักข่าวถามว่า ช่วงเวลาที่ผ่านมาหายไปไหน แอนดริว
กล่าวว่า อยู่บ้านทำอะไรเหมือนทุกๆคน กับบริษัททำเกี่ยวกับ
ละครยังเปิดอยู่ ที่ทำตอนนั้นเหมือนทำเฉพาะกิจแล้วก็ทิ้งช่วง
ไปและมาทำอีกเรื่องหนึ่ง ไว้ถ้ามีอะไรที่แน่นอนบอกอีกที ยัง
ไม่อยากบอกอะไรก่อนเดี๋ยวบอกแล้วไม่ได้ทำ เหมือนอย่าง
ละครคนชอบถามว่าเรื่องต่อไปจะเล่นเรื่องอะไร ไม่กล้าบอก
เพราะมีการเปลี่ยนแปลงได้ตลอด มีคิดไว้ว่านอกจากละคร
แล้วจะทำอะไร ไว้ให้ชัวร์ก่อนค่อยบอก



ถามว่า ในส่วนของงานแสดงทำไมทิ้งช่วงแต่ละเรื่องนาน
แอนดริวกล่าวว่า “ไม่รู้เหมือน กัน ตอบไม่ได้ ผมไม่เคยวาง
แพลนไว้ตั้งแต่ไหนแต่ไร ครั้งสุดท้ายที่นานที่สุด 3-4 ปี ก่อน
หน้านั้นก็เคยมีทิ้งช่วงนานเป็นปีเหมือนกัน อยากจะรับงาน
เยอะๆเหมือนกันแต่สุดท้ายก็ออกมาเป็นแบบนี้ทุกที บางคนก็
บอกผมเรื่องเยอะ เลือกเยอะ อย่าว่าแต่งานผมเลยให้ไปจ้าง
ทุกคนทำอะไรก็แล้วแต่ มีใครบ้างที่ไม่เลือก



ถามว่า น้อยใจหรือเปล่า? พระเอกฝีมือดี กล่าวว่า “ไม่ครับ
บางคนบอกผมว่าเลือกเยอะ มีใครไม่เลือกบ้าง ผมคงเป็นที่รู้
กันเท่านั้นเองบางคนเขาเลือกกันคนอื่นไม่รู้ ผมคิดถึงแฟนๆ
ทุกคน อยากจะเล่นละครให้ดูมากกว่านี้เหมือนกัน



นักข่าวถามอีกว่า กลัวเด็กใหม่ดังแซงหน้าหรือไม่ แอนดริว
กล่าวว่า “ดีครับ ขึ้นมากันเยอะๆ อย่าไปกลัว เรื่องอายุมากขึ้น
ผมก็หวังไว้ว่าบ้านเราคงเหมือนเมืองนอกสักวัน ที่ยิ่งแก่งาน
ยิ่งเยอะก็หวังว่า ได้แค่ไหนก็แค่นั้นไม่เป็นไร”



นักข่าวเปลี่ยนถามเรื่องส่วนตัว ว่า มีคนรู้ใจหรือยัง แอนดริว
กล่าวว่า “ยังไม่มีใคร คนที่เคยเป็นข่าว(ลูกสาวนักการเมือง)
รู้จักกันตั้งแต่เล่นละคร “ไม้เมือง” เป็นเพื่อนกัน เคยเจอคนที่
ใช่เหมือนกันแต่ก็เท่านั้นไม่มีอะไรเกิดขึ้นต่อไปแล้วก็จบไปนาน แล้ว



ผมไม่เคยตั้งเป้าไว้ว่าจะแต่งงาน ถ้าจะแต่งคงเป็นแค่การ
ประกาศให้ทุกคนรู้แล้วก็ให้เกียรติฝ่ายหญิง เรื่องโลกส่วนตัว
เยอะ สำหรับผมไม่เยอะหรอก รู้สึกว่าตัวเองปกติ ถ้าบอกว่า
ติสต์แตก เรายังไม่เคยมองว่าเราเป็นอาร์ตทิสต์ เลยจะมาติสต์แตกแล้ว



ถามว่า สาวแบบไหนที่พิชิตใจได้ แอนดริว กล่าวว่า “คงเป็น
คนที่ยอมกัดก้อนเกลือกับผมได้ซึ่งสมัยนี้คงหายาก อาจมี
บ้าบางอารมณ์ที่คิดอยากมีลูก เพราะเห็นเพื่อน เห็นคนอื่นมี
แล้วก็เลยอยากบ้าง เมื่อไหร่บอกไม่ได้ชีวิตผมชอบมีอะไร
เซอร์ไพรส์ตัวเองเรื่อย”


000000000000000


http://www.khaosod.co.th/view_newsonline.php?newsid=TVRJM01qYzBOelF4TUE9PQ==
มิ้นท์รับคำติ ไม่คิดเทียบพี่อั้ม-มิน

นางเอกใหม่วิก 3 มิ้นท์-ณัฐวรา วงศ์วาสนา จากละครเงารักลวงใจ
ให้สัมภาษณ์ถึงฟีดแบ็กของละครเรื่องนี้ ว่า “ตอนนี้ไปไหนก็มี
คนทักแล้วว่า เป็นข้าวหอม มิ้นท์เองก็เตรียมรับทั้งคำติและคำ
ชม อย่างกระแสในด้านลบมิ้นท์ก็ฟังเอาไว้ว่าใครคิดยังไง แต่
อย่าเอามาใส่ใจ เพราะเรายังมีอะไรต้องทำเยอะ ถ้าเอาเรื่อง
พวกนี้มาคิดมาก มันบั่นทอนจิตใจตัวเองมากกว่าและทำให้ตัว
เองไม่มีความสุขด้วย”



ถามถึงกระแสในอินเตอร์เน็ตที่ว่าพระเอกนางเอกเล่นแข็ง
มาก มิ้นท์กล่าว ว่า เป็นละครเรื่องแรกค่ะ ยังไงก็ขอโอกาส
เพราะมิ้นท์ไม่มีพิ้นฐานด้านการแสดงมาก่อนเลย ตอนเล่นรู้สึก
กดดันอยู่แล้ว เลยยิ่งทำให้แข็งเข้าไปใหญ่ ละครออกออากาศ
มิ้นท์ก็ได้ดูตัวเองและรู้สึกว่ายังต้องมีอะไรปรับปรุงอีก เยอะ”



ถามถึงเรื่องที่ว่า มิ้นท์หน้าเหมือนพี่อั้ม(พัชราภา) เยอะ เลยมี
คนเอาไปเปรียบเทียบกับมิน พีชญา นางเอก ปลาบู่ทอง ของ
ช่อง 7 ที่เหมือนพี่อั้มด้วยเช่นกัน

มิ้นท์กล่าวว่า “แล้วแต่คนมองนะคะ แต่มิ้นท์เองไม่ได้คิดว่า
เราต้องเปรียบเทียบกับใคร เพราะในวงการไม่มีใครมาแทน
ใครได้ ต่างคนก็ต่างเป็นตัวของตัวเองทั้งนั้น”




ส่วนละครเรื่องใหม่ เคหาสน์สีแดง
ที่ประกบแอนดริว เกร้กสัน
มิ้นท์ กล่าวว่า “ตื่นเต้นค่ะ ตื่นเต้นตั้งแต่รู้ว่าจะต้องเล่นพีเรียด
และรู้ว่าได้ร่วมงานกับอาตู่(นพพล) และพอรู้อีกว่าได้เล่นกับพี่
แอนดริวทำให้เราต้องทำการบ้านเยอะๆ เพราะละครเรื่องแรก
เงารักลวงใจ นักแสดงส่วนใหญ่จะเป็นเพื่อนๆ กัน แต่เรื่องนี้
มิ้นท์มาทำงานคนเดียวก็ต้องทำการบ้านเยอะกว่าเดิม สำหรับ
พี่แอนดริวมิ้นทืเคยดูละครที่พี่เขาเล่นมาหลายเรื่องแล้ว รู้สึก
ว่าพี่เขาเป็นคนที่ทำงานจริงจัง ฉะนั้นเรื่องนี้มิ้นท์จะมาเล่นๆ
เหมือนเรื่องแรกไม่ได้ เราต้องพยายามทำความเข้าใจบทเพื่อ
ไม่ให้คนอื่นต้องเสียเวลาเพราะเรา แล้วในเรื่องมิ้นท์ได้เรียน
เพิ่มเติมหลายอย่าง เรียนสีซอ เรียนพายเรือ เรียนร้อยมาลัย
เต้นลีลาศ ถือว่าท้าทายความสามารถของตัวเองดีค่ะ”



ถามว่า เกร็งบ้างหรือไม่ และกลัวโดนเขม่นในฐานะนางเอก
ใหม่ของช่อง 3 หรือไม่ มิ้นท์ กล่าวว่า มีเกร็งบ้าง มิ้นท์ก็จะ
พยายามทำให้ดีในแบบที่อาตู่วางไว้ ส่วนเรื่องเขม่นไม่กลัวค่ะ
เพราะนางเอกที่ช่องแต่ละคนก็มีงาน ฉะนั้นไม่แย่งไม่ทับไลน์
กันอยู่แล้วค่ะ



>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>>

http://www.manager.co.th/Entertainment/ViewNews.aspx?NewsID=9530000060425

แอนดริว” ปัดกิ๊กลูกอดีตรมต. แย้มสเปคต้องทนกัดก้อนเกลือกินได้
โดย ASTVผู้จัดการออนไลน์ 2 พฤษภาคม 2553 15:39 น.

“แอนดริว” คืนจอลง “เคหาสน์สีแดง” ปัดทำตัวติสท์แตกเลือกมากเรื่องงาน
บอกทุกคนก็เป็น เผยเบรกงานผู้จัดละคร เพราะยังไม่มีโปรเจกต์ใหม่
โต้ซุ่มปลูกต้นรักลูกอดีตรมต.คลัง รับเคยคิดอยากมีลูก
แต่ไม่คิดแต่งงาน แย้มสเปคสาวต้องทนกัดก้อนเกลือกินกับตนได้

นานๆ ทีจะมีละครให้แฟนๆ ได้ชมกันสักเรื่อง สำหรับพระเอกติสท์แตก
“แอนดริว เกร็กสัน” ที่หลังจากจบละครเรื่อง “มงกุฎแสงจันทร์”
แล้ว เจ้าตัวก็เว้นวรรคพักหายใจ กระทั่งตัดสินใจรับเล่น “เคหาสน์สีแดง”
ของค่ายเป่าจินจงต่อ ซึ่งเมื่อถามถึงเหตุผลที่ต้องเว้นวรรคงานละครห่างกันนาน
ทำเอาแฟนๆ บ่นคิดถึงไม่น้อย เจ้าตัวเผยว่าตัวเองก็ไม่รู้สาเหตุเช่นกัน
ปัดทำตัวเรื่องมากเลือกงาน บอกทุกคนก็ต้องเลือกงานทั้งนั้น

“เรื่องงานแสดงผมก็ไม่รู้ทำไมต้องทิ้งช่วงไปนาน ถามว่าตั้งใจจะทิ้งช่วง
ให้นานไหม ผมไม่เคยคิดแพลนตั้งแต่ไหนแต่ไรแล้ว ที่มันดูนาน
เพราะละครที่ผมเล่นครั้งสุดท้ายคือ 3-4 ปีก่อน แต่ว่าก่อนหน้านั้น
ก็เคยทิ้งไปช่วงนึงเป็นปี แต่ก็ไม่รู้เหมือนกันไม่ได้ตั้งใจ ก็อยากจะรับ
เยอะๆเหมือนกัน แต่สุดท้ายมันก็ออกมาเป็นอย่างนี้”

“บางคนก็บอกว่าผมเลือกเยอะ อย่าว่าแต่ผมเลย ให้ไปจ้างพวกพี่ๆ
ทุกคนทำอะไรก็แล้วแต่ก็ต้องเลือก ผมไม่ได้พูดเพราะรู้สึกน้อยใจนะ
บางคนบอกผมเลือกเยอะๆ แล้วมีใครไม่เลือกบ้างล่ะ มีแต่ผมที่
เป็นที่รู้กันเท่านั้นเอง อย่างบางคนก็เลือกบท แต่ไม่มีใครรู้ ไม่ใช่
เฉพาะผมหรอกเป็นทุกคน ผมว่าใครก็เลือกงาน ถ้าเกิดเจ้านายสั่ง
ให้เป็น หรือทำไอ้นั่นไอ้นี่หน่อย เราก็ต้องคิดแล้วว่าทำได้ไหมๆ
มันก็เหมือนกันนั่นแหละ”

“ผมก็รู้นะว่าแฟนๆ คิดถึงผม อยากจะให้เล่นละครมากกว่านี้
ซึ่งผมเองก็คิดถึงทุกคนเหมือนกัน อยากเล่นให้มากกว่านี้
อยากจะเล่นให้แตกต่าง บางบทที่แตกต่างก็ไม่ได้เล่น ถึงจะอยู่วงการมานาน
ผมก็ไม่ได้เล่นละครเยอะ ดาราบางคนเล่นเยอะกว่าผมอีกไม่รู้กี่เท่า
ถามว่ากลัวเด็กรุ่นใหม่แซงหน้าไหม ไม่กลัวหรอก มาเยอะๆ ก็ดีแล้ว
อย่าไปกลัวเลย เรื่องอายุที่มากขึ้นของนักแสดงไม่น่าจะมีปัญหา
ก็อยากให้เหมือนเมืองนอก ยิ่งอายุเยอะงานก็เยอะ ก็หวังว่าได้แค่
ไหนก็แค่นั้น”

เบรกงานผู้จัดละคร เพราะยังไม่มีโปรเจกต์ใหม่ พร้อมแย้มอยากลองเป็นผู้กำกับเหมือนกัน

“ก่อนหน้านี้ผมเปิดบริษัททำละคร ตอนนี้ก็ยังเปิดอยู่
ที่ผ่านมาผมทำเหมือนละครเฉพาะกิจ ทำไปพักนึงแล้วก็ทิ้งระยะ
แล้วก็ทำอีกเรื่อง ก็ถ้ามีอะไรที่แน่นอนจะบอกอีกทีละกัน
เรามีพนักงานประจำไม่กี่คน มันแบกรับภาระไม่ไหว ส่วนใหญ่
เป็นฟรีแลนซ์เยอะ ก็อยู่ๆ กันไปก็พออยู่ได้ จะมีขยับขยายหรือ
ทำรายการไหม ก็มีคิดไว้ แต่รอให้ชัวร์ก่อน เรื่อยๆ ไม่รีบเร่ง (หัวเราะ)
แต่บางทีถ้าจะทำหรือจะเอาอะไร ก็ต้องทำให้ได้ บางทีก็รออยู่นั่นแหละ
ตอนนี้เรื่องโปรเจกต์ยังไม่มีอะไรใหม่ๆ เป็นพิเศษ
เพราะไม่ได้ลงทุนค้าขายอะไร”

“จากประสบการณ์ที่ได้ทำละครมา มันมีอุปสรรคอะไรบ้าง
คงเป็นเรื่องทำงานกับคนหมู่มาก ทำงานกับคนเยอะๆ
ปัญหามันก็จะเยอะตาม ไม่ใช่ว่าเราจะบอกว่าใครเป็นตัวปัญหานะ
แต่การทำงานร่วมกัน บางทีมันอาจจะมีกระทบกันบ้าง
ยิ่งเรื่องฟ้าฝน ยิ่งทำละครก็มีอุปสรรคร้อยแปด เราก็ต้องเตรียม
งานให้มากที่สุด ซึ่งบางครั้งเวลาถึงหน้างานแล้ว มันก็มีปัญหา
กันทุกครั้ง ก็เป็นทุกเรื่องแหละครับ”

“ถามว่าผมสนใจงานเบื้องหลังไหม คือจะบอกว่าเรื่องงานแสดง
กำกับหรือเขียนบท มันเป็นพื้นฐานเดียวกัน มันอาจจะคล้ายๆ กัน
แต่ไม่ได้บอกว่าผมทำเองทุกอย่าง มันก็ใกล้ๆ ใช้ความเข้าใจเดียวกัน
ถามว่าเรื่องหน้าจะได้เห็นผมเป็นผู้กำกับเองไหม ถ้ามีก็ดีครับ
ไว้ให้ชัวร์แล้วค่อยบอกอีกที (หัวเราะ) ผมชอบซุ่มๆ เอาไว้แน่นอนดีกว่า
ผมเองก็คิดไว้เยอะ ช่วงว่างๆ ก็คิดอะไรไปเรื่อย เรื่องจะเสนอผู้ใหญ่
ก็รอให้มันชัด เดี๋ยวค่อยว่ากันอีกที ยังไม่อยากบอกก่อน อย่างถามว่า
ต่อไปจะเล่นละครเรื่องอะไร เราก็ไม่กล้าบอก เพราะยังไม่มีติดต่อเข้ามา
มันเปลี่ยนแปลงได้ตลอด”

เคลียร์ข่าวซุ่มปลูกต้นรัก “น้องน้ำ” ลูกอดีตรมต.คลัง ยันแค่เพื่อนยังไม่ถึงขั้นเป็นคนพิเศษ

“ช่วงที่ผ่านๆ มาที่ไม่ได้รับละคร ก็คงเป็นเหมือนทุกคน
อยู่บ้านทำอะไรก็ทำอย่างนั้น (หัวเราะ) เวลาว่างก็ไปเที่ยวตามต่างจังหวัดบ้าง
อยู่บ้านบ้าง เพราะผมไม่ค่อยชอบความวุ่นวาย แต่บางครั้งก็อยากจะไป
อยู่ในที่ที่วุ่นวายเหมือนกันนะ ก็แค่บางครั้งถ้ารู้สึกเหงา”

“เรื่องคนรู้ใจที่จะมาทำให้หายเหงา ยังไม่มีเลยครับ (หัวเราะ) ก่อนหน้า
นี้มีข่าวว่าผมคบหากับลูกสาวนักการเมือง อ้าว...ไปพาดพิงเขาอีก
คนที่เคยเป็นข่าวจริงๆ เป็นเพื่อนของเพื่อน รู้จักกันตั้งนานแล้ว
เป็นแค่เพื่อนกันไม่ได้พิเศษ ผมก็เคยเจอคนที่ใช่ แต่มันก็แค่นั้น
ได้แค่เจอไม่มีอะไรต่อจากนั้น แล้วมันก็จบไป แต่นานแล้ว จำไม่ได้เหมือนกัน”

เผยสเปคสาวต้องทนลำบากกับตนได้ รับบางอารมณ์อยากมีลูก แต่ยังไม่คิดเรื่องแต่งงาน

“สเปคสาวผมชอบคนที่ยอมกัดก้อนเกลือกินกับผมได้
เดี๋ยวนี้คงหายากแล้ว เพราะเงินไม่ได้สำคัญสำหรับผม
และผมก็ไม่ได้มีภาระ ไม่มีหนี้สิน ผมเลยไม่เดือดร้อนอะไร
ผมเป็นคนรักเด็กๆ นะ แต่ไม่ได้หมายความว่าอยากมีลูก
ก็เป็นบางอารมณ์ที่อยากจะมีลูกบ้าง เวลาเห็นลูกเพื่อนหรือคนรู้จัก”

“ก็ไม่รู้เหมือนกันอีกนานไหม ตอบไม่ได้ เพราะชีวิตผมชอบมีเซอร์
ไพร์สให้ตัวเองเรื่อย ซึ่งถ้ามีก็บอกครับ คงไม่กล้าปิดหรอก
ก็มีคนรอบตัวทำตัวเป็นแม่สื่อบ้าง ถ้าพูดก็รู้เลยว่าใคร (หัวเราะ)
คือผมคิดว่าเรื่องแบบนี้เราเจอคงชอบเอง จะให้ใครมาเชียร์ว่า
คนนี้ดีอย่างนั้นอย่างนี้ บางทีเขาอาจจะรับไม่ได้ก็ได้ถ้าได้อยู่กับผม
เราเจอกันแค่นี้ก็โอเค แต่ถ้าให้อยู่ด้วยกัน ไม่รู้ว่าจะรอดหรือเปล่า
ที่ผมไม่ค่อยมีข่าวว่าจีบใครก่อน ก็ไม่รู้เหมือนกันว่าเป็นเพราะอะไร(ยิ้ม)”

“เรื่องลั่นระฆังวิวาห์ผมไม่ได้ตั้งเป้าไว้นะว่า จะต้องแต่งงานอะไร
ไม่รู้สิ มันก็คงเป็นแค่การประกาศให้คนรู้ และให้เกียรติกับฝ่ายหญิง
สาวๆ จะปลื้มผมไหม ก็ต้องไปถามพวกเขาเอง (หัวเราะ)
ผมไม่ค่อยเจอคนที่เข้ามาคุยด้วย ไม่เกี่ยวว่าผมเป็นคนมีโลกส่วนตัวเยอะ
เลยเข้าถึงยาก สำหรับผมมองว่าปกตินะ บางคนบอกว่าผมติสท์แตก
ติสท์แตกมันเป็นแบบนี้เองเหรอ เรายังไม่เคยมองว่าตัวเองเป็นอาร์ติสท์เลย
แล้วมามองว่าเราติสท์แตกซะแล้ว”

000000000000000



จากไทยรัฐ
http://www.thairath.co.th/content/ent/80499

พระเอกในรุ่นเดียวกันจูงมือสาวเข้าประตูวิวาห์กันไป
หลายคู่ แต่ดูเหมือน แอนดริว เกร็กสัน ยังหวงความโสดอยู่
เมื่อเจอตัวในวันเปิดตัวละคร "เคหาสน์สีแดง" ที่โรงถ่ายช่อง
3 หนองแขม เลยได้อัพเดทกันถามว่า เมื่อไหร่จะมีคนรู้ใจจะ
ได้หายเหงา? แอนดริว ตอบ "ยังครับ" ก่อนหน้านี้มีข่าวว่าคบ
กับลูกสาวนักการเมือง? "คนที่เคยเป็นข่าวจริงๆแล้วเค้าเป็น
เพื่อน" ทุกวันนี้ยังไม่เจอคนที่ใช่อีกเหรอ? "เคยมีเจอครับนาน
แล้ว แต่มันก็แค่นั้นครับไม่ได้มีอะไรเกิดขึ้น" จะมีโอกาสเห็น
แอนดริวลั่นระฆังวิวาห์รึเปล่า? "ผมไม่เคยตั้งเป้าว่าจะต้องแต่ง
งาน คงเป็นแค่การประกาศให้ทุกคนรู้และให้เกียรติฝ่ายหญิง"
มีสาวเข้ามาคุยบ้างมั้ย? "ไม่ค่อยเจอครับ" โลกส่วนตัวเยอะ
สาวเข้าถึงยาก? "ไม่เยอะหรอก ผมก็รู้สึกว่าปกตินะ เรายังไม่
เคยมองว่าตัวเองเป็นอาร์ตติสต์เลย มาเรียกเราว่าติสต์แตก"
สาวแบบไหนถึงจะชนะใจ? "คงเป็นคนที่ยอมกัดก้อนเกลือกิน
กับผมได้ สมัยนี้คงหายากเงินสำคัญ แต่ผมไม่มีภาระ ไม่มีหนี้
เลยไม่เดือดร้อน" เป็นคนรักเด็กก็น่าจะอยากมีครอบครัว? "มี
บางอารมณ์แต่ไม่ได้อยากจะมีลูก" มีคนจะเป็นแม่สื่อมั้ย? "มี
ครับ แต่ผมรู้สึกว่าถ้าเราเจอคงชอบเอง ถ้าอยู่ด้วยกันอาจจะ
รับตัวผมไม่ได้ก็ได้"

=================

คมชัดลึก
วันอาทิตย์ที่ 20 มิถุนายน 2553
คมชัดลึก > บันเทิง > ตะลุยตะลอนกอง


http://www.komchadluek.net/detail/20100620/63472/%E0%B8%8A%E0%B8%A1%E0%B9%82%E0%B8%89%E0%B8%A1%E0%B9%81%E0%B8%AD%E0%B8%99%E0%B8%94%E0%B8%A3%E0%B8%B4%E0%B8%A7%E0%B8%A1%E0%B8%B4%E0%B9%89%E0%B8%99%E0%B8%97%E0%B9%8C%E0%B9%83%E0%B8%99%E2%80%9C%E0%B9%80%E0%B8%84%E0%B8%AB%E0%B8%B2%E0%B8%AA%E0%B8%99%E0%B9%8C%E0%B8%AA%E0%B8%B5%E0%B9%81%E0%B8%94%E0%B8%87%E2%80%9D.html
ชมโฉม'แอนดริว-มิ้นท์'ใน“เคหาสน์สีแดง”

คมชัดลึก : เริ่มเดินเทปถ่ายทำกันไปบ้างแล้วสำหรับละครเก่านำมาเล่าใหม่ โดยค่ายเป่า จิน จง
อย่าง เคหาสน์สีแดง เป็นแนวรักเร้นโรแมนติก งานนี้พระเอก แอนดริว เกร้กสัน มารับบทเป็น
หมอรุจ สุดหล่อ ประกบนางเอกป้ายแดง "น้องมิ้นท์"


ณัฐวรา วงศ์วาสนา และจับ "ชาม" ไอยวริญท์ โอสถานนท์ เป็นนางร้ายครั้งแรก
พร้อมด้วยนักแสดงมากฝีมืออาทิ "แอ๊ด" โฉมฉาย ฉัตรวิไล "แม่ต้อย" ศิริพร วงษ์สวัสดิ์
"แม่เหน่ง" เมตตา รุ่งรัตน์ คอยพัดวี ดูแล และแอบสแกนสาวๆ ที่จะมาครองหัวใจหมอหนุ่ม อย่างหมอรุจ

รวมไปถึง "ปอ" ศีกัญญา ศักดิเดช ภาณุพันธ์ สาวเปรี้ยวที่มารับบทสาวย้อนยุค
สาวไหนๆ ก็รุมรักหมอรุจ ยกเว้นนักแสดงหนุ่มหน้าใหม่ "เบิร์ด" กิตติพิชญ์ นิลนพรัตน์
คนนี้ที่คอยตาขวางใส่ ในบท ชาลี เพื่อนสนิทที่หลงรัก อารยา (มิ้นท์) จะแจ้งเกิดแค่ไหน สาวๆ เตรียมลุ้น

เบื้องหลังกองถ่ายทำเต็มไปด้วยความสนุกสนาน ทั้งฉากง่าย ฉากยาก และฉากหวาน
สุดโรแมนติก วันนี้เราเอาภาพเรียกน้ำย่อยมาให้ชมกันก่อน ระหว่างที่กองถ่ายเร่งทำงาน
แข่งกับสายฝน ติดตามภาพหลุดๆ ของ หมอรุจ พระเอกขวัญใจสาวๆ และความเคลื่อนไหว
ใกล้ชิดของ เคหาสน์สีแดง ละครเรื่องล่าสุดจาก เป่า จิน จง ได้ที่นี่ก่อนใคร




*******************

วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

มงกุฎแสงจันทร์ในไทยรัฐ3

oooooooooooooooooooooooooooooooooooooooooooooooo

มงกุฏแสงจันทร์ 09/12/52

ตอนที่ 20 (ต่อจากวานนี้)

เย็นนั้นเอง รักเร่แกล้งฟูมฟายร้องไห้วิ่งหน้าตื่นมาบอกทีฑายุว่ากัญญาภัคกำลังจะฆ่าตัว
ตายอยู่ที่บ้าน ทีฑายุรีบร้อนไปห้ามทันเวลา แต่หารู้ไม่ว่านี่เป็นแผนของกัญญาภัค
แล้วเธอก็ทำสำเร็จเสียด้วย เมื่อแอบวางยากระตุ้นอารมณ์ทีฑายุจนมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเธอ
แล้วรักเร่ก็หลอกพวกศิศิราตามมาเห็น โดยมีสินาตีเล่นละคร บทแม่ผู้น่าเห็นใจที่ลูกสาวถูกชายย่ำยี

ศิศิราเสียใจและอับอายจนสุด ทนกับความมักมากของทีฑายุ เธอวิ่งหนีออกจากห้อง
ทีฑายุรีบตามศิศิรา กัญญาภัคจะคว้าตัวก็ไม่ทัน แถมยังถูกญาณีด่าซ้ำว่าไร้ยางอาย
กล้าพลีตัวให้สามีเจ้าหญิง...ทีฑายุตามไปอ้อนขอโทษศิศิรา มาณสิงห์ยืนมองอย่างเจ็บช้ำ
รู้แก่ใจว่าศิศิรารักทีฑายุ แล้วเขาหันหลังเดินเร็วออกไป จึงไม่เห็นศิศิราสะบัดตัวออกจาก
อ้อมแขนทีฑายุเดินจากไปอย่างเย็นชา

ขณะ เกิดความวุ่นวายภายในวังปัญจารัตน์ โกญจนาทที่หลบไปอยู่นิราษิณก็ได้รับทราบ
ความเคลื่อนไหวทั้งหมดจากสินาตี โกญจนาทเห็นว่าสบโอกาสแล้วที่จะกำจัดทีฑายุ
จึงวางแผนให้มาณสิงห์ที่รักศิศิราฆ่าทีฑายุเสีย เพื่อมาณสิงห์จะได้เป็นสุภาพบุรุษใน
สายตาศิศิราคนเดียวตลอดไป โดยโกญจนาทบอกผ่านไปทางสินาตีเป็นคนเจรจา
กับมาณสิงห์ในเรื่องนี้

จตา รีที่ยังอยู่ในวัง พอรู้ว่ากัญญาภัคตกเป็นเมียทีฑายุ อีกคน และเห็นกัญญาภัค
เข้ามาแสดงตัวข่มศิศิรา จตารีทนไม่ได้เกิดทะเลาะตบตีกับกัญญาภัครุนแรง
กัญญาภัคโกรธจัดถึงขนาดคว้าปืนจากทหารจะยิงจตารี โชคดีสันธิมาเห็น
จตารีจึงรอดตาย แต่สันธิก็ต้องตะลึง เมื่อกัญญาภัคประกาศตัวเป็นเมียทีฑายุ

ศิ ศิรารู้สึกอัปยศกับสิ่งที่เกิดขึ้นจากการกระทำของทีฑายุ มาณสิงห์จึงพยายามใกล้ชิด
ปลอบใจ นั่นยิ่งทำให้ทีฑายุ ไม่พอใจ เย้ยมาณสิงห์ด้วยการกอดจูบศิศิราต่อหน้
า ศิศิราจึงยิ่งโกรธทีฑายุจนแทบไม่มองหน้า ประสันต์ ดรัณย์ และมาลข่านรับรู้ถึง
ความบาดหมางของเพื่อนรักกับเจ้าหญิง ก็อดหนักใจแทนไม่ได้ ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า
เมียสองต้องห้าม ทีฑายุเลยเล่นซะเมียสามตามตำรา แต่ในจำนวนสามคนคือ ศิศิรา
จตารี และกัญญาภัค คนหลังนี่น่ากลัวที่สุด

กัญญาภัคแสดงอำนาจฐานะเมียทีฑา ยุ สั่งคนขนเสื้อผ้าข้าวของของศิศิราออกจากห้อง
เอาไปเผาไฟ ศิศิรากับญาณีทัดทานไม่ไหว จนทีฑายุมาเห็นด้วยตาตัวเองต้องระงับเหตุ
ให้ดรัณย์กับประสันต์ช่วยกันดับไฟเดี๋ยวนี้...ศิศิราน้ำตาคลอด้วยความโกรธ
แล้วออกคำสั่งกับกัญญาภัคว่า ต่อไปนี้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นของของตน
ยกเว้นทีฑายุ กัญญาภัคห้ามแตะ... กัญญาภัคชักสีหน้าดวงตาวาวโรจน์ด้วยความเกลียดชัง
จ้องมองตอบโต้ศิศิรา

"อย่าให้เกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นอีก รับปากพี่สิ กัญญา" ทีฑายุเสียงเข้ม

"กัญญาไม่รับปากค่ะ จนกว่าพี่ทีฑายุจะให้ความเป็นธรรมกับกัญญา"

"ความเป็นธรรม คือการที่เธอได้อยู่ในวังนี้"

"ในฐานะไหนคะ" กัญญาภัคถามจี้ทีฑายุ ศิศิราสวนขึ้นทันที

"ฐานะไหนก็ได้ ที่เธอตะเกียกตะกายไปถึง ยกเว้นตำแหน่งเจ้าหญิงแห่งปัญจารัตน์"

ศิศิราเดินออกไป จตารี ส้มเสี้ยว ญาณี ยิ้มเยาะกัญญาภัค แล้วตามศิศิราออกไป
กัญญาภัคตวัดสายตามองทีฑายุที่ยืนสีหน้าอึดอัดหนักใจ

"เพราะว่าเจ้าหญิงศิศิราอ่อนแอ บอบบางมากใช่มั้ยคะ พี่ทีฑายุถึงต้องเฝ้าทะนุถนอมจน
ไม่สนใจความรู้สึกผู้หญิงคนไหนเลย"

"กัญญา อย่าให้พี่ต้องรื้อฟื้นเหตุการณ์วันนั้นว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง"

"พูด ออกมาก็ได้ค่ะ กัญญาจะได้รู้ว่าพี่ทีฑายุเลือกจะมีความรับผิดชอบกับผู้หญิงอย่างศิศิราคน
เดียว ไม่ว่ากัญญาจะทำดีแค่ไหน หัวใจพี่ทีฑายุก็จะเห็นแต่ความอ่อนโยนของศิศิรา
พี่ทีฑายุรู้ไหมคะหัวใจที่แข็งแกร่ง มันก็อ้างว้างได้ เหมือนกัน หัวใจดวงนั้นก็ต้องการความรักจากพี่ทีฑายุ"

"พี่ไม่เคยทอดทิ้งกัญญา พี่มีแต่ความรักมอบให้ แต่มันเป็นรักในฐานะ..."


"เมีย... กัญญาเป็นเมีย ต้องรักในฐานะเมีย กัญญามีสิทธิ์นั่งเคียงข้างพี่ทีฑายุบนนั้น"
ชี้มือไปที่บัลลังก์ ทั้งน้ำตาที่ไหลเอ่อออกมา ทีฑายุจะเข้ามาแตะปลอบโยน
กัญญาภัคเบี่ยงตัวหนีด้วยความน้อยใจ

"กัญญาต้องเป็นผู้หญิงคนเดียวที่พี่รักและมอบใจให้ จนกว่าความตายจะมาแยกเราจากกัน"

ระบายความในใจทุกอย่างแล้วกัญญาภัคก็วิ่งออกไปด้วยความเจ็บปวด
สินาตีเดินเข้ามาจ้องหน้าทีฑายุ มองอย่างสมเพชก่อนผละไป

"ความรักของแกสำคัญกับชีวิตกัญญาภัค" ดรัณย์เอ่ยขึ้นมา ทีฑายุหน้าสลด
เขาไม่เคยคิดว่ามันจะสำคัญมากถึงขนาดนี้ ประสันต์จึงเตือนสติ

"ไม่มีใครอยากเป็นคนพ่ายแพ้ในรัก แต่แกควรจะจำใส่สมองของแกด้วยว่า
มงกุฎแสงจันทร์ควรค่ากับเจ้าหญิงองค์เดียวเท่านั้น"

ทีฑายุหันมองบัลลังก์แสงจันทร์ หนักใจกับเหตุการณ์ กลืนไม่เข้าคายไม่ออกที่ตัวเองคือต้นเหตุ

กัญญาภัคยังไม่เลิกระรานศิศิรา แม้ศิศิราไม่อยากปะทะ พยายามจะเดินหนีไปพ้นๆ
กัญญาภัคกลับหาว่าศิศิราหนีความจริง ศิศิราเลยชะงัก

"เธอหนีความจริงไม่ได้หรอกศิศิรา ยังไงเธอก็ต้องยอมรับว่าฉันอยู่ที่นี่ในฐานะ...เมียพี่ทีฑายุ"

"หรือว่าเรายังใจกว้างไม่พอ ต้องจัดงานแต่งงานแล้วส่งตัวเธอเข้าห้องให้ด้วยมั้ย
เผื่อว่าเธอจะมีศักดิ์ศรีขึ้นมาบ้าง"

"กล้าทำเหมือนที่กล้าพูดหรือเปล่าล่ะ"

"อย่า ท้าทายเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ดีกว่า กัญญาภัค" ทีฑายุก้าวตรงมาที่กัญญาภัค
"พี่คงไม่ต้องเล่าว่าเรื่องคืนนั้นเกิดเพราะจากความเต็มใจ หรือว่ามีใครวางแผนให้มันเกิด"
กัญญาภัคฟังแล้วหน้าเสีย ศิศิรามองจับสังเกตคนทั้งคู่ "พี่อดทนได้กับการกระทำทุกอย่างที่ผ่านมา
เพราะน้องคือความผูกพัน แต่ที่มากกว่าความผูกพัน หมายถึงรักทั้งชีวิต รักที่ไม่มีข้อแม้ ใดๆคือ...ศิศิรา"

"พี่ทีฑายุกำลังจะฆ่าน้อง" กัญญาภัคตัดพ้อเสียงสั่นเครือ

"พี่ ไม่ได้บอกว่าจะหยุดรักกัญญา แต่มันต้องไม่มากไปกว่าฐานะที่พี่เคยให้ ต้อง
ไม่ใช่เครื่องมือที่กัญญาจงใจใช้ ทิ่มแทงทำร้ายจิตใจเจ้าหญิง"

กัญญา ภัคน้ำตาคลอทั้งเจ็บทั้งอายศิศิรา ที่ทีฑายุประกาศชัดเจนขนาดนี้
ยิ่งเห็นทีฑายุเดินตามศิศิราออกไป น้ำตาก็ยิ่งไหลพรากด้วยความผิดหวัง
ร้าวรานใจ พอกลับไปเล่าให้แม่ฟัง กลับถูกแม่กระหน่ำซ้ำเติมให้ยิ่งเจ็บช้ำหนักขึ้นไปอีก
ทั้งแม่ยังประกาศจะไม่อยู่ที่นี่ ขอไปภักดีกับโกญจนาทผู้ชายที่แม่รัก...
ด้านทีฑายุที่ตามไปง้อศิศิราด้วยความจริงใจก็สมหวัง เพราะลึกๆแล้วศิศิราก็รักทีฑายุมากเช่นกัน

ooooooo

ข้างฝ่าย มาณสิงห์ หลังคิดทบทวนข้อเสนอของสินาตีและตัดสินใจแน่วแน่แล้ว
แม้สันธิผู้เป็นพ่อซึ่งระแวงระวังพยายามเตือนเรื่องความรักที่มีต่อเจ้าหญิง ว่าไม่ควร
และเป็นไปไม่ได้ มาณสิงห์ก็ไม่ใส่ใจ แอบออกไปพบโกญจนาทที่ริมเขื่อน
เพื่อร่วมมือกำจัด

ทีฑายุโดยโกญจนาทขอให้มาณสิงห์แสดงความจริงใจที่จะร่วมมือ
ด้วยการพารามปุระกับทาอูมาหาเขาให้ได้ก่อน

ที่ สนามขี่ม้า ราเชนทระโมโหโกรธาเมื่อได้รับรายงานจากสันชัยว่ากัญญาภัค
เป็นเมียทีฑายุไป แล้ว ไมยาดินซึ่งปลอมตัวเป็นคนดูแลม้าได้ยินก็ดวงตาลุกโพลง

"คนของเรายืนยันมาว่าไม่ใช่ข่าวลือ ตอนนี้ในวังปัญจารัตน์กำลังวุ่นวาย" สันชัยยืนยัน

"แล้ว ทำไมไอ้โกญจนาทมันไม่บอกฉัน หรือว่ามันรู้แล้วจงใจปิด รอเอาผลประโยชน์
เข้าตัวเองเสียก่อน....สันชัย ไปลากตัวโกญจนาทมาหาฉันเดี๋ยวนี้" ราเชนทระตวาด
น้ำเสียงผิดหวัง สันชัยรีบออกไป...ไมยาดินกำเชือกม้าแน่น ทำเป็นรีบจูงม้าออกไป
จากสนามอย่างเร็ว

มาณสิงห์ทำตามคำขอของโกญจนาท บุกเข้าไปช่วยทาอูกับรามปุระในคุก แต่สองคน
ไม่ไว้ใจมาณสิงห์ จึงเกิดต่อสู้กันจนทาอูพลาดท่าถูกมาณสิงห์ใช้โซ่รัดคอจนสิ้นใจ
รามปุระคว้าปืนจะยิงมาณสิงห์ ธนูเพลิงพรวดพราดเข้ามาเห็น จะยิงรามปุระก่อน
แต่มาณสิงห์ร้องห้าม ก่อนจะยิงธนูเพลิงจนทรุด

"ขอบใจความซื่อสัตย์ของแก ธนูเพลิง แต่ฉันจำเป็น"

ธนูเพลิงมองมาณสิงห์อย่างนึกไม่ถึง ขณะที่รามปุระเข้าใจสถานการณ์ รีบวิ่งตามมาณ
สิงห์ที่นำออกไป ทิ้งธนูเพลิงกระอักเลือดอยู่ตรงนั้น

เวลา นั้น โกญจนาทกำลังเข้าพบราเชนทระด้วยท่าทีตื่นเต้น รายงานว่าแผนทำลาย
ปัญจารัตน์ของเราเริ่มต้นขึ้นแล้ว แต่ราเชนทระกลับมองโกญจนาทอย่างหยามเหยียด
ไม่มีสายตาเป็นมิตร

"หุบปาก ฉันจะไม่ฟังคนขายชาติอย่างแกอีกแล้ว แกรู้ว่ากัญญาภัคเป็นเมียทีฑายุ แต่แกไม่บอกฉัน"

"เกล้ากระหม่อมไม่รู้"

"ลิ้นสองแฉกอย่างแก มีหรือจะไม่รู้ความเคลื่อนไหวทุกอย่าง แต่ที่แกไม่พูดเพราะแก
ยังไม่ได้ผลประโยชน์จากฉัน... ทหาร ลากมันออกไป"

สันชัยกับทหารเข้าประกบคุมตัวโกญจนาททันที

"พระองค์จะต้องเสียใจกับการตัดสินใจผิดพลาดครั้งนี้" โกญจนาทคำราม

"ฉันไม่เสียใจเพราะคนคดในข้องอในกระดูกอย่างแก สันชัย เนรเทศโกญจนาท
อย่าให้มันกลับมาเหยียบแผ่นดินนิราษิณได้อีก"

โกญจนาท จ้องมองราเชนทระอย่างเดือดดาล แต่เมื่อเห็นกำลังทหารของราเชนทระ
โกญจนาทก็ข่มความรู้สึก ก้าวออกไปจากตรงนั้นด้วยท่าทีเสือยังไม่สิ้นลาย

ส่วน ที่คุกปัญจารัตน์ สันธิกับวิชัย และเพื่อนๆของทีฑายุ กำลังตรวจสอบร่องรอยเหตุการณ์
อุกอาจที่เกิดขึ้น วิชัยมั่นใจว่าต้องเป็นฝีมือคนในที่ช่วยรามปุระออกไป ธนูเพลิงพยายาม
จะบอกชื่อไอ้คนทรยศ แต่ก็กระอักเลือดอย่างหนักจนคอพับไปอีก

สัน ธิสั่งทหารออกตามล่าลากตัวรามปุระกับไอ้คนทรยศกลับมาให้ได้ แล้วทั้งทหาร
และพวกดรัณย์ก็ไล่ล่าออกไปที่ริมเขื่อน ซึ่งมาณสิงห์กำลังจะส่งรามปุระขึ้นเรือไปนิราษิณ
แต่ทันใดนั้นเอง ไมยาดินโผล่มาเผชิญหน้ามาณสิงห์

"ไม่นึกเลยว่าองครักษ์จะกลายเป็นแค่หมารับใช้ของโกญจนาท"

"หายไปไหนมา รู้ข่าวดีหรือยังว่าคนที่แกรักเพิ่งจะกลายเป็นเมียไอ้ทีฑายุ"

"ฉันไม่เชื่อ กัญญาภัคยังรอฉัน"

ราม ปุระกำลังจะก้าวขึ้นเรือ ไมยาดินยิงทันที รามปุระก้มหลบทัน มาณสิงห์ตะโกน
เร่งให้รามปุระขึ้นเรือ จังหวะนี้เองทหารและพวกดรัณย์วิ่งมาถึง มาณสิงห์จวนตัวเลย
ต้องพลิกเกม กระหน่ำยิงรามปุระตกน้ำขาดใจตาย แล้วหันมายิงใส่ขาไมยาดินที่ไม่ทันตั้งตัว

"มัน...หมารับใช้ไอ้โกญจนาทที่ช่วยแหกคุก"

"ไม่ ใช่ฉัน...ไอ้มาณสิงห์..." ไมยาดินพูดได้แค่นั้นก็ถูกมาลข่านกับดรัณย์ถีบเข้ายอด
อกจนหงายหลัง ประสันต์ตามมากระทืบซ้ำ แล้วเอาปืนจ่อจะลั่นไก แต่ดรัณย์รีบห้าม
ควรเอาตัวมันกลับไปให้ทีฑายุสอบสวน มาณสิงห์หน้าเครียดขึ้นมาทันที...

ooooooo

เมื่อถูกคุมตัวเข้ามาในวัง ไมยาดินพยายามบอกความจริงว่ามาณสิงห์เป็นไส้ศึกให้โกญจนาท
แต่ทุกคนไม่มีใครเชื่อ สันธิโกรธถึงกับลงมือซ้อม

ไมยาดินสะบักสะบอม...ขณะเดียวกันนั้น มาณสิงห์กำลังรีบร้อนไปโกหกโกญจนาทในจุดที่เคยนัดพบ

"ไมยาดินมันแค้นท่านมาก ถึงฆ่าได้ทั้งรามปุระ ทั้งทาอู เราเองก็เกือบไม่รอด"

"ไม่เป็นไร จะทำงานใหญ่ก็ต้องมีคนสละชีวิต"

"ไมยาดินมันคงไม่หยุดพูดเรื่องที่สงสัยเรา"

"กว่าที่ทุกคนจะรู้ กองกำลังใหม่ของเราก็แข็งแกร่งแล้ว" มาณสิงห์ทำหน้าสงสัย
โกญจนาทจึงขยายความว่า "กองกำลังเพื่ออาณาจักรใหม่"

"แกไม่ได้อยู่ที่นิราษิณ"

โกญจนาทยิ้มปกปิดความจริง ไม่ยอมบอกมาณสิงห์ เรื่องถูกขับออกจากนิราษิณ

"คน อย่างฉันไม่จำเป็นจะต้องอยู่ใต้เงาของใคร เตรียมตัวให้พร้อม มาณสิงห์
เรากำหนดวันตายให้เลือดเนื้อเชื้อไขสารเลวอย่างทีฑายุแล้ว" มาณสิงห์ถามทันที
ว่าเมื่อไหร่ "ทันทีที่เราได้หมากตัวสุดท้าย เพื่อล่อทีฑายุออกมา"

มาณสิงห์เห็นสายตากระหยิ่มย่ามใจของโกญจนาท แล้วถึงกับรำพึงชื่อศิศิราออกมา...

ส่วน ศิศิราเป้าหมายของโกญจนาท เมื่อรู้จากทีฑายุว่าเกิดเหตุร้ายแรงขึ้นก็หวาดหวั่น
และเป็นห่วงธราเทพ กลัวโกญจนาทจะกลับมาเอาชีวิต แต่ทีฑายุรับปากจะไม่ยอม
ให้เป็นเช่นนั้นแน่ ถ้าโกญจนาทก้าวเข้ามาที่นี่อีกครั้ง มันต้องไม่มีลมหายใจ ศิศิราจึง
ถามทีฑายุ แน่ใจหรือว่าจะกล้าฆ่าคนที่เลี้ยงเขามา

"ถึงบุญคุณโกญจนาทท่วมท้นชีวิต แต่ก็ไม่ยิ่งใหญ่ไปกว่าบุญคุณของแผ่นดินเกิด
เราสัญญา ศิศิรา เราจะเป็นแค่ ผู้ปกป้อง ไม่ใช่ผู้ปกครอง"

"เราขอขอบใจ ความกล้าหาญ ความเสียสละของเธอ"

ที ฑายุยิ้มรับ ดึงศิศิราเข้ามากอดด้วยความรัก "เพียงแค่นี้...ยิ่งกว่าชีวิตก็ให้ได้ รักเดียว
จากหัวใจคือการรักษาน้ำค้าง หยดนี้ให้บริสุทธิ์ใสตลอดไป"

ฝ่ายกัญญาภัคที่ลงไปดูไมยาดินในคุก เธอถูกไมยาดินคาดคั้นถามเรื่องที่ใครต่อใครบอก
ว่าเธอเป็นเมียทีฑายุ กัญญาภัค ยอมรับและบอกให้ไมยาดินตัดใจ เพราะเธอเต็มใจเป็นเมียทีฑายุ
ไมยาดินทั้งเจ็บทั้งแค้นตะโกนตัดพ้อต่อว่ากัญญาภัค

อย่างบ้าคลั่ง และหมายหัวทีฑายุว่ามันต้องตาย...

ธนูเพลิงนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลที่ค่ายทหาร

สัน ธิมาเยี่ยมและคาดคั้นจนรู้ความจริงว่ามาณสิงห์ลูกชายของตัวเองคือคนทรยศที่
ช่วยรามปุระ สันธิผิดหวังเสียใจที่สุด รีบมาบอกพวกทีฑายุให้รู้ ซึ่งเวลานั้นมาณสิงห์
ได้ย้อนกลับมาจับตัวศิศิราออกไป โดยทำร้ายจตารีที่อยู่ในห้องด้วยกันจนลุกไม่ขึ้น

มาณสิงห์พาศิศิราไป ยังแหล่งกบดานของโกญจนาท ศิศิราโกรธมากดุด่ามาณสิงห์ที่
ยอมเป็นเครื่องมือคนเลว เพียงเพราะเธอให้ความรักที่เกินเพื่อนไม่ได้ แล้วเธอหัน
ไปประกาศกับโกญจนาทว่า ทีฑายุต้องมาช่วยเธอ ไม่ว่ายากลำบากแค่ไหนเขาก็จะ
ขับไล่คนชั่วทุกคนให้หมดไปจากแผ่นดินของเธอ โกญจนาทกลับตอบโต้ด้วยรอยยิ้มว่า

"คงจะอีกนาน เพราะเราต้องการให้ทีฑายุมันกระอักเลือดตายลงไปช้าๆกับความทรมาน
ที่ไม่รู้ว่าชะตากรรมของเจ้าหญิงจะเป็นหรือตาย"


oooooooooooooooooooooooooooooooooooo

มงกุฏแสงจันทร์ 10/12/52


ตอนที่ 20 (ต่อจากวานนี้)

เมื่อ รู้จากจตารีว่ามาณสิงห์จับศิศิราไปแล้ว ทีฑายุแค้นแสนแค้นจนแทบคลั่ง
สั่งทหารปิดชายแดนทุกด่าน เจอมาณสิงห์ ที่ไหนต้องจับเป็น แล้วเขาจะตอบ
แทนความบัดซบของมาณสิงห์ด้วยตัวเอง กัญญาภัคเห็นความรักของทีฑายุ
ที่มีต่อศิศิราก็ยิ่งริษยา พยายามเป่าหูทีฑายุว่าอาจเป็นแผนของศิศิราที่จะหนีไปอยู่
กับมาณสิงห์ แต่ทีฑายุไม่เชื่อ เขารู้จักผู้หญิงที่เขารักดีที่สุด ศิศิราไม่มีวันเต็มใจไปกับมาณสิงห์

"แต่ผู้หญิงของพี่ เขาเคยรัก เคยเห็นอกเห็นใจกับมาณสิงห์ มาก่อน" กัญญาภัคยังพยายาม

"ความเห็นใจกับความรักมันต่างกันนะกัญญา เหมือนที่พี่เห็นใจเธอ แต่สำหรับศิศิรา...นั่นคือความรัก"

"รักที่ไม่มีวันยาวนาน ศิศิราคือตัวทำลาย เขาเข้ามาทำลายความผูกพันของเรา"

"คนผิดคือพี่ ไม่ใช่ศิศิรา ออกไปซะ ศิศิราคนเดียวเท่านั้นที่พี่จะคิดถึง"

"อยาก คิดถึงก็คิดถึงไปสิคะ กัญญาก็อยากรู้ว่าพี่ทีฑายุจะอยู่กับความฝันหรือ
ความจริงมากกว่ากัน" กัญญาภัคทอดกายบนเตียงพร้อมกับโน้มตัวทีฑายุตามลงมา
ทีฑายุกลับดึงกัญญาภัคขึ้นอย่างแรง และตวาดไล่ให้ออกไป กัญญาภัคไม่พอใจเสียงแข็งว่า
ศิศิราอาจจะไม่ได้กลับมาแล้ว ทีฑายุจึงกระชากกัญญาภัคผลักไปที่ประตูแล้วย้ำชัด
"ไม่มีศิศิรา หัวใจทีฑายุก็จะไม่เป็นของผู้หญิงคนไหนอีก"

ญาณีเห็นกัญญาภัคเดิน น้ำตาไหลออกมาจากห้อง ได้ทีสมน้ำหน้าคนแพ้และตอกย้ำว่า
ผู้หญิงหน้าหนาอย่างกัญญาภัคไม่มีทางเอาชนะเจ้าหญิงของเธอได้ กัญญาภัคโกรธจัดจะตบตีญาณี
แต่ญาณีไวกว่า จับแขนกัญญาภัคบิดจนหมดทางสู้...

มา ณสิงห์เฝ้าดูแลศิศิราด้วยความรัก แต่ศิศิราไม่แม้แต่จะมองหน้าเขาสักนิด
ซ้ำยังยืนยันในรักที่มีต่อทีฑายุ สำหรับมาณสิงห์จะได้แค่ความเกลียดจากเธอจนชั่วชีวิต
มาณสิงห์ทั้งน้อยใจและเสียใจจนระงับอารมณ์ไม่อยู่ พยายามปลุกปล้ำศิศิราจนเสื้อผ้าขาด
แต่แล้วก็ได้สติเมื่อฝ่ามือศิศิราฟาดใบหน้าเขาอย่างแรง มาณสิงห์ละอายใจ
ขอโทษศิศิราแล้วผละออกไปทันที

โกญจนาทฉวยโอกาสนี้เอาเสื้อศิศิราที่ขาดส่งไปให้

ทีฑายุ ทีฑายุเห็นเสื้อก็คลั่งหนักจะไปฆ่ามาณสิงห์ จนพวก

ประ สันต์ต้องช่วยกันรั้งช่วยกันห้ามอยู่พักหนึ่งกว่าทีฑายุจะสงบลง ขณะเดียว
กันนั้นโกญจนาทก็เดินแผนต่อไป เข้าพบราเชนทระเพื่อขอทหารไปจัดการศัตรูที่ปัญจารัตน์
ราเชนทระยอมให้ตามที่ขอ แต่มีข้อแลกเปลี่ยนว่าปัญจารัตน์ต้องเป็นเมืองขึ้นนิราษิณ

"เมืองขึ้นนิราษิณ" โกญจนาททวนคำอย่างคาดไม่ถึง

"ใช่ เราจะช่วยให้ท่านได้เป็นกษัตริย์แห่งแคว้นปัญจารัตน์ โดยมีกองทหาร
แห่งนิราษิณคุ้มครองบัลลังก์ให้ หรือว่าท่านอยากเป็นกษัตริย์ที่ไม่มีกองทัพหนุนหลัง
แล้วก็ต้องต่อสู้กับพวกจงรักภักดีที่จ้องจะโค่นล้มอำนาจท่านได้ทุกเมื่อ"

"กระหม่อมยินดีเหลือเกินที่จะได้เชื่อมสองแคว้นให้เป็นหนึ่งเดียว และอยู่ภายใต้
พระบรมเดชานุภาพของพระองค์"

"แล้วเรื่องทีฑายุกับพวกทหารราชวงศ์ที่ยังปกป้องบัลลังก์ล่ะ"

"ไม่ต้องห่วงพระเจ้าค่ะ กระหม่อมขอแค่มือสังหารของพระองค์สิบคน แค่นั้นก็เพียงพอที่
จะกำจัดศัตรูทุกคนให้สิ้นซากพระเจ้าค่ะ"

ไม่ ทันข้ามวัน ทีฑายุและคณะซึ่งประกอบด้วย สันธิ วิชัย ดรัณย์ ประสันต์ มาลข่าน
จตารี ธนูเพลิง กัญญาภัค รวมทั้งไมยาดินก็ยกขบวนมาแถวเขื่อนเพื่อดูลาดเลา
แล้วก็เกิดปะทะกับมือสังหารที่โกญจนาทส่งมา ผลคือพวกทีฑายุถูกมือสังหารจับ
ได้หมด เอาไปขังในคุกลับของโกญจนาท

ทุก คนพยายามหาทางหนี แต่ดูจะมืดมน หนำซ้ำญาณีกับส้มเสี้ยวที่หวังจะพึ่งพาก็
ถูกจับมาขังรวมกันอีก โกญจนาทหวังให้ศัตรูทุกคนของตนแตกแยกความสามัคคี
เข่นฆ่ากันเองเพื่อแย่งอาหารและน้ำที่ให้มาเพียงน้อยนิด

เมื่อศัตรูเริ่มทะเลาะเบาะแว้ง โดยเฉพาะพวกผู้หญิง โกญจนาทก็หัวเราะร่าเดินเข้ามา
พร้อมมือสังหารที่คอยคุ้มกัน

"เป็น ยังไง ท่าทางจะรักใคร่กลมเกลียวกันดี เหล่าทหารเอกทั้งหลาย ไมยาดินฝาก
เนื้อฝากตัวกับสี่ทหารเสือหรือยัง อ้อนวอนให้มันรับแกเป็นพวกด้วยนะ
ไม่งั้นหมาหัวเน่าอย่างแกอาจจะกลายเป็นศพแรกในคุกนี้ เพราะไม่มีนายอย่างฉันคุ้มกะลาหัว"

ไมยาดินเจ็บใจ โกญจนาทหันมาทางกลุ่มผู้หญิงสี่คน

"หรือจะเอาโซ่รัดคอกัญญาภัค แก้แค้นแทนเจ้าหญิงก็ได้นะ ฉันให้โอกาสพวก
แกฆ่านังงูพิษนี่ได้ตามสบาย"

กัญญาภัคมองเห็นสายตาเอาเรื่องพวกญาณี ก็หันกลับมามองโกญจนาทด้วย
ความเกลียดชัง โกญจนาทไม่แคร์ เลื่อนสายตามาที่ทีฑายุ สันธิ วิชัย

"ส่วน พวกจงรักภักดี ปิดทองหลังพระ มันก็ต้องทรมานกว่าเพื่อน อยู่ให้นานที่สุดน
ะ สันธิ วิชัย อยู่ให้ถึงวันที่แกจะได้ยินเสียงประชาชนแซ่ซ้องเทิดทูนกษัตริย์โกญจนาทดังมา
ถึงในนี้ ส่วนทีฑายุหลานรัก ขอให้แกตายเป็นคนสุดท้าย เพื่ออยู่รอดูทุกคนที่นับถือ
ในตัวแกตายไปต่อหน้าต่อตาทีละศพ...ทีละศพ สุดท้ายก็คือศิศิรา ที่ฉันจะส่งซากกลับ
มาโยนให้แกเหมือนกระดูกชิ้นนึง"

ที ฑายุพุ่งพรวด แต่เจอมือสังหารเสยด้วยปืนก่อนจะถึงตัวโกญจนาท คนอื่นๆจ้องจะช่วย
เหลือทีฑายุ แต่มือสังหารจ่อปืนเล็งเตรียมพร้อม โกญจนาทหันมารับชามข้าวจาก
มือสังหารแล้วโยนลงไปกลางห้อง ทุกคนมองเจ็บใจ ทั้งที่หิวแต่ไม่มีใครยอมแตะ
โกญจนาทแสยะยิ้ม โยนถังน้ำลงไปใกล้ชามข้าว

"ไม่ต้องรีบกินกันล่ะ เพราะนี่มันอาหารของพวกแกทั้งเดือน"

"แกจะเอาอะไรก็ว่ามา" ทีฑายุกระชากเสียง

"ฉันได้หมดแล้ว บ้านเมืองเป็นของฉัน มงกุฎแสงจันทร์ เป็นของฉัน เหลือแค่ความตาย
ของพวกเหล่าผู้จงรักภักดี"

"ประชาชนจะสดุดีผู้นำชั่วๆด้วยเสียงสาปแช่ง" สันธิคำราม

"เสียง สาปแช่งลบหลู่ผู้มากบารมีอย่างฉันไม่ได้ พวกแกใครที่ทนไม่ไหวก็รีบๆตายไปซ
ะ คนที่เหลือจะได้กินเนื้อ... ประทังชีวิต" โกญจนาทยิ้มเย้ย กลับออกไปอย่างผู้ชนะ

ooooooo

ถึงยามคับขัน หากตีกันเองต้องเป็นที่สะใจของโกญจนาท ทีฑายุจึงเตือนสติทุกคน
ให้รักษาลมหายใจเพื่อออกไปกอบกู้บ้านเมือง ดีกว่าปล่อยให้สิ้นลมหายใจอยู่ที่นี่อย่างไร้ค่า
ทุกคนเห็นด้วยกับทีฑายุ โดยเฉพาะไมยาดินสำนึกผิดที่ฆ่ากษัตริย์สิปปภาคตามคำสั่งโกญจนาท
จึงไถ่บาปยอมพลีชีพแอบเอาระเบิดที่มือสังหารเข้ามาติดตั้งหวังให้ทุกคนตาย
หมู่มาติดไว้กับตัวเองคนเดียว เพื่อเปิดทางให้คนอื่นๆหนีออกไป

เสียง ระเบิดดังกึกก้อง ร่างไมยาดินกระเด็นไปแน่นิ่งเลือดอาบ ทีฑายุและทุกคนที่หนีออก
ไปได้หันมองสภาพศพไมยาดินด้วยความสลดใจ ทีฑายุย้ำว่า ไมยาดินคือผู้เสียสละที่
พวกเราจะไม่มีวันลืม...จากนั้นทีฑายุให้ญาณี จตารี และส้มเสี้ยวรีบไปดูแลเจ้าชายธราเทพ
รักษาชีวิตพระองค์ไว้ให้ได้

พวกญาณีไปถึงวังทันเวลา ช่วยกันจับรุกขมณีที่เห็นแก่ อามิสสินจ้างจากโกญจนาท
กำลังจะฉีดยาพิษใส่ร่างธราเทพ...

ส่วนโกญจนาทเมื่อรู้ว่าพวกทีฑายุหนีออกไปได้หมด จึงสั่งมาณสิงห์ให้เอาศิศิราออกมา
เป็นตัวประกัน

ทีฑายุวิ่งนำทุกคนไปแถวเขื่อน แล้วสั่งกระจายกำลังคุ้มกันรอบนอก ให้โกญจนาทคิดว่า
มันได้เปรียบ จนกว่าเขาจะได้ตัวศิศิรามาแล้วค่อยบุก

"ระวังตัวด้วย" สันธิเตือน ทีฑายุพยักหน้า สันธิจึงนำกลุ่มวิ่งไปอีกทาง เหลือเพียงกัญญาภัคยังยืนอยู่กับที่

"ให้กัญญาเป็นคนฆ่าโกญจนาทได้มั้ยคะ น้องอยากให้มันตายด้วยมือของน้อง"

"พี่ไม่ให้น้องเสี่ยง"

"ไม ยาดินทำให้น้องรู้ว่าความตายมันไม่น่าหวาดกลัวเลย ถ้าเราต้องตายเพื่อแผ่นดินที่
มอบชีวิตให้เรา เพื่อความรักที่มีคนจดจำ ขอให้น้องได้อยู่ในความทรงจำของพี่
เพราะในหัวใจนี้พี่ไม่เหลือที่ว่างให้น้องแล้ว ไม่ว่าจะเป็นหรือตาย น้องก็เคยได้ร่วมทุกข์ร่วมสุข
เคียงข้างคนที่น้องรัก แค่นี้ลมหายใจของน้องก็มีค่า" กัญญาภัคจับมือทีฑายุมาแนบแก้ม
ก่อนจะปล่อยลงช้าๆ "รีบไปช่วยคนรักของพี่เถอะค่ะ"

ทีฑายุซึ้งใจ โอบกอดกัญญาภัคก่อนจะดึงตัวออกรีบวิ่งไปตามแนวเขื่อน แล้วเผชิญหน้า
กับโกญจนาทอย่างไม่กลัวเกรง

"ปล่อยตัวศิศิรามา แล้วแกจะฆ่าฉัน...ก็เอาเลย"

"ฉัน ผิดเองที่ปล่อยให้ลูกกำพร้าอย่างแกมีชีวิตรอดกล้าแกร่งมาต่อรองกับฉันได้ ทั้งๆที่ฉันน่าจะ
ยิงแกให้ตายไปพร้อมๆกับไอ้น้องชายคนซื่อ"

"แกเคยบอกว่า พ่อศิศิราฆ่าพ่อฉัน"

"ข้า ราชการสัตย์ซื่อ มือสะอาด ไม่กล้าแม้กระทั่งช่วยพี่ชายถ่ายเทเงินแผ่นดินมาเป็นสมบัติตัวเอง
มันก็สมควรได้รับรางวัลแห่งชีวิตเป็นความตาย"

ทีฑายุสีหน้าคั่งแค้นกับความจริงที่เพิ่งเปิดเผย "แก...แกฆ่าพ่อฉัน แล้วแกเลี้ยงฉันมาทำไม"

"เพราะ แกจะเป็นทายาทคนเดียวที่พาฉันขึ้นไปสวมมงกุฎแสงจันทร์ แต่เลือดพ่อแกมันแรง
แกถึงกล้าเนรคุณฉัน เพราะแกรักราชวงศ์ เพราะแกรักนังศิศิรา"

ทีฑายุหยิบปืนขึ้นจ่อโกญจนาท โกญจนาทกลับมองเฉย เหยียดยิ้มสะใจ

"ก็เอาสิ ถ้าแกอยากเห็นศพเจ้าหญิงเร็วขึ้น"

"ศิศิราอยู่ที่ไหน"

ทัน ใดมาณสิงห์ก็พาศิศิราในสภาพถูกมัดมือออกมา โกญจนาทมั่นใจว่าเป็นต่อ สั่งทีฑายุทิ้ง
ปืนแล้วคลานเข้ามา ศิศิราร้องห้ามทีฑายุอย่าก้มหัวให้มัน แต่ทีฑายุต้องรักษาชีวิตศิศิรา
ยอมทิ้งปืนและคุกเข่าลง

"ฉันคุกเข่า ให้แกเพื่อรักษาคนที่สูงค่า เป็นยิ่งกว่าชีวิต ยิ่งกว่าจิตใจ...ชีวิตข้ารองบาทคนนี้
เคยสัญญาว่ายินดีตายเพื่อรักษาน้ำค้าง ให้ใสหมดจดกลางใจทุกคนตลอดไป"

"สะใจหรือยัง มาณสิงห์ สะใจหรือยังที่ร่วมมือกับคนทรยศ" ศิศิราระเบิดเสียง
โกญจนาทไม่รอช้า ยั่วยุมาณสิงห์ ให้ตัดสินใจ

"ยิงมันสิ มาณสิงห์ ยิงทีฑายุให้สมกับความแค้น

ที่มันมาแย่งความรัก"

"ทั้งๆ ที่ฉันใช้ชีวิตเป็นเดิมพันในรัก อกของฉันจะเป็น ที่พักพิงให้เจ้าหญิงได้ดีกว่า แค่ไม่มีแกสักคน
ชื่อเดียวที่เจ้าหญิงจะรักคือมาณสิงห์" มาณสิงห์พูดจบก็ลั่นกระสุนโดนไหล่ทีฑายุที่เอี้ยวตัวหลบล้มล
ง ศิศิราตกใจร้องลั่น ดิ้นรน จะไปหาทีฑายุ ทีฑายุเองก็พยายามลุกขึ้นจะเข้ามาหาศิศิรา

เสี้ยวนาทีนั้น โกญจนาทชักปืนยิงรัวใส่ท้องมาณสิงห์ แล้วยิงเข้าที่ขาทีฑายุ
ก่อนหันปืนไปหาศิศิราอย่างรวดเร็ว

"นั่น... หัวใจดวงเดียวของพวกแกใช่มั้ย" โกญจนาทเหนี่ยวไกใส่ศิศิราจนร่างเธอทรุดฮวบ
ท่ามกลางสายตาตกตะลึง ของมาณสิงห์กับทีฑายุ และเสียงหัวเราะดังก้องของโกญจนาท

พวกสันธิที่ ซุ่มอยู่รอบนอกได้ยินเสียงปืนก็ตกใจกรูกัน ออกไป...ทีฑายุฝืนความเจ็บเข้า
ประคองร่างศิศิรา ขณะที่มาณสิงห์ จะคว้าปืนที่พื้น แต่ถูกโกญจนาทกระหน่ำยิงจนทรุดไปอีก

"ขอบใจฉันสิ ที่จะส่งให้พวกแกได้ไปรักกันต่อถึงชาติหน้า" โกญจนาทตั้งใจจะซ้ำทีฑายุกับศิศิรา
แต่กัญญาภัคพรวดเข้ามาพร้อมปืนในมือ

"ฉันต่างหากที่จะส่งแกไปครองบัลลังก์ในนรก"

กัญญาภัคกระหน่ำยิง จนโกญจนาทต้องล่าถอย กัญญาภัคบอกทีฑายุว่า เธอจะไปล่ามันเอง
พูดจบก็วิ่งตามโกญจนาทไป

มาณสิงห์ที่ยังมีลมหายใจคลานเข้ามาหาศิศิราที่เลือดท่วมตัวอยู่ในอ้อมกอดของทีฑายุ

"เจ้าหญิง อภัยให้คนโง่อย่างกระหม่อมด้วย...เจ้าหญิง"

"ศิศิรา แข็งใจไว้...ศิศิรา เราต้องได้อยู่ด้วยกัน"

พวกสันธิวิ่งกรูเข้ามาเห็น สันธิมองสภาพลูกชายแล้วเข้ามาช้อนร่าง มาณสิงห์กระอักเลือดออกมา
พยายามเรียกพ่อ...

"ฉันไม่ใช่พ่อแก ตั้งแต่วันที่แกผิดคำสัตย์สาบานว่าจะยอมตายเพื่อราชวงศ์"

"ผมทำเพื่อ...เจ้าหญิง"

"ไม่ใช่ แกทำเพื่อความสุขของตัวเอง แกคิดว่าทีฑายุ ตาย เจ้าหญิงจะรักแกได้บ้าง
เห็นแล้วใช่มั้ยว่าแกแยกคน

สองคนนี้ไม่ได้"

"ผม ผิดคำสัตย์สาบาน ทำลายเกียรติแห่งทหาร หัวใจผมกลับทำร้ายเจ้าหญิง
เพราะรักที่เห็นแก่ตัว ยกโทษให้ลูกคนนี้ด้วยนะพ่อ" มาณสิงห์น้ำตาไหล
สันธิกลั้นสะอื้น วางร่างมาณสิงห์

"สำหรับความเป็นพ่อ ไม่มีอะไรเทียบได้กับความรักลูก แต่พ่อเป็นทหารของราชบัลลังก์
ชีวิตนี้เราต้องอุทิศเพื่อสิ่งเดียว..."

"ความ ภักดี...ต้องอยู่เหนือหัวใจ" สิ้นคำของมาณสิงห์ สันธิตัดสินใจเด็ดเดี่ยวเหนี่ยว
ไกใส่มาณสิงห์ ทุกคนตะลึงอึ้งไปกันหมด...สันธิเข้ามาปิดเปลือกตาให้ลูกชายก่อน
จะกอดไว้ ท่ามกลางความสลดใจของทุกคน

ooooooo

ทางกัญญาภัคที่ติดตามโกญจนาทไปอีกด้าน กัญญาภัคพลาดถูกโกญจนาทยิงแทบทรุด

"นังลูกเลว นังงูพิษ อยากเป็นคนดีเพื่อรักแท้ ฉันก็จะให้แกตายไปกับความดีที่ทีฑายุ
มันไม่เหลียวแล"

"อย่างน้อยชีวิตฉันก็มีความรัก รักที่มีแต่ให้ ไม่ใช่โลภมากอยากได้จนอัดแน่นไปด้วย
ความเลวอย่างแก"

โกญจนาททำท่าจะยิงซ้ำ กัญญาภัคฮึดสู้หยิบเข็มฉีดยาจากเอวปักเข้าที่คอโกญจนาทเต็มแรง

"อย่าอยู่ก่อเวรก่อกรรมกับใครอีกเลย ไอ้ชาติชั่ว"

โกญจนาท ดิ้นจนเข็มหักคาคอ ยกปืนจะเล็งแต่มือไม่มีแรงเพราะฤทธิ์ยาที่ทำลายประสาท
ควบคุมร่างกายทุกส่วน ที่สุดปืนก็หล่นจากมือ ร่างล้มตึงลง กัญญาภัคฝืนความเจ็บพยายาม
มัดเท้าโกญจนาทไว้กับม้า

"กัญญาภัค...เห็นแก่พ่อสักครั้ง"

"พ่อ เหรอ แกเคยทำอะไรที่แสดงถึงความเป็นพ่อบ้าง พ่อเลี้ยงอย่างแกอุ้มชูฉันมาก็เพราะ
เห็นฉันเป็นแค่สัตว์ในบ้าน แกใช้ทุกคนเป็นแขนขาเพื่ออำนาจของแกใช่มั้ย วันนี้แหละที่ฉัน
จะเอาคืนจนแกทุรนทุราย ร้องหาแต่ความตาย"

"กัญญา ภัค ลูกรัก พ่อถูกราเชนทระมันบังคับ ขอแค่ ลูกให้อภัย เราจะกลับมาเป็นครอบครัว
กันใหม่ มองไปข้างหน้า สิลูก ประวัติศาสตร์จะต้องจารึกว่าครอบครัวเราคือสามพ่อแม่ลู
ที่ยิ่งใหญ่เหนือ ราชวงศ์"

"คนเขียนประวัติศาสตร์ด้วยความมักใหญ่ใฝ่สูง ไม่รู้จัก พออย่างแก ไม่สมควรจะอยู่ให้หนัก
แผ่นดิน ลาก่อน ไอ้สัตว์ เดรัจฉานในคราบมนุษย์"

กัญญาภัครวบรวมกำลังสุดท้ายหวดแส้ลงที่หลังม้า ม้าเตลิดลากร่างโกญจนาทครูดไปกับพื้นทันที

"ตายไปซะ โกญจนาท ไม่มีแก มงกุฎแสงจันทร์จะสง่างามตลอดกาล"

กัญญา ภัคยืนตัวงอมือกุมท้องที่ถูกยิง มองโกญจนาทที่ถูกม้าลากตรงไปยังทิวเขาดำ
ทะมึนอย่างอเนจอนาถ หมดทางรอด แล้วกัญญาภัคก็ฝืนเจ็บไม่ไหวหงายลงกับพื้น
นอนหายใจรวยริน น้ำตาซึม

"กัญญา...ทำเพื่อพี่แล้วนะคะ พี่ทีฑายุ" ดวงตากัญญาภัค ค่อยๆหลับลง สิ้นลมหายใจ
อย่างเดียวดายไร้อ้อมกอดชายที่รัก ดั่งดวงใจ...

ooooooo

ศิ ศิราถูกผ่าตัดด่วนและรอดพ้นความตายมาได้ ท่ามกลางความดีใจของทุกคนที่เฝ้ารออย่างจดจ่อ
โดยเฉพาะทีฑายุ...ส่วนสินาตีที่พลาดหวังและสูญเสียคนที่รักทั้งลูกและสามีก็ ทำใจไม่ได้ถึง
กับเสียสติ นารียา ต้องเข้ามาดูด้วยความสงสาร

หลัง เหตุการณ์ร้ายๆผ่านไป ธราเทพที่กลับมาแข็งแรงดังเดิมก็ตัดสินใจไปเรียนต่อ
โดยจะมอบให้ศิศิราและทีฑายุเป็นผู้สำเร็จราชการแทน แต่ทีฑายุกับศิศิราซึ่งตกลงกัน
ไว้ก่อนหน้าแล้ว คัดค้านขึ้นทันทีท่ามกลางสายตาทุกคู่ของทุกคนในท้องพระโรง

"เราสองคนจะไม่ขอรับตำแหน่งใดๆที่เกี่ยวกับการปกครองบ้านเมืองเลย แต่จะเป็นแค่มือที่
คอยประคองมงกุฎแสงจันทร์ไว้ตลอดไป"

ทุกคนตกใจ วิชัยรีบเอ่ยท้วงศิศิรา

"แต่องค์กษัตริย์ต้องมีที่ปรึกษานะพระเจ้าค่ะ"

"ที่ปรึกษาที่ดีที่สุดอยู่ไม่ไกลน้องเราเลยท่านวิชัย"

"ควร มิควรแล้วแต่จะโปรด ยังมีผู้จงรักภักดีอีกคนหนึ่ง ที่เหมาะสมจะทำงานเป็นตัว
อย่างของข้าแผ่นดิน ที่เปี่ยมด้วยความซื่อสัตย์และความเที่ยงตรง คนคนนั้นได้พิสูจน์ตัวเอง
แล้วว่าจะไม่ยอมให้ แม้แต่สายเลือดคิดคดทรยศทำลายบ้านเมืองได้ แม้จะทนทุกข์เพียงใด
หน้าที่ก็จะอยู่เหนือหัวใจเสมอ"

ทีฑายุหมายถึงแม่ทัพสันธิ ทุกคนหันมอง ขณะที่ธราเทพ ก้าวลงจากบัลลังก์ยื่นตราลัญจกร
ให้สันธิที่มีสีหน้านึกไม่ถึง

"นับตั้งแต่บัดนี้ แม่ทัพสันธิคือผู้สำเร็จราชการแทนเรา"

สันธิแววตาปลาบปลื้มสูงสุด ย่อตัวรับตราลัญจกรเทิดไว้เหนือหัว

"เป็น พระมหากรุณาธิคุณที่สุดแก่ชีวิตข้าแผ่นดินคนนี้ เกล้ากระหม่อมขอสัญญาว่
าจะกระทำหน้าที่เพื่อบ้านเมืองด้วยความซื่อตรงและ ซื่อสัตย์ตราบชั่วชีวิตจะหาไม่"

ทุกคนมีแต่รอยยิ้ม วางใจกับความซื่อสัตย์ยิ่งชีวิตของสันธิ ที่จะเป็นตัวแทนดูแลบ้านเมืองต่อไป

ooooooo

ด้าน หลังวัง กลุ่มหนุ่มสาวเดินคุยกันมาเสียงเฮฮา มีความสุข ธนูเพลิงแอบมองจตารี
บ่อยครั้ง พอจตารี รู้ตัวมองกลับ ธนูเพลิงก็รีบก้มหน้าซ่อนความเขิน

"เอ้า...เฮ้ย มัวแต่มอง ชาตินี้ผู้หญิงเขาจะรู้มั้ยว่ารัก" มาลข่านตะโกนแซว

"มันต้องกล้า บ้าบิ่นแบบนี้"

ว่า แล้วดรัณย์ก็พุ่งเข้าจูบแก้มส้มเสี้ยวที่มัวแต่เพลิดเพลิน ไม่ได้ตั้งตัว ส้มเสี้ยวถึงกับ
หัวเราะค้าง มาลข่านกับประสันต์ ชอบใจเป่าปากวี้ดวิ้วกันใหญ่ ส้มเสี้ยวหน้าแดงกลบความอาย
ด้วยการไล่เตะดรัณย์ ทำเอาญาณียิ้มขำ แต่แล้วชะงักกึกที่จู่ๆ

ประสันต์แกล้งเบียดมาใกล้จับมือญาณีหน้าตา เฉย ญาณีซึ่งมีใจแสร้งมองไปทางอื่น
แต่ไม่ยอมปล่อยมือประสันต์ แถมบีบแรงจนประสันต์หน้าเหยเก มาลข่านเห็นแล้วหัวเราะก๊าก
ส่วนธนูเพลิงกับจตารีก็มัวแต่จ้องกันไปยิ้มกันมาราวกับอยู่กันตามลำพังใน ห้วงรัก...

ที่ริมน้ำ ทีฑายุเดินกุมมือศิศิราอย่างนุ่มนวลทะนุถนอม ท่ามกลางบรรยากาศสวยงามยามเย็น

"ขอบคุณนะทีฑายุ หัวใจที่มีแต่คำว่าปกป้องของเธอทำให้มงกุฎแสงจันทร์กลับมาสูงค่าเหมือนเดิม
" ศิศิราเอ่ยเอื้อน ด้วยรอยยิ้ม

"มัน เป็นหน้าที่ของคนทุกคนที่ต้องจงรักภักดีต่อแผ่นดิน เกิด และไม่ปล่อยให้คนคิดทำลาย
บ้านเมืองมีอำนาจเหนือคนดี ไปได้" ทีฑายุกล่าวหนักแน่น

"แล้วเธอไม่ต้องการอำนาจวาสนาตอบแทนบ้างเลยเหรอ"

"อำนาจวาสนาไม่ใช่สิ่งจีรังยั่งยืนเท่ากับความซื่อสัตย์ และความดี ขอแค่รางวัลความรักจากศิศิรา.
..น้ำค้างหยดนี้เพียงหยดเดียว"

ทีฑายุจูบหน้าผากศิศิราแล้วโอบกอดด้วยความรักที่เต็มเปี่ยม ศิศิรากอดตอบ ซาบซึ้งและชื่นใจ
เหลือเกินที่ตนเอง เลือกคู่ครองไม่ผิด...

ooooooo

-อวสาน-
ไทยรัฐออนไลน์

* โดย จากบทละครโทรทัศน์ทางช่อง 3 โดย พัญสร
* 10 ธันวาคม 2552, 05:00 น.

รวมบทละคร จากไทยรัฐ

บทละครมงกุฏแสงจันทร์1



บทละครมงกุฏแสงจันทร์2




บทละครมงกุฎแสงจันทร์3


วันเสาร์ที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

มงกุฎแสงจันทร์ในไทยรัฐ2


ตอนที่ 13

เช้า วันใหม่ ภายในท้องพระโรงถูกตกแต่งด้วยดอกไม้สวยงามสมกับเป็นงานวิวาห์
โกญจนาทสนทนากับราเชนทระกษัตริย์แห่งแคว้นนิราษิณ ห่างมาคือแม่ทัพสันชัย
ผู้ติดตามราเชนทระจับกลุ่มอยู่กับรามปุระ ทาอูและไมยาดิน

จากการสนทนากันไม่นานนัก ราเชนทระกับสันชัยก็พอจะรู้ว่า บัดนี้ปัญจารัตน์ตก
อยู่ในกำมือโกญจนาทเสียแล้ว

ศิ ศิรา...เจ้าสาวของงานยังนั่งน้ำตาคลออยู่ในห้องนอน ญาณีต้องปลอบ
และให้กำลังใจอยู่ครู่ใหญ่ กว่าศิศิราจะยอมแต่งตัวแล้วมุ่งหน้าไปท้องพระโรง
แต่ระหว่างทางศิศิราถูกสินาตีกลั่นแกล้ง โดยสั่งให้รักเร่แอบเอาน้ำสาดมาจาก
ชั้นบนจนศิศิราเปียกปอน นารียาต้องรีบพาศิศิราไปเปลี่ยนชุดใหม่ ส่วนญาณีวิ่งตาม
รักเร่ที่ผลุบหนีหายไปต่อหน้า จนไปเจอรักเร่ จนมุมมาลข่านอยู่ตรงสวนหลังวัง

สินาตีต้องการให้ลูกสาวของตัวเองโดด เด่นที่สุดในงานต่อหน้าราเชนทระ
และท่าทางก็จะสมใจสินาตีเสียด้วย เมื่อกัญญาภัคปรากฏตัวก่อนศิศิรา
กัญญาภัคเข้ามาแนะนำตัวกับราเชนทระด้วยหูตาแพรวพราว ซ้ำยังพูดคุยทุกเรื่องอย่างฉลาด
เฉลียว ไม่เว้นแม้แต่เรื่องการเมือง จึงได้รับคำชมจากราเชนทระไม่น้อย
แต่กับโกญจนาทเขารู้สึกไม่ชอบใจที่กัญญาภัคทำเก่ง จึงพูดหักหน้าก่อน
จะสั่งให้ไปตามเจ้าหญิงกับทีฑายุ

ศิศิรายังอิดออด ไม่อยากใส่ชุดใหม่ที่ข้าหลวงเอามาให้ จนทีฑายุต้องขู่บังคับ
และทำท่าจะเปลี่ยนให้ ศิศิราถึงยอมถอยไปหลังม่านจัดการกับตัวเองจนเสร็จเรียบร้อย
ทีฑายุเห็นแล้วถึงกับตะลึงในความงามของเธอ

"สีเหลืองนวล...สมกับเป็น เจ้าสาวแห่งราชวงศ์" ทีฑายุ ก้าวเข้ามา ศิศิราร้องห้ามพร้อม
กับจะเบี่ยงตัวหนี แต่ทีฑายุโอบเอวศิศิราอย่างรวดเร็ว แล้วกระซิบกรุ้มกริ่ม "อย่าอะไร..
.อย่าใจอ่อนหลงรักผมเป็นครั้งที่สองงั้นเหรอ"

ศิศิราเงื้อมือจะตบแต่ทีฑายุจับมือหมับ แถมกอดแน่นขึ้น กัญญาภัคเข้ามาเห็นภาพนั้นพอดี
จ้องศิศิราเหมือนจะกินเลือดกินเนื้อ

"ไม่นึกเลยว่าจะยับยั้งอารมณ์ตัวเองไม่ไหว อยากให้ คนอื่นมาเห็นภาพอุจาดตานอก
ห้องบรรทมเสียจริง"

"แสดงความรักกับเจ้าสาว จะที่ไหน เมื่อไหร่ เขาก็เรียกว่าหวาน" ทีฑายุพูดอย่างไม่แคร์
ศิศิราถือโอกาสนี้ยั่วกัญญาภัค

"นอกซะจากว่าเป็นคนอื่นที่ฝันจะใส่ชุดเจ้าสาว แต่ก็วาสนาไม่ถึง"

"งั้นกัญญาขอให้เจ้าหญิงรักษาวาสนาไว้ให้ได้นานที่สุด เพคะ เพราะรอยยิ้มมัก
จะตามมาด้วยความหายนะที่แทบไม่เหลือกระทั่งชีวิต"

"ได้ เวลาพี่ต้องพาเจ้าสาวไปประกาศตัวแล้ว ว่าเรากำลังจะเป็นผัวเมียกัน" ทีฑายุตัดบท
กุมมือศิศิราเดินออกไป กัญญา ภัคแค้นแสนแค้นที่ทีฑายุปกป้องศิศิรา
อยากจะอาละวาดให้ทุกอย่างกระเจิง...

เมื่อทีฑายุควงแขนศิศิราเข้ามาในท้องพระโรง ศิศิราผละออกจากทีฑายุตรง
ไปถอนสายบัวตรงหน้าราเชนทระ

"เราขอนำความยินดีและความชื่นชมจากใจจริงของประชาชนชาวนิราษิณ
มามอบแด่วันอันเป็นมงคลของเจ้าหญิงศิศิรา"

"ขอบพระทัยเพคะ หม่อมฉันดีใจเหลือเกินที่เห็นพระองค์ ไม่คิดเลยว่าชีวิตนี้จ
ะมีโอกาสได้พบมิตรแท้ของเสด็จพ่อเสด็จแม่อีกครั้ง"

"นิราษิณจะเป็นมิตรที่ดีกับปัญจารัตน์ไม่มีวันเสื่อมคลาย" ราเชนทระกล่าวหนักแน่น

โกญจนาท ปั้นยิ้มแนะนำทีฑายุหลานชาย แล้วพยายาม จะพูดเรื่องความร่วม
มือทางทหารระหว่างสองแคว้น เพื่อกวาดล้างพวกที่ซ่องสุมทำตัวเป็นภัยกับบ้านเมือง
แต่ราเชนทระขอให้พักเรื่องทหารไว้สักครู่ น่าจะคุยกันเรื่องสบายๆในวันมงคล
กัญญาภัคเลยฉวยโอกาสนี้แขวะศิศิรา

"เจ้า หญิงคงให้คำแนะนำเรื่องสถานที่ท่องเที่ยวงดงามของปัญจารัตน์ได้เพคะ
เพราะพระองค์กับพี่ทีฑายุชอบใช้เวลาตามลำพังดั้นด้นไปในที่ที่ยังไม่มีใคร พบ"

"แสดงว่าปัญจารัตน์ยังมีธรรมชาติที่น่าค้นหาอีกหลายแห่ง"

"หาก พระองค์ต้องการทราบเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับราชการงานเมืองที่ปัญจารัตน์
ลูกกัญญาภัคของหม่อมฉันก็ยินดีและเป็นเกียรติอย่างยิ่งที่จะได้ถวายงานเพคะ
ไม่ว่าจะเป็นที่ไหน เวลาใดที่ต้องพระประสงค์" สินาตีเปิดทางเต็มที่ ราเชนทระยิ้มชอบใจ
แต่ทว่าโกญจนาทมองเขม่นสองแม่ลูก

ครั้นมีจังหวะอยู่กันตามลำพัง โกญจนาทจึงตำหนิสินาตีทำน่าเกลียด เสนอตัวลูกสาว
ออกนอกหน้าเหมือนเป็นผักปลาในตลาด

"ไม่ดีเหรอคะ ถ้าลูกกัญญาได้เป็นราชินีแห่งนิราษิณ ก็เท่ากับเราปิดตายทางรอดของศิศิรา"

"ไม่ต้องคิดจะช่วย ฉันมีวิธีของฉัน"

"ด้วยการใช้แค่สายเลือดเดียวกันอย่างทีฑายุเท่านั้น"

"เธอ ได้ในสิ่งที่เธอต้องการแน่ สินาตี แต่ถ้าฉันรู้ว่าเธอสองแม่ลูกดิ้นรนจะทำ
อะไรเกินตัว พวกเธอจะไม่มีที่ซุกหัวอยู่บนแผ่นดินนี้" โกญจนาทคาดโทษแล้วเดินจากมา
สินาตีเริ่มรู้สึกว่าตัวเองอาจจะถูกทอดทิ้ง

ส่วนอีกด้าน กัญญาภัคกำลังหว่านเสน่ห์ราเชนทระ โดยมีสายตาไมยาดินจับจ้องไม่พอใจ
จนเมื่อกัญญาภัคแยกตัวออกมาด้วยรอยยิ้มพิมพ์ใจ ไมยาดินจึงเข้ามาค่อนแคะ

"กษัตริย์ราเชนทระคงมีเรื่องสนุกๆเล่าให้เธอฟังเยอะแยะ ใบหน้าเธอถึงไม่คลายรอยยิ้ม"

กัญญา ภัคไม่ตอบโต้ กลับทำท่าลำบากใจ บีบน้ำตาแต่งเรื่องหลอกไมยาดินว่าเธอไม่ได้
เต็มใจทำแบบนี้ แต่เป็นความต้องการโกญจนาท ที่ให้สร้างความพอใจเล็กๆน้อยๆแก่ราเชนทระ

"ท่านโกญจนาททำไม่ถูก"

"อย่าว่าท่านเลย เรายินดีสละชีวิตและเลือดเนื้อช่วยเหลืองานของแผ่นดิน"

"นิราษิณตกลงจะช่วยเราปราบปรามพวกใต้ดินที่อาจจะเป็นกองกำลังของสันธิอยู่แล้ว"

"ท่านคงอยากให้แน่ใจยิ่งขึ้น ท่านทำเพื่อความมั่นคงของตำแหน่งประมุขของปัญจารัตน์"

"ยังไงท่านโกญจนาทก็ต้องได้เป็นกษัตริย์องค์ต่อไป"

"ไม่เป็นไรหรอกไมยาดิน เกิดเป็นหญิงอย่างเราต้องทนให้ได้ ต่อให้ยิ้มแย้มทั้งๆ
ที่หัวใจกำลังร้องไห้ เราก็ต้องทำ"

ไมยาดินมองกัญญาภัคด้วยสายตาสงสาร กัญญาภัคลอบยิ้มสมใจ

ooooooo

ขณะ งานเลี้ยงยังคงดำเนินไป ศิศิรากลับหลบเข้ามาอยู่กับนารียาที่ห้องปักไหม
เมื่อทีฑายุไม่เห็นเจ้าสาวจึงเดินตามหาให้ควั่ก กว่าจะมาพบในห้องนี้
ทีฑายุต่อว่าศิศิราเอะอะก็หนีคนมาหลบอยู่แต่ในห้อง ศิศิราเลยย้อนเข้าให้ว่า
เพราะเธอตีสองหน้าไม่เก่งเหมือนเขา

"ก็หัดๆไว้บ้างสิ ซื่อเกินไป ชีวิตถึงได้ลำบาก"

"ทีฑายุ อย่าพูดกับเจ้าหญิงโดยไม่มีความเคารพ" นารียาเตือนลูก

"ผมพูดในฐานะสามีที่ต้องสั่งสอนภรรยาครับ"

"เราไม่เคยคิดว่าตัวเองอยู่ในฐานะภรรยาของศัตรู"

"ทำใจซะศิศิรา ยังไงศัตรูอย่างฉันก็คือที่พึ่งเดียวของเธอ"

"ที่ พึ่ง...อย่าพูดเพื่อให้ค่าตัวเองเลยทีฑายุ เพราะทุกวันนี้เรากับคนของเรา
ก็ดูแลตัวเองได้ดีกว่าอยู่แล้ว" ศิศิราเชิดหน้าแววตาถือดี ในขณะที่ทีฑายุก็
มองศิศิราอย่างดื้อดึง ถือดีไม่แพ้กัน นารียามองทั้งคู่แล้วพูดไม่ออกบอกไม่ถูก
ได้แต่ ถอนใจกลัดกลุ้ม

ฝ่ายรักเร่ที่บังอาจแกล้งศิศิราจนเปียกปอน ก็ถูกญาณีกับส้มเสี้ยวเอาคืนซะกระอักเลือด
ท่ามกลางความขยาดกลัวของพวกมาลข่าน แล้วทั้งสามหนุ่มก็ผละไป
เพื่อไปเตรียมตัวบรรเลงเพลงกล่อมหอให้เจ้าหญิงกับทีฑายุ

แต่กัญญาภัค ทนไม่ได้ที่จะเห็นศิศิราเข้าหอกับทีฑายุ กัญญาภัคแอบลงไปที่คุก
แล้วพูดจาหว่านล้อมมาณสิงห์ให้ออกไปช่วยศิศิรา มาณสิงห์รู้ทันว่ากัญญาภัคจะหลอก
ให้เขาเข้าไปตายในวังต่อหน้าทุกคน แต่เมื่อกัญญาภัคทิ้งกุญแจห้องขังไว้ให้ก่อนออกไป
มาณสิงห์กลับตัดสินใจปล่อยตัวเองออกไปพร้อมธนูเพลิง กัญญาภัคที่แอบดูผลงานตัวเอง
ในมุมมืดถึงกับแสยะยิ้มสะใจสมใจ

"หนีไปเลยไอ้องครักษ์คนซื่อ แล้วก็รีบเข้าไปทำลายงานแต่งงานคืนนี้ให้พังพินาศ
แล้วก็พาคนรักของแกหนีไปซะ หรือไม่ก็ตายไปพร้อมๆกัน"

ooooooo

ในงานเลี้ยง โกญจนาทเฝ้าจับตาศิศิราที่ไม่ค่อยอยู่ใกล้ชิดทีฑายุ พอเห็นเธอจะเดิน
ไปทางกลุ่มของราเชนทระ โกญจนาทก็รีบตามประกบ

"เจ้าสาวควรอยู่ใกล้เจ้าบ่าวตลอดเวลา"

"เราไม่ใช่หุ่นที่จะจับนั่งนิ่ง ไม่ต้องพูดจากับใคร"

"ถ้า จะไปพูดจาเล่าเรื่องที่ประสบพบเจอมาให้กษัตริย์ ราเชนทระเห็นใจ ขอเตือนว่าอย่า
องค์ธราเทพยังอยู่ในเงื้อมมือเรา อย่าลืม" เห็นทีฑายุเดินเข้ามาหาศิศิรา
โกญจนาทจึงสั่งให้ทีฑายุพาเจ้าสาวกลับไปที่โต๊ะ...ทีฑายุทำหน้าเบื่อหน่าย
เตือนศิศิราให้อยู่เฉยๆเสียบ้าง ศิศิรากลับยืนทำหูทวนลม

อีกครู่ต่อ มา ญาณีก็มากระซิบบอกศิศิราว่าได้ข่าวมาณสิงห์กับธนูเพลิงหนีออกจากคุก
ศิศิราจึงนำหน้าญาณีหลบไปทางสวนหลังวัง แล้วก็พบมาณสิงห์ที่นี่จริงๆ

ขณะ เดียวกันนั้น ทีฑายุกำลังบรรเลงเพลงร่วมวงกับเพื่อนๆ แต่พอหันมองรอบทิศไม่เห็นศิศิรา
จึงผละออกมาเดินหา เมื่อกัญญาภัคยิ้มหวานเข้ามาถามหาเจ้าสาว หรือว่ามีใครมาดักชิงตัว
ไปเสียแล้ว ทีฑายุนิ่วหน้ามองกัญญาภัคอย่างสงสัย กัญญาภัคเลยกลับคำว่าล้อเล่น...

ศิศิราต้องการให้มาณสิงห์รีบหนีไป ส่วนตัวเธอคงหนีไปไหนไม่ได้อีกแล้ว มาณสิงห์รู้สึกผิด
ทรุดลงคุกเข่าขอร้อง

"กระหม่อมผิดที่ทำให้เจ้าหญิงต้องแต่งงาน แต่กระหม่อมอยู่ตรงหน้าเจ้าหญิงแล้ว
ให้กระหม่อมพาเจ้าหญิงหนีตอนนี้"

"จะ พาไป...ขออนุญาตผัวเขาหรือยัง" เสียงทีฑายุดังขึ้นก่อนจะก้าวเข้ามาด้วยสีหน้า
ไม่พอใจอย่างแรง ด้านหลังมีทหารจำนวนหนึ่ง...ญาณีถูกทหารคุมตัว ส่วนที่เหลือประทับปืนเล็ง
ไปที่มาณสิงห์ ทีฑายุผลักมาณสิงห์ออกห่างจากศิศิรา แล้วกระชากเธอมาในวงแขน

"ไม่เคยเข็ด ไม่เคยจำ"

"เอามือแกออกจากเจ้าหญิง" มาณสิงห์ตวาดสั่ง ทีฑายุกลับยิ่งกอดศิศิราแน่นขึ้น

"ไหนๆวันนี้ก็เป็นวันที่ฉันมีความสุขกับเมีย ฉันก็ควรจะมีความเมตตาปรานีเป็นทานแก่สัตว์ผู้ยากไร้
เร่ร่อนหารัก"

"ไอ้สารเลว..."

ทหารยกปืนพรึ่บ มาณสิงห์จำต้องหยุด

"ฟัง ดีๆ มาณสิงห์ ฉันเบื่อที่จะด่าให้กะโหลกหนาๆของแกสำนึกเต็มที ฉันจะขอลุงอภัยโทษให้
ถ้าแกคุกเข่าตรงหน้าฉัน เลือกเอา ประหารตัดหัวเจ็ดชั่วโคตร
หรือว่าคุกเข่ามีลมหายใจต่อ...ไว้คิดถึงเมียฉัน"

มาณสิงห์จำใจย่อตัวคุกเข่าลงตรงหน้าทีฑายุ ศิศิราตาแดงก่ำ ทีฑายุเสยเท้าเข้าหน้ามาณสิงห์
แล้วกระทืบซ้ำ พร้อมกับสำทับเสียงกร้าว

"ศิศิรายังเป็นเจ้าหญิงของแก แต่จำไว้ด้วยว่าเจ้าหญิงน่ะเมียฉัน เอามันไปขัง"

"ไหนว่าจะอภัยโทษมาณสิงห์" ศิศิราท้วงขึ้นทั้งน้ำตา

"ไม่ใช่คืนของเรา...ศิศิรา ยังไม่ใช่คืนนี้ เอามันไป"

มา ณสิงห์ถูกทหารคุมตัวลากออกไปพร้อมญาณี ทีฑายุสั่งทหารที่เหลือ
พาเจ้าหญิงกลับไปที่ห้อง อย่าปล่อยให้ออกมาเห็นเดือนเห็นตะวันอีก...
จากนั้นทีฑายุกลับเข้ามาในงานพูด คุยกับโกญจนาท กัญญาภัคแกล้งเดินม
าหยิบเครื่องดื่มด้านหลังคอยลอบฟัง

"มาณสิงห์หนีมาได้ถึงที่นี่ แต่ตอนนี้ถูกจับตัวไปแล้ว"

กัญญาภัคสีหน้าขัดใจ...โกญจนาทส่งสายตาไปที่รามปุระกับทาอู ทั้งคู่จึงเดินเข้ามาหา

"ไปดูไอ้องครักษ์มันหน่อย ดูแลให้แน่นหนากว่าเดิมด้วย" โกญจนาทสั่งการ
เสร็จแล้วจะขยับไปแต่ทีฑายุรีบพูดขึ้น

"ผมขอชีวิตมาณสิงห์"

โกญจนาท ไม่ตอบแต่ให้ทีฑายุตามเขาไปที่ท้องพระโรง ทีฑายุจึงก้าวตาม
ส่วนรามปุระกับทาอูแยกไปอีกทาง กัญญาภัค มองทุกคนอย่างไม่สบอารมณ์
แล้วกระแทกแก้วเครื่องดื่มลงบนโต๊ะ

"ไอ้องครักษ์โง่ ทำไมไม่พาเจ้าหญิงหนีไป"

สิ นาตีซึ่งไม่ชอบใจที่เมื่อครู่เห็นกัญญาภัคส่งสายตาหว่านเสน่ห์ไมยาดิน
พอเข้ามาเตือนกึ่งตำหนิ เลยถูกกัญญาภัคเสียงแข็งใส่ก่อนสะบัดจากไป

"หยุดเตือนได้แล้ว ตอนนี้กัญญาไม่มีอารมณ์จะฟัง"

ooooooo

มา ณสิงห์ถูกยัดกลับเข้าไปในห้องขัง รามปุระกับทาอูจ้องมองอย่างหงุดหงิด
เพราะแทนที่จะได้อยู่ รื่นเริงในงานเลี้ยงกลับต้องมาเฝ้ามาณสิงห์ แล้วยิ่งอารมณ์เสีย
เมื่อคาดคั้นมาณสิงห์ให้บอกมาว่าใครเป็นคนปล่อยตัว แต่มาณสิงห์กลับไม่ปริปากสักคำ...

ด้านสองลุงหลานที่อยู่ในท้องพระโรง...โกญจนาทสีหน้าดุดันไม่ชอบใจที่ทีฑายุ
กล้าเอ่ยปากขอชีวิตมาณสิงห์

"ฉันไม่อภัยโทษให้มาณสิงห์"

"แต่มาณสิงห์จะเป็นตัวล่อชั้นดีให้เราจับพวกที่เหลือ ยังไงมันก็ไม่หนีไปจากเจ้าหญิง"

"จำ ได้มั้ยว่าเราเคยตกลงกันว่ายังไง" ทีฑายุมองโกญจนาท แววตาวูบไหวเมื่อนึกถึงสัญญา
"แผนแรก...คือฉันฆ่าครอบครัวกษัตริย์ทั้งหมด แล้วสถาปนาตัวเอง แต่แกเป็นคนห้ามว่า
อาจจะถูกต่อต้าน ทำให้ฉันต้องมีแผนที่สอง"

"ผมต้องทำให้เจ้าหญิงรัก และแต่งงานด้วย"

"ใช่ เพื่อให้กำเนิดสายเลือดที่ช่วยให้ฉันมีสิทธิในมงกุฎแสงจันทร์ แต่แกกลับทำเกินกว่า
ที่เราตกลง ทำตัวเป็นพระเอกเสียสละเอาอกเอาใจเจ้าหญิงสารพัด นานจนฉันรอไม่ไหว
แกมันไม่เด็ดขาด แค่ผู้หญิงคนเดียวจะมีปัญญามีแรงมาขัดขืนอะไรนักหนา"

"ผมไม่ชอบเรื่องบังคับขืนใจ"

"งั้นแกก็อย่ามาขวาง ถ้าฉันจะกลับไปใช้แผนแรก ฆ่าซะให้สิ้นซากทั้งเจ้าหญิงเจ้าชาย
แล้วทุกคนที่จงรักภักดีกับมัน"

"ขอเวลาผมหน่อย...อย่าเพิ่งฆ่าใครอีก"

"นั่น หมายความว่า นับตั้งแต่วันนี้ไปอีกแค่ 2 เดือน ฉันจะต้องได้ยินข่าวดีว่า
เจ้าหญิงมีลูกกับแก...หรือไม่ก็ให้เลือดนองพื้นวัง อีกครั้ง" โกญจนาทยื่นคำขาด
แล้วเดินออกไป ทีฑายุหน้าเครียดอย่างเห็นได้ชัด

ooooooo00000000000000000

มงกุฏแสงจันทร์ 28/11/52

ตอนที่ 13 (ต่อจากวานนี้)

ทีฑายุกลับมาที่ห้องศิศิรา เห็นเจ้าของห้องนั่งถือมีดในเงามืด
ซึ่งมีดเล่มนี้เป็นของมาณสิงห์ที่เพิ่งให้ศิศิรามาเมื่อสองวันก่อน
ทีฑายุไม่พอใจศิศิราที่อึกอักอะไรก็จะฆ่าตัวตาย
พอเขาเดินเข้ามาใกล้ เธอก็ทำท่าจะกดมีดลงที่ข้อมือตัวเอง

"มาณสิงห์จะต้องไม่ตาย..."

"มันยังอยู่ให้เจ้าหญิงเห็นอีกนาน"

"เธอยังมีความสัตย์ให้เราเชื่อได้อีกหรือเปล่า"

"มี แน่ แต่เจ้าหญิงก็ช่วยมีศักดิ์ศรีของตัวเองไว้ด้วย
อย่าให้คนเขาโจษจันได้ว่าน้ำค้างใสบนยอดมงกุฎ..
.เจ้าหญิงที่เพิ่งแต่งงาน เห็นแก่องครักษ์ชายชู้
จนยอมทิ้งน้องลักลอบไปครองรักกันกลางป่ากลางเขา"
ทีฑายุพูดจบก็หันกลับออกไปทันที ศิศิราปล่อยมีดหล่นลง
พร้อมๆกับน้ำตาที่ไหลออกมาอย่างคับแค้นใจ

ooooooo

เช้า วันใหม่ ทีฑายุไประบายความกลัดกลุ้มใจกับจตารี
พอจตารีถามว่าเขารักเจ้าหญิงหรือเปล่า ทีฑายุกลับพูดเลี่ยง
ไปเลี่ยงมา แต่จตารีก็จับสีหน้าและแววตาของทีฑายุได้
ว่ารักและเป็นห่วงเจ้าหญิงแค่ไหน ไม่เช่นนั้นเขาคงไม่ยื้อ
ชีวิตเจ้าหญิงให้พ้นจากเงื้อมมือโกญจนาทมาตั้งแต่ ต้น
ซึ่งจตารีเห็นว่าเจ้าหญิงควรจะรับรู้เรื่องนี้

"ไม่ต้อง" ทีฑายุเสียงแข็ง

"งั้นเธอก็ทรมานต่อไป ที่ถูกเจ้าหญิงตราหน้าว่าเป็นชายผู้ทรยศ"

"เราทนได้"

จตา รีถอนใจกับความปากแข็งของทีฑายุ จนต้องเอ่ยเตือน
"ก็คงจะเหลือทางออกเดียว เธอควรจะมีลูกกับเจ้าหญิงให้เร็วที่สุด
เพื่อให้เจ้าหญิงศิศิราไม่ต้องตายอย่างองค์กษัตริย์ และราชินี"

ทีฑา ยุทุบกำปั้นลงบนผนัง ทั้งกลุ้มทั้งหนักใจ...ด้านศิศิรา
สายวันเดียวกันนี้เธอได้พบธราเทพอีกครั้งในสวน
โดยการนำพาของพวกประสันต์ ครั้นสามหนุ่มเห็น
ทีฑายุตามเข้ามานั่งซึมหน้าเครียด จึงผละไปซักถามจน
ทีฑายุยอมปริปากว่า ถ้าตนไม่มีลูกกับศิศิรา ลุงโกญจนาทจะฆ่าพวกเขาทั้งหมด

ไม่ทันที่สามหนุ่มจะพูดหรือแนะนำอะไร ธนูเพลิงซึ่งซุ่ม
อยู่แถวพุ่มไม้ก็เล็งปืนลั่นกระสุนหมายเอาชีวิตทีฑายุตามคำ
สั่งมาณสิงห์ แต่พริบตานั้นศิศิรามองไปเห็น จึงร้องบอก
ทีฑายุให้ระวัง ทีฑายุเอี้ยวตัวหลบ แต่กระสุนก็เจาะ
เข้าที่ไหล่ จนเลือดโชก ศิศิราจะให้พวกประสันต์พา
ทีฑายุเข้าไปข้างใน แต่ทีฑายุรีบห้าม เพราะถ้าลุงรู้ว่า
เป็นฝีมือมาณสิงห์ ศิศิราจะไม่รอด...

ในเวลาต่อมา เมื่อกัญญาภัคมาถามหาทีฑายุกับศิศิราจาก
ส้มเสี้ยวและญาณี หลังจากพยายามตามหาทั้งคู่แต่
ไม่พบแม้เงา ญาณีกับส้มเสี้ยวซึ่งอยู่ในเหตุการณ์ทีฑายุถูกยิง
ก็ช่วยกันโกหกว่าทีฑายุพาเจ้าหญิงไปเที่ยวนอกเมือง
ทั้งที่ความจริงทั้งคู่ หลบไปที่หอคณิกาของจตารี
กัญญาภัคไม่อยากเชื่อ ยังคาดคั้นสองสาว
โกญจนาทเห็นแล้วรำคาญ กำราบกัญญาภัคว่าเรื่องของผัวเมีย
เขาจะไปฮันนีมูนกันที่ไหนก็ไม่เห็นจะเกี่ยวกับใคร

กัญญาภัคไม่พอใจ หันมองตามโกญจนาทที่เดินผ่านไปด้วยสีหน้าเปี่ยมสุข

"ท่าทางคุณกัญญาจะเป็นจะตาย เหมือนแอบรักสวามีเจ้าหญิงอยู่เลยนะคะ"

กัญญา ภัคหันขวับมาจ้องญาณีที่แกล้งเปรยกับส้มเสี้ยว
แล้วสองสาวก็หัวเราะกันเบาๆ ก่อนเดินจากไปอย่างไม่แคร์
สายตาขวางๆของกัญญาภัคสักนิด กัญญาภัคโกรธกำมือแน่น
อยากจะหักคอสองคนนั้นให้ตายคามือ

ooooooo

ที่ หอคณิกา มาลข่าน ประสันต์ และดรัณย์ช่วยกันเอากระสุนออกจาก
ไหล่ทีฑายุ และทำแผลให้เสร็จเรียบร้อย โดยมีศิศิรากับจตารี
เฝ้าดูอยู่ห่างๆด้วยความเป็นห่วง...จากเหตุการณ์ครั้ง นี้
ยิ่งทำให้สามหนุ่มและจตารีมั่นใจว่าทีฑายุและศิศิราต่างก็
รักกันมากเพียงใด จึงไม่แปลกเมื่อสองคนอยู่กันตามลำพัง
แล้วจะปล่อยใจปล่อยกายอย่างที่ใจ ปรารถนามาแสนนาน
ทิ้งเรื่องบาด
หมางทั้งหมดไว้ชั่วขณะ...

แต่คนที่เจ็บช้ำก็คือผู้หญิงที่รักทีฑายุสุดหัวใจ

อย่าง จตารี แต่จตารีก็ไม่เคยเรียกร้องความรักจากทีฑายุ
เพราะรู้ดีว่าตัวเองเป็นได้แค่หมอนอิงเก่าๆใบหนึ่ง ยามที่ทีฑายุ
ต้องการความนุ่มชั่วครั้งชั่วคราว ซึ่งก่อนนี้จตารีมีโอกาสได้พูดคุย
กับศิศิรา ในช่วงที่พวกดรัณฑ์ทำแผลให้ทีฑายุ จตารีบอก
ให้ศิศิรารู้ว่า เธอกับทีฑายุเป็นแค่เพื่อนกัน เป็นเพื่อนที่
จะรับฟังความทุกข์ใจของเพื่อนได้ ขณะที่ศิศิราก็บอกจตารีว่า
เธอกับทีฑายุ
แต่งงานกันแค่ในนาม...

ส่วนที่วัง ญาณีมีโอกาสเจอมาณสิงห์ตามลำพังในมุมปลอดคน
มาณสิงห์ซึ่งถูกโกญจนาทสั่งปล่อยตัว หลังจากโกญจนาท
ทำความตกลงกับทีฑายุไปเมื่อคืนก่อน...ญาณีถามกึ่งตำหนิมา
ณสิงห์ ที่ทีฑายุถูกยิงเป็นผลงานของเขาใช่ไหม?

"ทำไมถึงไม่เอาศพทีฑายุเข้าวัง"

"เพราะว่าทีฑายุยังไม่ตาย เมื่อไหร่จะคิดได้สักทีว่าทุกครั้ง
ที่เธอลงมือโดยอ้างความหวังดี มันคือการทำลายโอกาสและชีวิตเจ้าหญิง"

มาณสิงห์เงียบงัน มองญาณีที่น้ำเสียงไม่พอใจอย่างมาก

ooooooo

ตอนที่ 14

หลัง จากส่งทหารไปสืบเสาะจนรู้แหล่งที่อยู่ของทีฑายุกับศิศิรา
ไม่ช้าไม่นานกัญญาภัคก็พาทหารบุกไปที่หอคณิกาของจตารี
และไม่ฟังเสียงทัดทานห้ามปรามของจตารีด้วย กัญญาภัคพุ่งเข้า
ไปถึงห้องที่ทีฑายุกับศิศิราเพิ่งจะมีความสุขผ่านไปไม่นาน

ภาพของทั้งคู่บนเตียงทำให้กัญญาภัคแทบอกระเบิด
ส่วนทีฑายุกับศิศิราก็ตะลึงคาดไม่ถึง

"ในวังคงไม่เร้าใจ เจ้าหญิงถึงเลือกหอนางโลมเป็นห้องหอ
จากสภาพ...คงปล่อยกายปล่อยใจได้มากกว่าอยู่ในวัง"
กัญญาภัคยิ้มเหยียด

ที ฑายุลุกขึ้น และหยิบเสื้อผ้าโยนใส่หน้าศิศิรา "ใส่ซะ"
ความอ่อนโยนนุ่มนวลเมื่อครู่ของเขาหายไปอย่างสิ้นเชิง
จนศิศิราตกใจ จตารีเองก็ไม่อยากเชื่อว่าทีฑายุจะทำถึงได้เพียงนี้

"กัญญามารับพี่พอดี" ทีฑายุเอ่ยขึ้น

"เธอให้กัญญาภัคมารับ?" ศิศิราถามเสียงแผ่ว

"พี่ ทีฑายุเสร็จธุระแล้ว ก็รีบออกไปจากสถานที่โลกีย์ เถอะค่ะ
ผู้หญิงคนอื่นจะได้มีเวลาปรับทุกข์กันประสาของเล่นข้ามคืน"
กัญญาภัคไม่พูดเปล่า ควงแขนทีฑายุอย่างสนิทสนม...
ทีฑายุหันมองศิศิราที่ทั้งอาย ทั้งไม่เข้าใจ

"ได้คำตอบแล้วใช่มั้ย ว่าทีฑายุคนที่จะอยู่เคียงข้างเธอ
ไม่ใช่เทพบุตรในฝัน" รอยยิ้มเยาะผุดบนใบหน้าทีฑายุ
ก่อนเดินควงแขนกัญญาภัคออกไป ศิศิราหน้าเสีย มองจตารี อย่างสับสน

"อย่าถามฉันเลยค่ะ เจ้าหญิงควรจะไปถามทีฑายุเองว่าเขา
กำลังคิดอะไร" จตารีชิงตัดบท...

พ้นจากห้องมาแล้ว ทีฑายุเดินตัวปลิวทิ้งห่างกัญญาภัค
จนสาวเจ้าต้องกึ่งเดินกึ่งวิ่งตามมาดึงแขน

"หนีมาหลบที่นี่ทำไม"

"พี่ไม่ได้หลบ พี่แค่อยากทำให้ศิศิราเขาดีใจบ้างว่ายังมีคนสนใจเขา"

"พี่ทีฑายุทำลงไปเพราะแค่หน้าที่สามีเหรอคะ"

"ใช่ ไม่มีความหมายพิเศษอะไร นอกจากหน้าที่"

กัญญา ภัคยิ้มใจชื้น หารู้ไม่ว่าทีฑายุกำลังปกปิดความในใจ
ส่วนศิศิราที่ตามออกมาแอบฟัง ขมขื่นใจเป็นที่สุด
ไร้เรี่ยวแรงแทบยืนต่อไปไม่ไหว จตารีต้องเข้ามาประคองอย่างเห็นใจ

"ถ้ากลับไม่ไหว เดี๋ยวหม่อมฉันจะให้คนไปส่งเพคะ"

"ไม่ต้อง..." ศิศิราเสียงแหบโหย ค่อยๆขยับตัวออก
ทรุดลงนั่งอย่างอ่อนแรง

"หอ นางโลมคงไม่ใช่สถานที่ดีนักสำหรับคนระดับ
เจ้าหญิงศิศิรา แต่ถ้าเป็นแค่ผู้หญิงหัวใจสลายคนนึง
ในนี้ก็ยัง มีคนเข้าใจซึ่งกันและกัน" จตารียิ้มให้ แต่แล้ว
เข้าใจเมื่อเห็นศิศิราเมินหน้าหนีอย่างอับอาย จตารีจึงเดินออกไปเงียบๆ

ooooooo

ทีฑายุกลับมานั่งหน้า เครียดอยู่ในท้องพระโรง ครุ่นคิดวน
เวียนเรื่องราวต่างๆอย่างหาทางออกที่ดีไม่ได้ สักครู่
โกญจนาทเดินเข้ามาเมียงมอง ก่อนตั้ง คำถามขึ้นว่า

"แกกับเจ้าหญิงจะมีลูกกันเมื่อไหร่"

"ผมไม่รู้"

"ตั้งใจ หน่อยสิ ที่ผ่านมาฉันไม่เคยก้าวก่ายเรื่องที่แก
ไปขลุกอยู่ในหอนางโลม แต่ตอนนี้แกมีหน้าที่สำคัญ
ลูกของแกจะเขี่ยธราเทพให้ร่วงจากบัลลังก์แสงจันทร์โดยปริยาย"

"ยังไงลุงก็ต้องได้สวมมงกุฎแสงจันทร์"

"แต่ ฉันไม่ใช่คนประมาท เพราะวันนึงความรักอาจจะ
อยู่เหนือความกตัญญู...ระหว่างรอความชักช้าของแก
เรื่องแรกที่ฉันต้องสะสางคือการปลดสันธิ" โกญจนาทยิ้มเย็น
แต่ทีฑายุหน้าเครียดลุกขึ้นหันหลังเดินออกไปทันที
โกญจนาทมองตาม

อย่างประเมินสถานการณ์

ข้าง ฝ่ายกัญญาภัค พอรู้ข่าวว่าโกญจนาทกำลังจะปลด
แม่ทัพสันธิ ทำให้เธออยากรู้ต่อไปว่า แล้วใครกันที่จะมา
ดำรงตำแหน่งแทน แต่สินาตีเห็นว่าไม่ใช่เรื่องที่ผู้หญิงจะต้องรู้
เพราะมันเป็นเรื่องของทหาร

"ก็เรื่องทหารนี่แหละที่มันจะเป็นชัย ชนะหรือความพ่ายแพ้"
กัญญาภัคยอกย้อน "โกญจนาทกำลังจะคุมทหารทั้งหมด
โดยเฉพาะถ้าตำแหน่งแม่ทัพควบกับตำแหน่งผู้บัญชาการ
ทหารบก เท่ากับว่าจะมีกองกำลังรบฝีมือดีที่สุด"

"อย่าบอกฉันนะว่าแกอยากเป็นแม่ทัพกับเขาด้วย"

"กัญญา ไม่เป็นแม่ทัพหรอก เพราะกัญญาจะเป็นให้ เหนือกว่าแม่ทัพ"
ว่าแล้วกัญญาภัคเดินลิ่วจากไป ทิ้งสินาตียืนหน้าตื่นตกใจ
และไม่เข้าใจความคิดลูกสาว

ดรัณย์ ประสันต์ มาลข่าน เห็นทีฑายุจมอยู่กับปัญหาที่ขบไม่แตก
พวกเขาจึงแสดงความคิดเห็น ทั้งแนะนำไปพร้อมกัน
ด้วยเรื่องที่โกญจนาทจะปลดแม่ทัพสันธิ เพราะถ้าปลดเมื่อไหร่
เจ้าหญิงก็หมดความหมายเมื่อนั้น ซึ่งพวกเขาเห็นว่าทีฑายุควร
จะทำอะไรบ้าง เพราะทีฑายุมีสิทธิ์มีเสียงสูงกว่าแม่ทัพหรือ
พวกเสนาบดีด้วยซ้ำ จะปล่อยให้ลุงชี้นิ้วสั่งเป็นสั่งตาย
เจ้าหญิงซึ่งเป็นเมียของทีฑายุทำไม

ที ฑายุรับฟังแล้วครุ่นคิด แล้วอีกพักก็ตัดสินใจเดินตรงไป
ทางท้องพระโรง ซึ่งเวลานี้โกญจนาทกำลังประชุมผู้มีหน้า
ที่เกี่ยวข้องแก่บ้านเมือง เพื่อปลดแม่ทัพสันธิ แล้วแต่งตั้ง
คนใหม่ขึ้นแทน แต่มันไม่ง่ายอย่างที่คิด เพราะยังมีสันธิกับวิชัย
และมาณสิงห์ที่ยังจงรักภักดีต่อศิศิราคอยคัดคานอำนาจโกญจนาท
ชนิดหัวชนฝา ขณะที่ทหารฝ่ายของโกญจนาทอย่างรามปุระกับทาอู
และไมยาดินก็ถือหางโกญจนาทเสียงแข็งเหมือนกัน

ขณะ สองฝ่ายกำลังทุ่มเถียงกันดุเดือด ทีฑายุก็ก้าวเข้ามาค้าน
คำสั่งโกญจนาทที่สั่งปลดแม่ทัพสันธิ ซึ่งทีฑายุอ้างว่า
ยังไม่มีใครเหมาะสมจะเป็นแม่ทัพแทนท่านสันธิ

"ปลดไปก่อน เดี๋ยวคนเหมาะสมก็หามาได้เอง" ทาอูสวนขึ้นมา

"นี่ เหรอความคิดเสนาบดีใหญ่ เห็นกองทัพเป็นสนามเด็กเล่น"
คำพูดดูหมิ่นของทีฑายุทำเอาทาอูหน้าเจื่อน โกรธจี๊ด.
..รามปุระทนไม่ไหว เถียงแทน

"ก็ไม่ใช่เรื่องเด็กเมื่อวานซืน ที่ริจะลุกขึ้นมาคัดค้านความเห็น
ของท่านผู้สำเร็จราชการเหมือนกัน"

"เห็นทีพวกท่านจะความจำสั้น ว่าไอ้เด็กเมื่อวานซืนคนนี้
มันมีสิทธิ์เต็มที่ที่จะคัดค้านในฐานะสวามีเจ้าหญิง"

โกญจนาทจ้องมองทีฑายุด้วยสายตาคมกริบ
แต่ทีฑายุหาได้ลดบทบาทสำคัญ

"ในฐานะสามีที่ดี ก็ต้องดูแลผลประโยชน์ของภรรยา"

"เป็นสามีเจ้าหญิงก็อยู่แต่ในห้อง เรื่องปกครองไม่ใช่เรื่องของแก"

"ระวัง ปากหน่อย รามปุระ ท่านกำลังดูถูกเรา ผู้ที่มีฐานะสูงกว่า
ทุกคนในนี้ เรื่องของบ้านเมืองเป็นเรื่องที่น่าจะช่วยกันคิด
ไม่ใช่ตกอยู่ในมือคนคนเดียว"

โกญจนาทยังนิ่งทั้งที่ใจพลุ่งพล่าน แต่ไมยาดินทนไม่ได้
เต้นแทนนาย

"แต่ก็เป็นคนคนเดียวที่มีอำนาจสูงสุด ยังไงแม่ทัพสันธิก็ต้องถูกปลด
แล้วท่านโกญจนาทจะเป็นคนแต่งตั้งผู้บัญชาการทหารบกคนใหม่เอง"

ทีฑายุไม่สน กวาดตามองเหมือนออกคำสั่ง "ส่วนเรื่องผู้บัญชาการ
ทหารบกคนใหม่ เราเห็นว่าสมควรจะเป็น..."

"เป็นสันธิไม่ได้" รามปุระแทรกขึ้นเร็วจี๋

"ท่าน ก็เป็นไม่ได้เหมือนกัน" ทีฑายุตอกหน้ารามปุระ แล้วหัน
ไปทางโกญจนาท "ผมอาจจะไม่ได้ปรึกษาลุงไว้ก่อน
แต่คิดว่าด้วยฐานะที่มีอยู่ และทุกคนก็รับรู้กันทั่ว
ผมก็มีสิทธิ์จะดูแลปัญจารัตน์ได้เต็มที่คนนึง
ผมขอเสนอแต่งตั้ง แม่ทัพวิชัยให้ดำรงตำแหน่งผู้บัญชา
การทหารบกคนใหม่"

"ทำไมต้องเป็นวิชัย" รามปุระไม่พอใจอย่างแรง ทีฑายุไม่สน
ถามความเห็นคนอื่นๆ มีใครอยากจะคัดค้านอะไรไหม?

มาณสิงห์กับสันธิมองสบตากันอย่างไม่เข้าใจการกระทำของทีฑายุ
ขณะที่โกญจนาทไม่พูดอะไรสักคำ แต่แววตา

จ้องทีฑายุแทบลุกเป็นไฟ

ขณะ เดียวกันนั้น ศิศิราถูกสินาตีและกัญญาภัครุมพูดจาถากถาง
และขับไล่ไม่ให้เข้ามาเหยียบที่ห้องปักไหมอีก ศิศิราเจ็บช้ำ
เพราะห้องนี้เป็นห้องที่แม่รักมาก แต่เธอซึ่งเป็นลูกกลับถูกคนอื่น
ขับไล่ แล้วจะยึดเอาไว้ใช้งานกันเสียเอง โดยที่ญาณีซึ่งพยายาม
ช่วยนายของตัวเองเต็มที่ แต่ก็ทัดทานความโอหังของสองแม่ลูก
ไม่ได้ หนำซ้ำสองแม่ลูกยังจะปลดภาพครอบครัวของศิศิรา
ลงจากผนังด้วย

เมื่อออกจากที่ประชุม มาณสิงห์กับสันธิเดินตามหลังทีฑายุออกมา
มาณสิงห์ดักคอทีฑายุว่า

"อย่าคิดจะหาบุญคุณกับเรา ด้วยการแสดงอำนาจเหนือ โกญจนาท"

"เธอทำเพื่อเจ้าหญิง หรือเพื่อตัวเองกันแน่" สันธิเอ่ยถามเสียงเรียบ
ทีฑายุยังไม่ทันตอบ วิชัยเดินออกมาสมทบ

"มันจะแตกต่างกันตรงไหน ในเมื่อเจ้าหญิงกับทีฑายุคือคนคนเดียวกัน"

"หวัง ว่าท่านแม่ทัพผู้จงรักภักดีกับลูกชายคงจะใช้โอกาสสุดท้าย
ที่เราให้อย่างคุ้ม ค่าหน่อย...อย่าโง่วิ่งเข้าไปรนหาที่ตายอีกล่ะ
มาณสิงห์" ว่าแล้วทีฑายุเดินลิ่วไป

"มันกำลังวางอำนาจเหนือเจ้าหญิง" มาณสิงห์พูดอย่างมั่นใจ

"ก็ ยังดีไม่ใช่เหรอ ที่ทีฑายุใช้อำนาจยื่นมือมาในเวลา ที่เหมาะ
เพื่อพิสูจน์ว่าเขาไม่ใช่หุ่นเชิดของลุง" วิชัยเอ่ยเตือนแล้วผละ
ไปทันที มาณสิงห์มองสบตาพ่อที่ยืนนิ่งอย่างใช้ความคิดพิจารณา

ส่วนโกญจนาท กับลูกน้องคนสนิททั้งสามยังอยู่ในท้องพระโรง
รามปุระมั่นใจว่าครั้งนี้ทีฑายุตั้งใจท้าทายพวกเรา มันเหมือนหมา
บ้าที่เลี้ยงไม่เชื่อง พร้อมจะแว้งกัดมือที่ขุนมันมา

"เท่ากับว่า ทีฑายุส่งวิชัยขึ้นขวางทางท่าน" ไมยาดินแค้น

"สงสัย จะหลงมารยาเจ้าหญิง ปล่อยไว้ไม่ได้ มันกำลังจะเหลิง
ข้ามหัวพวกเรา" ทาอูพูดแล้วสงสัยเมื่อเห็นรอยยิ้มบนใบหน้า
โกญจนาท "ท่านยังยิ้มออก?"

"เพราะ ฉันรู้จักทีฑายุมันดีน่ะสิ ถ้ามันอยากลองดี ฉันก็จะสั่งสอน
ให้มันรู้ว่าคนที่ควบคุมทุกอย่างได้ต้องเป็นฉันคนเดียว"
โกญจนาทแสยะยิ้ม ในสมองคิดวางแผนดัดหลังทีฑายุ...

กัญญาภัคเดิน เร็วรี่มาหาทีฑายุที่กำลังจะเลี้ยวไปห้องศิศิรา
แล้วตั้งคำถามเรื่องการประชุม ที่มีเสียงร่ำลือกันว่าทีฑายุกล้า
ขัดคำสั่งโกญจนาท ซึ่งกัญญาภัคอยากรู้ว่าทีฑายุกำลังทำเพื่อเราใช่ไหม?

"ทำไมกัญญาใช้คำว่า...เรา"

หญิง สาวชะงัก หุบยิ้มทันที "แสดงว่าพี่กำลังทำเพื่อ...ศิศิรา"
ทีฑายุไม่ตอบ จะเดินไป กัญญาภัครั้งมือไว้ แล้วแสร้งตีหน้า
เศร้าเล่าความเท็จ "กัญญามีเรื่องด่วนต้องรายงานพี่ เจ้าหญิง
ไม่พอใจที่กัญญาไปพาพี่ทีฑายุกลับมาจากหอนางโลม
ทรงเอ่ยปากว่าจะไม่เหยียบไปห้องปักไหมอีก ถ้ายังเห็น
กัญญาอยู่ที่นี่ พี่ทีฑายุเข้าใจกัญญาด้วยนะคะ ที่กัญญาอยู่
ก็เพราะอยากช่วยงานพี่
ทีฑายุ เราก็รู้ว่าตอนนี้สถานการณ์บ้านเมืองไม่ปกติ จะให้นิ่งดูดาย
กัญญาก็คงเป็นประชาชนที่ไร้ประโยชน์สิ้นดี"



0000000000000000000000000000000000


มงกุฎแสงจันทร์ 29/11/52

ตอนที่ 14 (ต่อจากวานนี้)

"พี่จะหางานให้กัญญาทำ"

"ให้กัญญาดูแลเจ้าหญิงนะคะ"

"ไม่ต้อง กัญญามาช่วยพี่ดีกว่า พี่จะให้กัญญาเป็นเลขากรมวัง
ทำงานรับคำสั่งจากพี่โดยตรง"

"พี่ ทีฑายุดีกับน้องที่สุดเลย" กัญญาภัคดีใจ เข้าหอมแก้มทีฑายุทันที
ทีฑายุจะขยับถอยออกห่าง แต่กัญญาภัคยังควงแขน ไว้ด้วยสีหน้าสุขใจ...

ญาณีเอารูปครอบครัวศิศิราซึ่งถูกสองแม่ลูกตัวร้ายปลดออกจากห้องปัก
ไหมเข้ามาเก็บที่ห้องศิศิรา พลางก็บ่นอย่างอาฆาตแค้น

"ถ้า ทำให้กัญญาภัคก้มลงกราบแทบเท้าเจ้าหญิงไม่ได้ ญาณีคงตายตาไม่หลับ"
ศิศิราหันหน้าหนี ไม่อยากฟัง ญาณีขยับเข้ามาใกล้ "เห็นว่าวันนี้ทีฑายุคัดค้าน
การปลดท่านสันธิ หรือว่าทีฑายุกำลังเปลี่ยนใจคิดจะมาช่วยเราเพคะ"

"คนอย่างทีฑายุไม่เคยมีความจริงใจ จำไว้ว่าเขาคือสายเลือดของโกญจนาท"
ศิศิราน้ำตาปริ่ม ญาณีได้แต่มองเห็นใจ...

ตก เย็นโกญจนาทกลับมาบ้าน เห็นสินาตีและกัญญา-ภัคหน้าระรื่น
โดยเฉพาะสินาตีนั้นท่าทางมีความสุขเอามากๆ จีบปากเล่าเรื่องที่เข้า
ไปอาละวาดศิศิรามาเมื่อตอนกลางวันให้โกญจนาทฟัง

"ท่านคะ วันนี้ฉันเพิ่งไล่เจ้าหญิงออกจากห้องปักไหม แล้วห้ามไม่ให้เหยียบเข้าไปอีก
อีกหน่อยเราก็จะเฉดหัวออกจากวัง"

"ทำได้สมสติปัญญามาก วันๆคิดจะทำประโยชน์อะไรบ้างมั้ย"

"เอ๊ะท่าน อารมณ์เสียแล้วอย่ามาพาลใส่ลูกเมีย"

"ใครทำให้ท่านหงุดหงิดมาเหรอคะ หรือว่ามีคนไม่เชื่อฟัง" กัญญาภัคแกล้งยั่ว

โกญจนาทโดนจี้ใจเดินหนีไม่ยอมตอบ กัญญาภัคยิ้มเยาะ แต่สินาตีร้อนใจอยากรู้ว่า
ใครกันช่างกล้าขนาดนั้น?

ooooooo

ที ฑายุเชื่อในคำพูดของกัญญาภัคถึงขนาดมาตำหนิศิศิราให้เจ็บช้ำน้ำใจยิ่งขึ้นไป อีก...
ในขณะที่ศิศิราจมอยู่กับน้ำตา กัญญาภัคกลับหน้าระรื่นพอใจกับตำแหน่งที่ทีฑายุมอบหมาย
คุยอวดรักเร่ว่าเธอไม่จำเป็นต้องไปตบตีแย่งชิงทีฑายุกับใครอีกแล้ว ไม่ว่าจะเป็นนางโลม
หรือเจ้าหญิง เพราะต่อไปนี้คนที่ ได้สิทธิ์ใกล้ชิดทีฑายุตลอดเวลาคือเธอคนเดียว

ใช่ว่าตำหนิศิศิราแล้ว ทีฑายุจะสบายใจ...ทีฑายุไปบ่นให้จตารีฟังอย่างกลุ้มๆ และเล่าเรื่อง
มอบหมายตำแหน่งเลขาให้กัญญาภัค จตารีไม่ค่อยเห็นด้วยเพราะการทำแบบนี้กัญญาภัค
มีโอกาสเข้าใกล้ทีฑายุมากขึ้น แต่จะยิ่งทำให้ศิศิราเสียใจ ทีฑายุยืนยันว่ากัญญาภัคเป็น
น้องสาวที่น่าสงสารมาก เธอไม่เคยได้รับความรักจากใคร จตารีเลยประชดเขาว่า
ช่างเป็นพี่ชายพี่แสนดี พอๆกับเป็น
สามีที่ห่วงใยภรรยา ส่วนเรื่องโกญจนาท จตารีมั่นใจเขาไม่ใช่คนที่ใครจะลูบคมได้
เธออยากให้ทีฑายุ ระวังตัวด้วย

ที ฑายุฟังแล้วนิ่งคิด ก่อนเอ่ยปากกับจตารีว่า ถ้าเขาเป็นอะไรไป ขอฝากศิศิราด้วย
จตารีกระเซ้าเขาว่า ใครรู้เข้าคงหัวเราะเยาะที่เขามาฝากเจ้าหญิงกับนางโลม
แต่ทีฑายุมั่นใจว่าจตารีจะพูดให้ศิศิราเข้าใจในตัวเขาได้ แม้เขาจะเป็นคนเลวที่สุดในสายตาของศิศิรา...

รุ่งขึ้น ความวุ่นวายบังเกิดขึ้นอีกด้วยฝีมือของโกญจนาทที่สั่งพวกทาอูเอาเงินไปแจก
จ่ายชาวบ้าน ซึ่งมีชาวบ้านจำนวนไม่น้อยที่มารับเงินแล้วชื่นชมโกญจนาทอย่างมาก
ทำให้ดรัณย์ กับจตารีที่ยืนดูอยู่รอบนอกรู้สึกหนักใจแทนทีฑายุกับศิศิรา

เมื่อ ทีฑายุรู้เรื่องนี้จากดรัณย์ก็ทนอยู่เฉยไม่ได้ มาเจรจากับโกญจนาทจะให้หยุด
แจกเงินชาวบ้าน กัญญาภัคเองก็ยืนข้างทีฑายุ ช่วยพูดอีกแรง ทำให้โกญจนาทไม่พอใจทั้งคู่
และดึงดันไม่ยอมยุติการแจกเงิน อ้างเหตุผลว่าตนต้องการให้เงินชาวบ้านเอาไปตั้งตัว
ทีฑายุจึงต้องใช้อำนาจฐานะสามีศิศิรา ให้กัญญาภัค ไปตามเสนาบดีทั้งหมดรอที่ท้อง
พระโรง เสร็จธุระแล้วเขาจะกลับมาประชุม

โกญจนาทยังยิ้มได้ ขณะมองตามทีฑายุและกัญญาภัคที่เดินออกไป รามปุระเห็น
แล้วเอ่ยถามอย่างแปลกใจ

"โดนหลานชายกับลูกสาวท้าทาย ท่านยังหัวเราะเหมือนไม่มีอะไรเกิดขึ้น"

"รออีกเดี๋ยว ความเหิมเกริมของมันนั่นแหละที่จะจุดไฟให้ลุกทั้งเมือง" โกญจนาทยิ้มมั่นใจ

แล้ว สิ่งที่โกญจนาทมั่นใจก็เป็นจริง เมื่อทีฑายุออกไป ห้ามพวกทาอูให้หยุด
แจกเงินชาวบ้าน กลับถูกชาวบ้านกลุ่มใหญ่ ร้องด่าขับไล่อย่างไม่พอใจ
ทั้งยังคว้าข้าวของที่พอหาได้ขว้างปาทีฑายุจนจตารีกับดรัณย์ต้องพาถอยออกมา
อย่างทุลักทุเล ส้มเสี้ยวเองที่อยู่ในเหตุการณ์แต่แรกก็โกรธชาวบ้านที่พาลร้องด่า
เจ้าหญิงศิ ศิราด้วย หาว่าทั้งผัวทั้งเมียไม่รักประชาชน คนที่รักและห่วงใยประชาชนคือ
โกญจนาทต่างหาก

ทีฑายุกลับเข้าวังในสภาพ เลือดเปรอะแขน เพราะถูกชาวบ้านขว้างสิ่งของโดนแผลเก่าที่ถูก
ยิงซึ่งยังไม่หายดี ขณะกัญญาภัคช่วยทำแผลให้ทีฑายุ ศิศิราผ่านมาเห็นความใกล้ชิดของทั้ง
คู่ รู้สึกเสียใจจนต้องเร่งฝีเท้าเดินหนี มาณสิงห์ที่มาด้วย แอบพอใจอยู่ลึกๆ
ส่วนกัญญาภัคกับทีฑายุที่หันไปเห็น

สองคนเดินตามกันไป กัญญาภัคยิ้มสมใจ


มา ณสิงห์พูดเรื่องที่ทีฑายุบาดเจ็บเพราะออกไปห้ามการแจกเงินประชาชน
และท่าทางเขากำลังเอนเอียงออกห่างจากอำนาจของลุง แถมยังแต่งตั้งกัญญา
ภัคเป็นเลขาส่วนตัว ศิศิราน้อยใจที่ทีฑายุไม่เคยบอกเรื่องแต่งตั้งกัญญาภัค
และเธอก็ไม่เชื่อด้วยว่าทีฑายุจะจริงใจ เขากำลังเล่นละครตบตาหลอกเธอต่างหาก

"เราเบื่อในวังนี่เหลือเกิน มาณสิงห์ช่วยพาเราออกไป นอกวังบ้างได้มั้ย"

มา ณสิงห์ยิ้มรับด้วยใบหน้ามีความสุขที่จะได้ใกล้ชิดศิศิรา ส่วนกัญญาภัคที่อยาก
ได้พี่ทีฑายุของเธอกลับคืน พอรู้เรื่องนี้ จากมาณสิงห์ กัญญาภัคจึงยินดีให้ความร่วมมือ
โดยเธอจะบอกทหารให้เปิดทางสำหรับมาณสิงห์กับเจ้าหญิงที่จะออกไปเที่ยวนอกวัง
แต่การไปครั้งนี้ต้องให้ทีฑายุรู้เห็นด้วย เพราะมันจะทำให้ทั้งเธอเองและมาณสิงห์
ได้ในสิ่งที่ต้องการ...มาณสิงห์ฟังแผน แยบยลของกัญญาภัคแล้วถึงกับออกปากว่า

"เธอนี่เป็นผู้หญิงที่น่ากลัวมาก"

"ใช่ น่ากลัวสำหรับศัตรู แต่กับมิตร...เธออาจจะได้สิ่งพิเศษสุดที่หาไม่ได้จากผู้หญิงทั่วไป"

มา ณสิงห์มองรอยยิ้มยั่วยวนของกัญญาภัคแล้วใจกระตุก รีบถอยออกไป
กัญญาภัคมองตามยิ้มๆ แล้วชะงักเล็กน้อย เมื่อหันมาเจอไมยาดินที่ก้าวมายืนมอง

"จะยกอะไรให้มาณสิงห์"

"โธ่...ไมยาดิน เครียดไปได้ เราคงไม่ยกหัวใจให้มาณสิงห์หรอก
เขาแค่มาขอพาเจ้าหญิงออกไปพักผ่อนนอกวัง"

"มาณสิงห์อาจจะพาเจ้าหญิงหนีอีก"

"เรา รู้ แต่เราคิดว่ามาณสิงห์คงไม่กล้าแล้วล่ะ เราเห็นใจผู้หญิงด้วยกันนะ
ศิศิราคงทุกข์มากที่ต้องฝืนใจอยู่กับพี่ทีฑายุ" กัญญาภัคตีหน้าเศร้า
แกล้งให้ไมยาดินเห็นมุมอ่อนโยนสงสารคนอื่น ซึ่งได้ผล ไมยาดินมีท่าทีคลายความกังวล...

ooooooo

ตอนที่ 15

จาก เหตุการณ์ที่ประสบกับตัวเอง ทีฑายุเป็นห่วงศิศิราอยากให้อยู่แต่ในวัง
เพราะช่วงนี้ในเมืองไม่ค่อยปลอดภัย แต่ศิศิราที่ขุ่นเคืองใจเรื่องระหว่าง
ทีฑายุกับกัญญาภัคกลับดื้อรั้นดึงดัน อย่างถือดี จะไม่ยอมทำตามคำพูดของทีฑายุ

ขณะเดียวกันนั้น โกญจนาทกำลังวางแผนปั่นป่วนบ้านเมืองอีก สั่งไมยาดินไป
เผาบ้านแถวชายแดน แล้วให้ปล่อยข่าวว่าคนร้ายเป็นพวกโจรนิราษิณ
เขาอยากรู้ว่าทีฑายุจะเต้นสักเพียงไหน...เมื่อทีฑายุทราบเหตุร้ายในเช้าวัน
รุ่งขึ้นก็ร้อนใจ จนอยู่ไม่ติด จะไปลากตัวคนผิดมาลงโทษให้ได้โดยเร็ว

ด้านศิศิราเมื่อรู้ข่าวนี้ก็ร้อนใจเช่นกัน อยากรู้ว่าใครกัน ที่ฆ่าประชาชนของเธอ
จึงเปลี่ยนแผนจากการไปเที่ยวนอกวัง

ไปค้นหาความจริงแทน แต่ไปไม่ทันพ้นเขตวัง ศิศิราและมาณสิงห์ ก็ต้องหลบพวก
ดรัณย์ที่กำลังจะตามทีฑายุออกไปชายแดน

ที ฑายุ ดรัณย์ ประสันต์ มาลข่าน ทุกคนมีอาวุธครบมือมุ่งหน้าไปชายแดนที่ได้รับ
ความเสียหาย แต่แล้วทีฑายุที่มุทะลุไม่ฟังเสียงห้ามของเพื่อนๆเดินข้ามเขตรอยต่อแคว้น
ปัญจารัตน์กับแคว้นนิราษิณเข้าไป จึงถูกทหารของนิราษิณควบคุมตัวไว้
ราเชนทระกษัตริย์แห่งนิราษิณเห็นว่าทีฑายุคือหลานของโกญจนาท
และยังเป็นพี่ชายของกัญญาภัค หญิงงามที่น่ารักน่าทะนุถนอม จึงเรียกสันชัยมาสั่งเฉียบ

"ปล่อยตัวทีฑายุกลับไป แต่เราต้องแสดงท่าทีให้ปัญจา-รัตน์รู้ว่า
ถึงจะเป็นบ้านใกล้เรือนเคียง ปัญจารัตน์ก็ต้องเคารพในทุกตารางนิ้วของนิราษิณ
เหมือนกัน สั่งลงไปว่าเราให้ปิดด่านการค้าของสองแคว้นทุกด่าน ไม่มีกำหนด"

ไม่ ทันข้ามวัน คำสั่งปิดด่านการค้าก็ส่งผลให้ทั้งชาวบ้านและพ่อค้าแม่ขายของปัญจารัตน์
เดือดร้อน ออกมาโวยวายที่หมดทางทำมาหากินอย่างคับแค้นใจ ศิศิราที่
แอบปลอมตัวออกจากวังมากับมาณสิงห์ พร้อมด้วยญาณีและส้มเสี้ยวจึงโดนลูกหลง
เมื่อญาณีกับส้มเสี้ยวเกิดมีปากเสียงกับชาวบ้านที่อยู่ฝ่ายโกญจนาท มาณสิงห์ตกใจ
ที่เห็นศิศิราที่อยู่ในกลุ่มญาณีจะถูกทำร้าย เผลอร้อง
เรียก เจ้าหญิงขึ้นมา ทำให้ชาวบ้านกลุ่มนั้นเพ่งเล็งศิศิรา ด้วยความโกรธแค้น
ด้วยเข้าใจว่าศิศิราไม่รักประชาชนอย่างโกญจนาท มาณสิงห์เลยต้องกันศิศิราออกมา
ท่ามกลางความวุ่นวายโกลาหล

ขณะเดียว กัน โกญจนาทอยู่ในวังอย่างสบาย เมื่อรู้เห็นว่าทีฑายุถูกทหารนิราษิณ
ปล่อยตัวกลับมา ก็รีบมาเยาะหยัน ท่ามกลางทหารฝ่ายของตน และฝ่ายศิศิราอย่างนายพลวิชัย

"เป็นยังไงล่ะ ความมุทะลุไม่ฟังใครของสามีเจ้าหญิง เกือบจะก่อสงครามระหว่างแคว้น
ดีว่าเอาตัวรอดมาได้ แต่คนรับเคราะห์แทนกลับเป็นประชาชนตาดำๆ ที่ทำมาค้าขายไม่ได้"

"เรากับนิราษิณไม่เคยมีเรื่องบาดหมาง ส่งคนไปเจรจาทำความเข้าใจกัน
ด่านต่างๆก็น่าจะเปิดได้" วิชัยเอ่ยขึ้น

"ส่ง ใครไปดีล่ะ" โกญจนาทสีหน้าเยาะหยัน "ผองเพื่อนของท่านพระสวามีดีมั้ย
สารรูปนักดนตรีข้างถนนคงขับกล่อมเพลงทำให้กษัตรย์ราเชนทระใจอ่อน"


"เราจะไปเอง" ทีฑายุสวนทันที

"ช่างมีความรับผิดชอบ...อย่างคนสิ้นคิด" ทาอูเหยียดยิ้ม ดูถูก...
โกญจนาทกระหน่ำทีฑายุอีก

"นิราษิณจะได้หัวเราะเยาะผู้นำหนุ่มของปัญจารัตน์ สะพายปืนเข้าไปไล่ยิงทหารเหมือนคนบ้า
นี่เหรอผู้ที่คิดจะนำบ้านเมือง"

"เราจะช่วยแก้ปัญหานี้" วิชัยพูดโพล่ง

"ไหวเหรอท่าน ท่าทางผู้นำของท่านป้อแป้เหลือเกิน เห็นทีคืนนี้ก็คงไปวางแผน
แก้ปัญหาบ้านเมืองในหอนางโลม"

ที ฑายุทนไม่ไหวพุ่งเข้าไปจะเอาเรื่องทาอูที่ปากดี แต่พวกประสันต์รีบดึงทีฑายุไว้
โกญจนาทเห็นแล้วสะใจเป็นที่สุด เอ่ยสรุปด้วยเสียงทรงอำนาจอย่างผู้ชนะในเกมนี้แบบพับกระดาน

"เห็นแล้วใช่มั้ย ว่าผลงานสวามีของเจ้าหญิงกำลังจะพาปัญจารัตน์ไปสู่ความวิบัติ"

ooooooo

ตก กลางคืน กัญญาภัคมีโอกาสพูดคุยกับทีฑายุ ตามลำพัง
กัญญาภัคคาดว่าเหตุการณ์ทั้งหมดอาจจะเป็นฝีมือของโกญจนาทที่จงใจทำให้ทีฑายุ
กลายเป็นตัวตลก ซึ่งเธอต้องขอโทษทีฑายุที่เธอช่วยอะไรเขาไม่ได้เลย

"ไม่เป็นไร" ทีฑายุลูบผมกัญญาภัคเบาๆ ขณะเธอเข้ามาซบอก

ศิ ศิรายืนมองทั้งคู่อยู่ในมุมมืด เธอไม่รู้ว่าพวกเขาคุยอะไรกัน รู้แต่ว่าภาพที่เห็นช่าง
บาดตาบาดใจจนเธอยืนอยู่ตรงนั้น ต่อไปไม่ได้ ต้องหันหลังเดินออกไปเงียบๆ

"พี่จะไปคุยกับลุง" ทีฑายุตัดสินใจ แต่กัญญาภัค รีบห้ามด้วยความห่วงใยทีฑายุจริงๆ

"อย่าเพิ่งเลยค่ะ กัญญากลัว ท่านไม่เคยให้อภัยใครง่ายๆ อย่าเพิ่งไปเลยนะคะ"

"ปัญหานิราษิณเป็นเรื่องใหญ่"

"พี่ทีฑายุไว้ใจกัญญาหรือเปล่าคะ ถ้าไว้ใจ กัญญาขอช่วยแก้ปัญหานี้เอง"

"กัญญาจะทำยังไง"

"อย่า เพิ่งถามเลยค่ะ กัญญาไม่อยากเห็นใบหน้าที่มีแต่ความกังวลของพี่
กัญญาจะเอารอยยิ้มและความสบายใจกลับคืนมาให้พี่ทีฑายุเอง" กัญญาภัคยิ้มอย่างมั่นใจ...

0000000000000000000000000000000000000000

มงกุฏแสงจันทร์ 30/11/52



ตอนที่ 15 (ต่อจากวานนี้)

ศิศิราเดินหนีภาพบาดตาตั้งใจจะ เข้าไปในห้องปักไหม แต่ถูกนางข้าหลวง
กลุ่มหนึ่งที่ฝักใฝ่ฝ่ายสินาตีและกัญญาภัคขัดขวางไม่ให้ เข้า ศิศิรา
ไม่พอใจอย่างมาก แต่ทำอะไรไม่ได้นอกจากเดินจากมาด้วยความโมโห
พอมาถึงหน้าห้องนอนก็ต้องหยุดชะงัก เมื่อเห็นกัญญาภัคเดินควง
แขนทีฑายุเข้ามา กัญญาภัคบอกศิศิราว่า เธอมาส่งพี่ทีฑายุ
พูดพลางก็ทำท่าจะส่งต่อให้ศิศิรา... ศิศิราฉุนปัดมือกัญญาภัคทันที

กัญญาภัคแกล้งเข่าอ่อนล้มลงทั้งที่ศิ ศิราปัดเบาๆ พอ ทีฑายุเข้าประคอง
กัญญาภัคก็ยิ่งอ้อนออเซาะ ทำให้ศิศิราถูกทีฑายุต่อว่าจนน้ำตาแทบร่วงอีก
จากนั้นทีฑายุจะพากัญญาภัคไปส่งบ้าน แต่พอผละจากศิศิรามา กัญญาภัค
ก็อ้อนทีฑายุว่าเธอยังไม่อยากกลับ อากาศดีๆแบบนี้เราน่าจะไปนั่งรถเล่น
ดูดาวกันก่อน ทีฑายุใจจริงห่วงศิศิราจึงปฏิเสธอย่างนุ่มนวลว่า พี่อยากรีบ
ไปส่งกัญญา ดึกเกินไปป้าสินาตีจะเป็นห่วง

กัญญาภัคทำแง่งอนว่าพี่ทีฑายุเห็นเธอ เป็นเด็กอยู่เรื่อย เธออยู่กับพี่ไม่เห็น
มีอะไรต้องห่วง...พูดแล้วจ้องตาหวานฉ่ำพร้อมกับไล้มือ แผ่วเบาบนแผ่นอกของเขา
แต่อึดใจเดียวต้องชักสีหน้าโกรธๆ เมื่อทีฑายุดันตัวเธอออกห่าง

"พี่ทีฑายุรังเกียจกัญญา..."

"ไม่ ได้รังเกียจ แต่ยิ่งกัญญาเชื่อมั่น พี่ก็ควรทำตัวให้ไว้ใจได้...ไป
พี่จะไปส่ง" ทีฑายุตัดบทเดินนำไป กัญญาภัคขัดใจเดินตามอย่างหงุดหงิด...

คืน เดียวกันนี้ สันธิ วิชัย มาณสิงห์ และธนูเพลิงจับกลุ่มหารือกันด้วย
เรื่องปัญหาบ้านเมืองที่ตอนนี้ทุกสถานการณ์ ดูเหมือนเจ้าหญิงเป็นฝ่ายผิด
ซึ่งวิธีแก้ปัญหาทุกคนเห็นพ้องกันว่าต้องรีบให้นิราษิณเปิดด่าน
วิชัยจึงอาสาไปเอง แล้วหลังจากนี้เขาจะขอพิจารณาตัวเองถอดยศลาออก
สันธิห้ามวิชัยไม่ควรวู่วาม ถ้าโกญจนาทต้องการใช้กระสุนนัดเดียวทำลาย
ทุกคนที่จงรักภักดี เรายิ่งต้องเกาะกลุ่มกันไว้ โดยเฉพาะทีฑายุที่อาจจะ
หันมาเข้าข้างเรา แต่มาณสิงห์บอกว่า เจ้าหญิงไม่เชื่อว่าทีฑายุจริงใจ

"ถ้าทีฑายุคิดร้ายกับราชบัลลังก์ เขาจะไม่มีวันคัดค้านโกญจนาท" วิชัยมั่นใจ สันธิจึงสรุปว่า

"งั้นทีฑายุคือคนที่เราต้องจับตาดู ว่าเขาคิดยังไงกับลุงกันแน่"

ขณะนั้นทีฑายุตัดสินใจไปพบโกญจนาทถึงบ้าน แต่ ทีฑายุยังไม่ทันพูดอะไร
โกญจนาทก็ชิงดักคอเสียก่อน

"หวังว่าฉันคงจะได้ยินคำขอโทษ ที่แกคิดจะวัดรอยเท้าฉัน"

"ผมอยากให้คนยอมรับผมในฐานะอื่น ที่ไม่ใช่แค่หลานของลุง"

"งานที่แกต้องทำคือมีลูกกับเจ้าหญิง ไม่ใช่คิดจะกำเริบ เสิบสานแข็งข้อกับฉัน
...ต่อหน้าคนอื่น"

"แต่ผมก็ไม่ฉลาดไปกว่าแผนของลุง"

"ฉัน ไม่ได้ทำอะไรเลย นอกจากนั่งมองความอวดดีของแก เพราะฉันเห็นว่าแก
เป็นหลาน ฉันถึงยังไม่ส่งแกไปตาย อย่างน้อย...แม่แกก็ไม่ควรทำศพลูกหลังงานแต่งงาน
แล้วต่อไปนี้ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้นกับแผ่นดินของเจ้าหญิงสุดที่รัก
มันคือผลงานจากน้ำมือของเด็กเมื่อวานซืนอย่างแก"

โกญจนาทบีบไหล่ทีฑายุอย่างแรงแล้วผลักจนเซไป ทีฑายุไม่ตอบโต้ใดๆ
ได้แต่ก้มหน้าเหมือนยอมรับคำพิพากษาจากลุง

ooooooo

เที่ยง วันรุ่งขึ้น กัญญาภัคก็นำความปลาบปลื้มยินดีมาให้ทีฑายุ
หลังจากเธอแอบไปเจรจากับราเชนทระแห่งแคว้นนิราษิณเพื่อขอให้เปิดด่านชายแดน
ได้สำเร็จ เพราะพ่อม่ายหนุ่มใหญ่อย่างราเชนทระหลงเสน่ห์สวยงามอย่างกัญญาภัคเข้าแล้ว นั่นเอง

ขณะทีฑายุและกัญญาภัคโอบกอดแสดงความยินดีกันอย่างชื่นมื่น ศิศิรา
กับมาณสิงห์ผ่านมาเห็น ศิศิราไม่รู้ว่าสองคนนั้นกอดรัดกันด้วยเรื่องใด
แต่ก็รู้สึกขุ่นมัวจนต้องเดินหนีออกมา แล้วยืนยันกับมาณสิงห์ที่แกล้งหยั่งความรู้สึก
ว่าเธอคงเสียใจไม่อยากให้ใคร เห็นความปวดร้าวถึงต้องเดินหนีมา

"จะปวดร้าวได้ยังไง ในเมื่อเรากับทีฑายุไม่ได้รักกัน" ศิศิราว่าแล้วก็หันหลังออกไป
มาณสิงห์มองไปเห็นกัญญาภัคยังกอดและหัวเราะยิ้มแย้มกับทีฑายุ เขารู้สึกพอใจที่
ความร่วมมือกับกัญญาภัคเป็นไปได้ด้วยดี

แต่ขณะ เดียวกัน โกญจนาทกำลังโกรธเป็นฟืนเป็นไฟเมื่อรู้จากไมยาดินว่ากัญญาภัค
ไปเจรจากับรา เชนทระจนยอมเปิดด่านการค้าเหมือนเดิม ส่วนพวกดรัณย์ที่อยู่ในเมือง
เห็นความดีอกดีใจของชาวบ้านก็พลอยดีใจไปด้วย แต่ลึกๆประสันต์ก็ยังอดหวั่นใจไม่ได้ว่า
เหตุการณ์จะสงบได้นานแค่ไหน ตราบใดที่ในวังยังมีการแบ่งฝักแบ่งฝ่าย ไม่มีใครไว้ใจใครเลย

เช่น เดียวกับสันธิที่มองการณ์ไกล นับวันชื่อของโกญจนาทจะแผ่กระจายไปทั่วปัญจารัตน์
มากกว่าชื่อองค์กษัตริย์ ธราเทพ ปล่อยไว้นานกว่านี้สันธิเกรงจะควบคุมสถานการณ์ไม่ได้
จึงมีความคิดจะปฏิวัติโกญจนาท ให้ประชาชนรู้ว่ามือโกญจนาทนี่แหละที่เปื้อนเลือด
ขององค์กษัตริย์และราชินี

"ปฏิวัติแล้วจะให้ใครจะขึ้นเป็นผู้สำเร็จราชการแทน" วิชัยเอ่ยถาม

"กำจัด คนเลวออกไปก่อน แล้วค่อยหาคนดีเข้ามารับใช้แผ่นดิน ยังไงเราก็ต้องรักษา
ราชวงศ์ไว้ แม้จะเหลือแค่เด็กกับผู้หญิง เพราะเป็นหน่อเนื้อเชื้อกษัตริย์ที่ทำให้แผ่นดิน
ของเราเป็นชาติ...ไม่เคยมี การปฏิวัติครั้งไหนไม่สำเร็จ ถ้ามีผู้บัญชาการทหารบก
เข้าร่วมด้วย...วิชัย ท่านจะอยู่ฝ่ายเดียวกับพวกเราหรือไม่"

วิชัยนิ่งยังไม่ตอบ ประสานสายตากับสันธิอย่างชั่งใจ

ooooooo

หลัง จากนั้นไม่นานโกญจนาทสังหรณ์ใจว่าอาจจะเกิดเรื่องไม่ดี เมื่อไมยาดินมา
รายงานว่าเห็นนายทหารชั้นผู้ใหญ่หลายคนที่ค่ายทหารอยู่กับสัน ธิและวิชัย
รามปุระคาดเดาพวกมันต้องเล่นไม่ซื่อแน่ ทาอูจึงแนะให้ฝ่ายเราชิงลงมือก่อน
ดังนั้นโกญจนาทจึงสั่งไมยาดินไปบอกสันธิว่าตนขอเชิญกินข้าวเพื่อปรึกษาปัญหา
เกี่ยวกับบ้านเมือง

มาณสิงห์รู้ทันความคิดโกญจนาทจึงอยากจะไปกับพ่อ ด้วย แต่สันธิไม่ยอม
ย้ำกับลูกชายว่า ถ้าพ่อถูกหักหลัง เราต้องเหลือคนที่ทำงานต่อได้จนสำเร็จ

"โกญจนาทมันไม่ปล่อยพ่อออกมาแน่"

"ต่อ ให้พ่อต้องตาย ภารกิจนี้ก็ไม่ล้มเลิก ต้องให้วิชัยมาร่วมกับเรา เพราะเท่ากับว่า
เจ้าหญิงจะมีกำลังที่แข็งแกร่งที่สุดเพื่อโค่นโกญจนาท"

มาณสิงห์หน้าเครียดจัด สายตาจับจ้องพ่อที่รับเสื้อกันกระสุนจากธนูเพลิงมาใส่...

การ พูดคุยกันระหว่างโกญจนาทกับสันธิ สองฝ่ายปะทะฝีปากกันอย่างชิงไหวชิงพริบ
โดยไม่มีท่าทีเกรงกลัวกันและกัน แต่โกญจนาทก็ไม่กล้าบุ่มบ่ามทำอะไรสันธิ
แม้จะรู้ทันว่าสันธิกับพรรคพวกคิดล้มล้างตนอยู่ และมั่นใจด้วยว่าพวกสันธิมี
กำลังคนมากกว่าพวกตน

แล้วโกญจนาทก็คาด การณ์ไม่ผิดพลาด สันธิกับวิชัยรวบรวมทหารทำการปฏิวัติ
ในคืนนี้ทันที โดยได้ความร่วมมือจากกัญญาภัคที่มาณสิงห์เป็นคนประสาน
กัญญาภัคลอบไปที่แผงควบคุมไฟของเมือง แล้วกดสวิตช์จนไฟดับทั่วไปหมด
ทั้งในวังนอกวัง แต่นกรู้อย่างโกญจนาทมีหรือจะอยู่รอให้ถูกจับ เปิดหนีไปตั้งแต่
สันธิออกจากบ้านได้ไม่นาน แต่สินาตีไม่รู้เห็นว่าโกญจนาทหนีไปไหน
ถูกพวกสันธิคาดคั้นหนักเข้าถึงกับสั่นด้วยความกลัว

ทีฑายุรู้ดีว่าเกิดอะไรขึ้น แต่เขาไม่ยอมบอกศิศิรา แถมยังคอยควบคุมไม่ให้เธอออก
จากห้องอย่างเด็ดขาด...

เมื่อ ค้นหาโกญจนาทไม่พบ มาณสิงห์ต้องไปคาดคั้นเคี่ยวเข็ญเอากับกัญญาภัค
แต่ครานี้กัญญาภัคกลับยึกยักไม่อยากกลายเป็นลูกอกตัญญู มาณสิงห์เลยต้องขู่
ถ้าไม่บอกกัญญาภัคจะเจอข้อหากบฏไปด้วย...จากนั้นไม่นานมาณสิงห์ก็นำกำลัง
ทหารกลุ่มใหญ่เข้าไปในค่ายทหารของรามปุระ สองฝ่ายยิงถล่มกันหูดับตับไหม้
พักใหญ่ๆทหารของรามปุระก็ล้มตายระเนระนาด ส่วนรามปุระกับไมยาดินก็บาดเจ็บ
แต่ถึงอย่างไรทั้งคู่ก็ไม่ยอมปริปากว่าโกญจนาทหลบหนีไปอยู่ที่ไหน

ศิ ศิราไม่รู้ว่าข้างนอกเกิดอะไรขึ้น แต่ในเมื่อจู่ๆไฟดับทั้งเมืองแบบนี้ทำให้เป็น
ห่วงธราเทพเหลือเกิน เธอพยายามจะดึงประตูห้องเปิดออกไป แต่ถูกทีฑายุกระชากตัวกลับมา
เขายืนยันว่าธราเทพอยู่กับญาณีแล้ว

"หรือว่านี่เป็นแผนของเธอ เธอรู้ว่าอะไรจะเกิดขึ้น" ทีฑายุจุ๊ปากเบาเป็นเชิงห้ามศิศิราพูดต่อ
ศิศิราเริ่มกลัว เอ่ยถามเสียงสั่น "ทีฑายุ ข้างนอกเกิดอะไรอยู่"

"ไม่มีอะไร ผมอยู่ตรงนี้แล้ว ไม่ต้องกลัว" ทีฑายุทอดเสียงนุ่ม สบตาศิศิรา
แล้วดึงตัวมากอดอย่างปลอบประโลม

ทาง ด้านกัญญาภัคซึ่งแน่ใจว่าทุกอย่างน่าจะเรียบร้อยแล้ว จึงตัดสินใจกดเปิดสวิตช์
จนไฟสว่างไสวทั่วทั้งเมืองดังเดิม... ทีฑายุเหมือนรู้สัญญาณผละออกจากศิศิราเดินออก
จากห้องไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ ทำให้ศิศิราสงสัยยิ่งขึ้น...

กัญญาภัคเพิ่งรู้จากมาณสิงห์จากทาง วิทยุสื่อสารว่ายังไม่พบตัวโกญจนาท
หญิงสาวถึงกับครางออกมาว่า เป็นไปได้ ยังไง...มาณสิงห์ส่งเสียงสวนมา
เป็นไปแล้ว มีที่ไหนที่มันจะหลบไปอีก

"ก็เหลืออีกที่เดียว"

จาก นั้นไม่นาน สันธิ วิชัย มาณสิงห์ ธนูเพลิงและทหารอีกนับสิบก็จู่โจมไปยังบ้านทีฑายุ
ซึ่งก็เจอตัวโกญจนาทที่นี่จริงๆ แต่โกญจนาทหาได้มีท่าทีสะทกสะท้านกับปืนหลายกระบอก
ที่จ่อตรงมา ยอมถูกควบคุมตัวไปทั้งรอยยิ้มบางๆ ในหน้าที่ไม่มีใครคาดเดาความคิดได้

จน เมื่อพาตัวเข้าไปในวัง ทุกคนถึงประจักษ์แก่สายตาว่าโกญจนาทฉลาดมาก
แต่เป็นฉลาดแกมโกงที่ใช้ธราเทพเป็นเกาะบำบัง โกญจนาทอ้างตัวเป็นครูสอนยิงธนู
และอีกหลายๆอย่างแก่ธราเทพ ซึ่งสามารถครอบงำจิตใจธราเทพได้เสียด้วย
เมื่อธราเทพรู้ว่าครูของตนถูกจับข้อหากบฏมีโทษถึงชีวิต ธราเทพในฐานะ
ยุวกษัตริย์แห่งปัญจารัตน์จึงมีคำสั่งอย่าคุมขังครูของตนในที่ ที่ไม่เหมาะสม


0000000000000000000000000000


มงกุฎแสงจันทร์ 01/12/52


ตอนที่ 15 (ต่อจากวานนี้)

โกญจนาทถูกคุมขังในห้องกว้างและสะอาด มีทั้งน้ำและอาหารอย่างดี
ไม่มีโซ่ตรวนแต่มีทหารถือปืนคุมอยู่รอบห้องนับสิบคน...ทีฑายุเดินเข้ามาหยุด ตรงหน้าโกญจนาท

"เพราะกษัตริย์ธราเทพมีเมตตา ลุงถึงไม่ต้องลำบากในคุกเหมือนคนอื่น"

"เด็ก ยังมีจิตใจสูงกว่าคนอย่างแกกับกัญญาภัค แกเปลี่ยนไปยืนข้างศัตรู
แล้วกัญญาภัคก็ยังแอบไปนิราษิณเพื่อช่วยแก...แกสองคนเนรคุณฉันทั้งคู่"

"เรายอมเนรคุณต่อคนชุบเลี้ยง แต่ไม่ใช่คนเนรคุณต่อบ้านเมือง
ทุกคนกำลังทำเพื่อแผ่นดินเกิด"

"ฉันก็ทำ ทำในวิถีทางของฉัน ฉันคือคนที่กำลังจะเปลี่ยนแปลงปัญจารัตน์
ให้เป็นดินแดนแห่งความร่ำรวยและโอกาส"

"โอกาส ของลุงคนเดียว แต่ไม่ใช่ของทั้งหมด ที่ลุงยืนอยู่ได้มาจนถึงวินาทีนี้
ก็เพราะว่ามีราชวงศ์นี้ให้แผ่นดิน ให้ความ ร่มเย็น เราเคยอยู่อย่างสงบจนลุง
ใช้เงินทำลายจิตใจชาวบ้าน"

"ฉันทำให้คนหูตาสว่าง ทำให้ทุกคนมีกิน มีความเจริญ พวกแกต่างหากที่กำลัง
รวมหัวกันเข้าข้าง คนที่นั่งเสวยสุขอย่างเดียว"

"กษัตริย์ ไม่ได้นั่งเสวยสุข แต่กษัตริย์คือคนที่ทำงานหนักที่สุดเพื่อประชาชน
ต่างกับลุง ลุงเป็นตัวอย่างให้ผมเห็นว่า คนโลภที่มีอำนาจแล้วยังขาดศีลธรรม
ขาดคุณธรรม...มันน่ากลัวแค่ไหน ถ้าลุงหยุดคิด หยุดฝันถึงอำนาจเกินตัว
ถึงจะไม่ยิ่งใหญ่เท่าเก่า แต่ลุงก็จะไม่ลำบากไปกว่าตอนนี้ เพราะคนที่มีคุณธรรม
ที่สุดและปรานีลุงที่สุด ก็คือศิศิรากับธราเทพ สองพี่น้องที่ลุงฆ่าพ่อแม่ของเขา"
ทีฑายุลงท้ายได้แสบสันแล้วหันกลับออกไปทันที โกญจนาทมองตาม
ก่อนจะงึมงำผ่านลำคอด้วยความแค้นที่อัดแน่นในอก

"ฉันเอาชีวิตพ่อแม่มันได้...ฉันก็เอาลมหายใจพวกมันมาเป็นของฉันได้เหมือนกัน"

ooooooo

ตอนที่ 16

จาก เหตุการณ์ที่เกิดขึ้นทำให้ความคิดและท่าทีของศิศิราที่มีต่อทีฑายุเปลี่ยนไป
จากเดิม ศิศิราขอบใจทีฑายุที่ทำทุกอย่างเพื่อบัลลังก์ของธราเทพ แม้ ทีฑายุจะท้วงติงว่าอย่ามองเขาในแง่ดีนัก เธอควรจะระแวงเขาที่สุด ถ้าเขาเป็นคนที่สั่งจับลุงตัวเองได้...

"เพราะเธอยอมรับความเกลียด เอาไว้คนเดียว" ศิศิรายิ้มให้ทีฑายุอย่างเข้าใจ
ทีฑายุได้ทีกระเซ้าว่า กำลังจะสารภาพว่ารักตนหรือเปล่า ศิศิราคอตั้งหน้าเชิดทันที
ย้ำว่าเธอมีแค่คำขอบใจ ส่วนคำสารภาพรักขอให้เขาไปหาจากผู้หญิงคนอื่น

ทีฑายุยิ้มหวานพอใจที่ศิศิราแง่งอนเพราะหึงหวง เขาดึงเธอมากอดนัวเนียแล้วอุ้มหาย
เข้าไปในห้องทันทีที่ศิศิรา

บอกอย่างเอียงอายว่า น้องธราเทพอยู่แถวนี้

อีก มุมของวัง กัญญาภัคขอบใจมาณสิงห์ที่ปล่อยตัวแม่ของเธอ มาณสิงห์ย้ำว่า
เป็นการตอบแทนที่กัญญาภัคบอกที่ซ่อนโกญจนาท สินาตีได้ยินแล้วตรงรี่เข้า
อาละวาดฟาดกัญญาภัคด้วยความโกรธเคือง "แกรู้ได้ยังไงว่าท่านไปอยู่กับนังนารียา"

มาณสิงห์ต้องรวบตัวสินาตี ที่ร่ำร้องจะฆ่านารียา กัญญาภัคกลับแนะนำให้แม่
ไปฆ่าตัวต้นเหตุอย่างโกญจนาทจะดีกว่า เพราะโกญจนาทหลบไปบ้านทีฑายุแล้วจับนารียาเป็นตัวประกัน

"ฉันเกลียดมัน...เอาตัวนารียามาให้ฉัน เอาตัวมันมา"

"หยุดคลั่งได้แล้วแม่...เอาแม่ฉันกลับไปที่บ้านให้ทหารเฝ้าไว้"

มา ณสิงห์ส่งสัญญาณให้ทหาร ทหารจึงมาดึงสินาตีออกไป จากนั้นกัญญาภัคก็
เรียกร้องสิ่งตอบแทบที่เธอลงทุนทำไปทั้งหมดจากมาณสิงห์ เธอต้องการให้เนรเทศโกญจนาท
ไปจากปัญจารัตน์ มาณสิงห์ตะลึง แทบไม่เชื่อหูตัวเองว่าผู้หญิงสวยๆที่ยืนตรงหน้าเขาจะเลือดเย็นถึงเพียงนี้

ครู่ ต่อมา กัญญาภัคทำทีเข้าไปเยี่ยมโกญจนาทในห้องคุมขังด้วยความเห็นใจ..
.คนอย่าง โกญจนาทมีหรือจะไม่รู้ทัน บอกกัญญาภัคให้พูดความจริงมาดีกว่า กัญญาภัคชะงัก แต่

ยังฝืนยิ้ม

"คงไม่มีลูกคนไหนอยากเห็นสภาพคนที่มีบุญคุณ... ถูกจองจำ"

"ฉันนึกว่าแกกำลังดีใจ แล้วก็วาดฝันว่าจะเป็นผู้หญิงที่จะเปลี่ยนแปลงประวัติศาสตร์"

"กัญญาไม่ใช่เจ้าหญิงนะคะ"

"แล้วที่แกเที่ยวระรานศิศิรา ไม่ใช่เพราะว่าอยากนั่งบัลลังก์คู่พี่ชายต่างสายเลือดหรอกเหรอ"

กัญญาภัคโดนจี้จุดแต่ก็ยังตั้งสติ ไม่ยอมปล่อยให้ โกญจนาทหยั่งท่าที

"ถ้าท่านไม่อคติกับกัญญา ท่านจะเห็นว่าทุกอย่างที่กัญญาทำคือประโยชน์ของท่าน"

"กระทั่งเรื่องที่แอบไปหากษัตริย์ราเชนทระ"

"ดู เหมือนว่ากัญญาช่วยพี่ทีฑายุใช่มั้ยคะ แต่ท่านคิดดีๆสิคะว่ากัญญาช่วยใครกันแน่
กัญญาเป็นลูกสาวท่าน ถ้าท่าน จะยกกัญญาให้ใครสักคน สิ่งที่ท่านจะได้คืนคงไ
ม่ใช่แค่สินสอดทองหมั้น แต่มันควรจะเป็นแคว้นสักแคว้นที่เหมาะสมกับผู้นำที่
ไม่เคยก้มหัวกลัวเกรงใคร อย่างท่าน"

โกญจนาทมีสีหน้าครุ่นคิดลังเล...ยังความสมใจให้กับกัญญาภัคที่อุตส่าห์เค้น
ถ้อยคำโป้ปดผ่านออกมาจากแววตาจริงใจ...

ด้าน วิชัย เมื่อมีโอกาสคุยกับทีฑายุตามลำพัง วิชัยเห็นด้วยกับเรื่องที่
จะเนรเทศโกญจนาทออกไปจากปัญจารัตน์ แต่เรื่องผู้สำเร็จราชการควรเป็น...

"เราขอเสนอ...ศิศิรา" ทีฑายุแทรกขึ้นมาจนวิชัยชะงัก แล้วเผลอเรียก
"นายน้อย" ทีฑายุสีหน้าระแวงหันมองรอบตัวก่อนติงวิชัยว่า "ท่านไม่ควรเรียกเรา
อย่างนี้คนอื่นอาจจะได้ยิน"

"แต่ท่านคือนายน้อย ของผม...กุทที พ่อนายน้อยเคยช่วยชีวิตผมกับครอบครัว
คนอย่างผมบุญคุณต้องทดแทนไปจนกว่าจะสิ้นชีพ นายน้อยทำทุกอย่างเพื่อทวง
คืนบัลลังก์ ให้เจ้าหญิง ยอมให้โกญจนาทมันบงการสารพัด จนมันคิดว่าจูงจมูก
นายน้อยได้ จนถึงตอนนี้มันก็ได้รู้แล้วว่านายน้อยเป็นเสือซ่อนเล็บ
ที่กล้าต่อสู้กับราชสีห์เฒ่า แล้วทำไมนายน้อยถึงไม่ใช้ความสามารถของตัวเองปกครองแผ่นดิน"

"เราต้องการเป็นแค่เสาค้ำจุนบัลลังก์ เราต้องการแค่นั้น...วิชัย"

0000000000000000000000000000000

มงกุฏแสงจันทร์ 02/12/52

ตอนที่ 16 (ต่อจากวานนี้)

"เพราะนายน้อยรักเจ้าหญิงต่างหาก"

"เราจะรักลูกของคนที่สั่งฆ่าพ่อเราได้ยังไง"

"การตายของท่านกุททีมีเงื่อนงำ"

"แต่ เราเชื่อว่าสิ่งนึงที่ลุงไม่ได้โกหก...คือพ่อศิศิราสั่งฆ่าพ่อเรา
ทุกครั้งที่เราเห็นบัลลังก์แสงจันทร์ เราเห็นภาพคนที่ฆ่าพ่อเราเคย
นั่งอยู่ตรงนั้น แต่เขาก็เป็นคนเดียวกับที่ทำให้ ทั้งแผ่นดินนี้มีความสงบสุข.
..สำหรับเรา เรื่องของแผ่นดินต้องอยู่เหนือความเจ็บปวด ความแค้น
และอยู่เหนือแม้กระทั่งหัวใจตัวเอง"

วิชัยฟังแล้วรู้สึกเป็นปลื้มชื่นชมนายน้อยของตนยิ่งขึ้นไปอีก

ooooooo

เพราะ ห่วงความรู้สึกของธราเทพที่ยังเด็กเกินกว่าจะต้องมารับรู้เรื่องแย่งชิงของ
ผู้ใหญ่ ศิศิราจึงยังไม่ บอกเรื่องเนรเทศโกญจนาทให้น้องชายรู้ แต่เมื่อเรื่องนี้
รู้ไปถึงหูชาวบ้านที่เคยได้รับแจกเงินจากโกญจนาท ชาวบ้านกลุ่มนี้ก็ลุก
ฮือต่อต้านทันที ทำให้เกิดการปะทะกันระหว่างทหารกับชาวบ้าน
โชคดีไม่มีใครล้มตาย เพราะทีฑายุไม่ยอมให้ทหารยิงชาวบ้าน

กัญญาภัคขัดใจเป็นที่สุดเมื่อ โกญจนาทถูกนำตัวกลับเข้าวังมาขังตามเดิม
แทนที่จะถูกเนรเทศไปพ้นปัญจารัตน์ แต่ถึงแม้จะถูกคุมขัง
โกญจนาทก็ยังเป็นคนสำคัญของธราเทพเหมือนเดิม ธราเทพลงมาคลุกคลีกับ
โกญจนาท ให้สอนยิงธนู และยกย่องโกญจนาทเป็นครู แถมโกญจนาทเอง
ก็ยอมเจ็บตัวเพื่อปกป้องธราเทพขณะซ้อมยิงธนู

ศิศิรากับ ทีฑายุรู้ทันโกญจนาทว่าแสร้งทำดีหลอกเด็กและตบตาพวกเราทุกคน
รวมทั้งชาวบ้านที่โกญจนาทนำเงินไปหว่านไว้ และตอนนี้พวกเขาเหล่านั้น
ก็กำลังต่อต้านไม่ยอมรับทีฑายุกับเจ้าหญิงศิศิรา แล้วอาจจะบานปลายกลายเป็นจลาจลกลางเมือง

ศิศิราหนักใจกับเรื่องนี้ มาก จะไปตามทีฑายุมาช่วยพูดกับธราเทพให้เข้าใจ
ตัวตนแท้จริงของโกญจนาท ซึ่งเธอมั่นใจว่าไม่มีใครทำได้นอกจากทีฑายุ
แต่มาณสิงห์ไม่อยากให้ศิศิราออกจากวังเพราะนอกวังอันตรายมาก
แต่สุดท้ายเขาก็ไม่สามารถทัดทานศิศิราได้

ทีฑายุอยู่ที่หอคณิกากำลัง วางแผนกับเพื่อนๆว่าจะแก้ปัญหาเรื่องชาวบ้านกันอย่างไร
แต่ขณะที่ศิศิรามาถึง พวกประสันต์ได้ออกไปสังเกตการณ์แล้วให้ทีฑายุรออยู่ที่นี่ ศิศิรา
จึงมาเห็นทีฑายุอยู่กับจตารีสองต่ออย่างสนิทชิดใกล้

ศิศิรากลับวัง ด้วยความเสียใจ โดยที่จตารีกับทีฑายุไม่เห็นเธอ แต่จตารีเห็นมาณสิงห์
ครู่ต่อมาทีฑายุจึงรีบกลับวังเพื่อจะอธิบายให้ศิศิราเข้าใจ แต่กลับมาเจอกัญญาภัค
จอมแผนการนอนร้องครวญครางหลังจากลงทุนให้รักเร่เอา กรรไกรแทงไหล่เธอจนได้เลือด

ทีฑายุหลงเชื่อคำพูดกัญญาภัคที่ว่าเธอ มัวแต่ห่วงก้มดูผ้าที่ปักให้เจ้าหญิง
เลยไม่ทันระวังมุมเสาที่หักอยู่ ทีฑายุอุ้มกัญญาภัคเข้ามาในห้องนอนศิศิราซึ่งใกล้สุด
แล้วทำแผลให้ด้วยความเป็นห่วง ทันใดนั้นเองศิศิรากลับเข้ามาเห็น ศิศิราเข้าใจ
ผิดคิดว่าสองคนกำลังทำบัดสีบนเตียงของเธอ จึงต่อว่าทั้งสองคนก่อนสะบัดออกไป
ด้วยความโกรธ ส่วนมาณสิงห์ซึ่งรู้แผนการของกัญญาภัคก็ไม่พูดอะไรสักคำ
นอกจากพอใจอยู่ลึกๆที่ทีฑายุ ถูกศิศิราเกลียดชังยิ่งขึ้นไปอีก

ศิ ศิราเดินแกมวิ่งออกมาเจอโกญจนาท เธอตกใจและไม่เข้าใจว่าโกญจนาทออกจาก
ห้องคุมขังได้อย่างไร กระทั่งมาณสิงห์ไปดูที่ห้องคุมขังก็พบว่ามีคนเอายานอนหลับ
ใส่ให้ทหารยามกิน จนโกญจนาทลอยนวลออกไปได้ มาณสิงห์จึงสั่งทหารตามจับตัวโกญจนาทให้ได้

โกญจนาท ยื่นข้อเสนอกับศิศิราว่า ทางเดียวที่จะรักษาบ้านเมืองและรักษา
ลมหายใจของตัวเองกับน้องชายไว้ได้ก็คือ ศิศิราต้องไปบอกให้ธราเทพสละราชบัลลังก์
ศิศิราทั้งกลัวทั้งกดดัน กรีดร้องจนหมดสติ เป็นเวลาที่มาณสิงห์ระดมกำลังทหารผ่านมา
โกญจนาทจึงเร้นกายหายไปในความมืดทันที

ญาณีตัดสินใจพาศิศิราหลบไปพัก ที่บ้านนารียาตั้งแต่ เมื่อคืน มาณสิงห์แม้ไม่เห็นด้วย
แต่ก็ขัดญาณีไม่ได้ เพราะญาณียืนยันว่าเธอไม่อยากให้เจ้าหญิงกลับไปเจอภาพทุเรศ
ของทีฑายุกับ กัญญาภัคอีก แล้วยังโกญจนาทอีกคนที่ใครก็แตะต้องไม่ได้

"เธอกลับไป ดูแลเจ้าชายธราเทพแทนเจ้าหญิงก่อน ทางนี้มีฉัน ไม่ต้องห่วง..
.เจ้าหญิงกำลังทุกข์เรื่องรักษาบ้านเมือง หวังว่าเธอคงไม่ใช้โอกาสนี้ซ้ำเติมหัวใจ
เจ้าหญิงด้วยการแยกเจ้าหญิงกับทีฑา ยุ" ญาณีทิ้งท้ายก่อนจะกลับเข้าบ้านนารียา
ไป มาณสิงห์ฮึดฮัดเถียงไม่ออกเพราะตัวเองร่วมมือกับกัญญาภัคเพื่อแยกทีฑายุกับ ศิศิราจริงๆ

ทีฑายุรีบร้อนมาถึงบ้านเกือบจะชนมาณสิงห์ที่เพิ่งเดินออกมา...ทีฑายุไม่ชอบใจ
กระชากเสียงถามมาณสิงห์ว่า "แกมาทำไม"

"กลัวว่าฉันจะใช้บ้านของแกปลอบใจเจ้าหญิงสอง

ต่อสองเหรอ"

"ออกไป"

"วันนี้ ฉันไปแน่ แต่ฉันจะได้กลับมาเหยียบที่นี่อีก แล้วคนที่จะต้องไป
จากชีวิตเจ้าหญิงจริงๆ ต้องไม่ใช่ฉัน" มาณสิงห์ เดินออกไปพร้อมรอยยิ้ม

ส่วนทีฑายุรีบเข้าบ้าน บอกแม่ว่าตนมีเรื่องต้องอธิบายกับศิศิรา
นารียาจึงต้อนญาณีออกไป เพื่อเปิดโอกาสให้ทีฑายุได้ปรับความเข้าใจกับเจ้าหญิง.
..แต่ไม่ว่าทีฑายุจะ พูดความจริงอย่างไรทั้งเรื่องจตารีและกัญญาภัค ศิศิราก็เอาแต่นิ่งเฉย
ไม่รับรู้ใดๆทั้งสิ้น แววตาเต็มไปด้วยความทุกข์ระทม ไม่ยอมหันหน้ามาหาทีฑายุ
จนทีฑายุต้องถอยออกมา

"แม่จะดูแลเจ้าหญิงให้เอง" นารียาเอ่ยกับลูกชายที่เดินหน้าหมองออกมา

"ผมต้องรีบกลับไปดูเรื่องลุงกับเจ้าชายธราเทพ"

"เชิญ เลยค่ะ" ญาณีกระแทกเสียงน้อยๆก่อนผลุบเข้าไปหาศิศิรา คะยั้นคะยอให้
ทานอะไรสักหน่อย เสร็จแล้วจะได้ออกไปเดินเล่นกัน ญาณีเห็นมีชิงช้าให้นั่งเล่นที่ริมน้ำ

ศิศิรานอนนิ่งไม่พูดจาไม่ตอบ โต้ มีเพียงน้ำตาไหลซึมออกมา ญาณีเห็นแล้วกลุ้มใจ
กลับออกมาบ่นให้นารียาฟัง พลางก็คาดเดาว่า "หรือพระองค์จะช็อก"

"คงทั้งเครียด ผิดหวัง แล้วก็กดดัน รออีกสักพักน่าจะดีขึ้น"

"นี่ มันกรรมเวรอะไร เจ้าชายก็เจ็บตัวตอนซ้อมยิงธนู เจ้าหญิงก็ช็อกจนไม่พูดอะไรเลย
บ้านเมืองก็ปั่นป่วน สาธุ...ขออย่าให้มีอะไรร้ายแรงกว่านี้เลย"

นารียาฟังญาณีแล้วรู้สึกใจคอไม่ดีเหมือนกัน

ooooooo

กัญญาภัคแสร้งเห็นใจทีฑายุที่กลับมาพร้อมกับความผิดหวังที่ศิศิรา
ไม่ยอมรับฟังเหตุผลใดๆทั้งสิ้น

"ให้กัญญาไปอธิบายกับเจ้าหญิงเองดีกว่า"

"ยังไม่ต้อง กัญญามีเรื่องอื่นหรือเปล่า ถึงมารอพี่ตรงนี้"

"มีค่ะ กษัตริย์ธราเทพเรียกให้โกญจนาทเข้าเฝ้า"

ที ฑายุเดินลิ่วไปห้องธราเทพทันที กัญญาภัคก้าวตามร้อนใจไม่แพ้กัน..
.โกญจนาทกำลังเล่าประวัติศาสตร์บ้านเมือง ให้ ธราเทพฟังอย่างออกรส
เมื่อทีฑายุกับกัญญาภัคเข้ามา ธราเทพ ที่กำลังสนุกจึงไม่ยอมให้ทั้งคู่ขัดจังหวะ
โกญจนาทถึงกับลอบยิ้มเย้ยทีฑายุด้วยความสะใจ ทีฑายุไม่พอใจแต่ทำอะไรไม่ได้
นอกจากถอยออกมาพร้อมกัญญาภัค

"โกญจนาทกำลังหลอกล่อองค์ธราเทพ แล้วอย่างนี้เราจะขับไล่เขาออกไปได้ยังไง"

"กัญญาไปคอยดูแลองค์ธราเทพแทนพี่หน่อยได้มั้ย"

"บัวบุศก็ดูแลอยู่แล้วนี่คะ"

"พี่ไม่อยากให้ลุงพูดอะไรที่จะเป็นประโยชน์กับตัวเอง"

"ทำไมเราถึงไม่พูดความจริงกับองค์ธราเทพไปซะเลย"

"จิตใจเด็กละเอียดอ่อนมากนะกัญญา ความผิดหวังเพียงนิดเดียวอาจเป็นปมในใจไปชั่วชีวิต"

"งั้นพี่ทีฑายุไปประชุมเถอะค่ะ กัญญาจะจัดการเรื่องนี้ให้"

ทีฑายุหันหลังจากไป กัญญาภัคยิ้มมั่นใจ แววตาร้ายกาจกับแผนที่คิดออก
จากนั้นไม่นานกัญญาภัคพร้อมด้วยรักเร่ก็ไปโผล่ที่บ้านนารียา

"เจ้า หญิงเป็นอะไรนักหนาถึงไม่เสด็จกลับวัง ทำไมต้องคอยให้พี่ทีฑายุวิ่งไปวิ่งมา"
กัญญาภัคเดินมามองศิศิราที่นั่งเฉย รักเร่ก้มมองแล้วมองอีกก่อนเอ่ยขึ้น
"หรือว่าเป็นบ้าไปแล้ว"

ศิศิรา ไม่พูดไม่ตอบ แต่พอกัญญาภัคจะดึงแขน ศิศิรา ก็ชิงผลักกัญญาภัคจนล้ม
ญาณีหัวเราะสะใจ รักเร่เลยจะอาละวาด นารียาจึงปรามทั้งนายทั้งบ่าวหัดมีมารยาท
และความเกรงใจเสียบ้าง

"กัญญามาธุระของพี่ทีฑายุ พี่ทีฑายุต้องการให้เจ้าหญิงกลับวัง"

"เจ้าหญิงจะไม่กลับไปเห็นภาพอุจาดตา" ญาณีสวนทันที

"จิตใจเปราะบางเหลือเกิน" กัญญาภัคยิ้มเยาะ

"ถ้า หมดธุระแล้วก็พากันกลับไปเถอะ ขอละนะ ที่นี่จะเป็นที่สงบที่สุดของเจ้าหญิง"
นารียาตัดบท กัญญากัคกับรักเร่เลยไม่กล้าตอแยศิศิราอีก

ขณะเดียวกันนั้น ทีฑายุกำลังประชุมกับสันธิและวิชัย โดยมีมาณสิงห์ร่วมฟังอยู่ด้วย
วิชัยบอกว่าเราควบคุมเหตุการณ์ ส่วนใหญ่ไว้ได้แล้ว แต่สันธิห่วงก็คือ
เราเนรเทศโกญจนาทออกไปไม่ได้ เพราะถ้าประชาชนรู้ก็จะลุกฮือขึ้นมาต่อต้านอีก

"ถ้า ให้อยู่ในวังก็เท่ากับเราต้องระวังทุกฝีก้าว" มาณสิงห์ หนักใจ แต่ทีฑายุหนักใจกว่า
บอกทุกคนว่าตอนนี้องค์ธราเทพอยู่กับโกญจนาท ไม่มีใครพาเข้าไป เป็นรับสั่งของพระองค์เอง
"พอถึงคราวคับขันก็เอาหลังพิงราชวงศ์ เลวบัดซบ" มาณสิงห์คำรามด้วยความแค้น

000000000000000000000000000000000000000


มงกุฏแสงจันทร์ 03/12/52

ตอนที่ 16 (ต่อจากวานนี้)

"รีบไปเอามันออกมาอย่างละมุนละม่อมที่ สุด อย่าให้
องค์ธราเทพตกใจ" สันธิพูดจบก็เดินตามวิชัยออกไป
มาณสิงห์ ยังไม่ขยับ กลับมองทีฑายุพลางยิ้มเยาะในทีเรื่องศิศิรา
ทีฑายุ เห็นแล้วขุ่นใจเป็นบ้า

เมื่อวิชัยกับสันธิไปถึงห้องธราเทพ สองคนไม่กล้าทำอะไร
เพราะธราเทพหลับซบอกโกญจนาท หลังฟังนิทานประวัติศาสตร์
ของบ้านเมืองจบลง...โกญจนาทมองสองทหารผู้จงรัก ภักดี แล้วยิ้มให้อย่างเหนือกว่า

เย็นนั้น มาณสิงห์ไปรายงานศิศิราว่าเหตุการณ์ทุกอย่างสงบแล้ว
ธราเทพเรียนหนังสือแล้วก็เล่นดนตรี ไม่มีอะไรน่าเป็นห่วง
ศิศิรารับฟังแต่ยังไม่พูดอะไรเหมือนเคย ทำให้มาณสิงห์ชักจะใจคอไม่ดี.
..ทางด้านสินาตี เมื่อเกิดรบเร้ากัญญาภัคว่าอยากจะเข้าไปเยี่ยมโกญจนาท
กัญญาภัคเลยย้อนถามเข้าให้ว่า จะไปเยี่ยมมันทำไม หาทางให้มันออก
ไปจากปัญจารัตน์น่าจะดีกว่า

"กัญญา ถึงแกไม่รักท่าน แต่แกก็น่าจะช่วยให้แม่ไปเยี่ยมท่านหน่อย"

"แม่ฟังกัญญานะ ตัดใจจากโกญจนาทซะ"

"แกอย่ามาสั่งฉัน ตราบใดที่แกก็ยังตัดใจจากไอ้ทีฑายุไม่ได้
แกกำลังรักสามีของเจ้าหญิง"

"พี่ทีฑายุเป็นของกัญญามาก่อน"

"แต่ ทีฑายุมันก็เป็นลูกของนังนารียา คนที่ฉันเกลียด พี่ชายกับน้องสาว
คนละสายเลือด ยังไงก็สู้สามีภรรยาที่แต่งงานกันอย่างถูกต้องไม่ได้"

"กัญญาบอกให้หยุดพูด" ทั้งลูกทั้งแม่ต่างโมโหใส่กัน ...สินาตีจับไหล่ลูกสาวเขย่า
เตือนสติ

"เลิกคิด เลิกหวังกับไอ้ทีฑายุได้แล้ว มันไม่ได้รักแก ได้ยินมั้ย มันรักศิศิรา"

"ไม่ จริง แม่โกหก เพ้อเจ้อ อย่าพูดให้กัญญาได้ยินอีกนะ...พี่ทีฑายุรักกัญญา
ได้ยินมั้ย พี่ทีฑายุรักกัญญา" กัญญาภัคสะอื้นเสียงสั่นเครือ สินาตีนิ่งมองอย่างเวทนา...

เวลานั้นทีฑายุกำลังยืนยันกับศิศิรา ว่ากัญญาภัคเป็นน้องสาว เราโตมาด้วยกัน
หลายครั้งที่ตนถูกสินาตีต่อว่าที่เป็นคนมาอาศัย แต่กัญญาจะแอบเอาของกินดีๆมา
ให้ตนเสมอ ตนไม่เคยเห็นกัญญาภัคเป็นอย่างอื่น และตนก็เคยสัญญาว่าจะดูแลน้องสาวคนนี้...

เห็นศิศิรานั่งฟัง ทีฑายุยิ้มใจชื้น แต่แล้วศิศิราดึงมือออกลุกเดินไปอย่างเฉยเมย
ทีฑายุถึงกับคอตกผิดหวัง

"เจ้าหญิงไม่พูดกับใครเลยลูก พระองค์คงเจออะไรที่ทำร้ายจิตใจมาอย่างรุนแรง"

"ไม่พูด..." ทีฑายุเงยหน้ามองแม่ แล้วหันไปทุบเสา ระบายความอัดอั้น

"มาลงโทษตัวเองตอนนี้ก็ไม่ทำให้เจ้าหญิงรู้สึกดีขึ้น"

"ผม ต้องทำยังไง ศิศิราต้องพูดนะแม่ ศิศิราต้องพูดกับผม" ทีฑายุรำพึงด้วยความเสียใจ
นารียาเองก็ไม่รู้จะทำอย่างไร ได้แต่แตะไหล่ปลอบใจลูก

ooooooo

ตอนที่ 17

แล้ว โกญจนาทก็พึ่งพิงธราเทพจนทำให้ตัวเอง ได้ออกมาอยู่นอกคุก แม้จะเป็น
การปล่อยตัวชั่วคราวเพื่อรอการสอบสวนข้อหากบฏอย่างที่วิชัยบอกใคร ต่อใคร
แต่โกญจนาทก็มั่นใจว่าการออกมาครั้งนี้ของตนจะไม่มีทางกลับเข้าไปอีกอย่าง
แน่นอน อีกทั้งไมยาดิน รามปุระ และทาอูก็ได้รับสิทธิ์การปล่อยตัวนี้ ด้วยเช่นกัน
จนกว่าจะมีการตัดสินเรื่องทั้งหมด

สินาตียิ้มร่าดีใจ เมื่อโกญจนาทได้กลับมาอยู่บ้าน ถึงแม้จะถูกกักบริเวณอยู่แต่ในบ้าน
โดยมีคนของสันธิสอดส่องดูแลความเคลื่อนไหว แต่โกญจนาทก็ยังดิ้นรนวางแผนกับ
สมุนอยู่เงียบๆ ไมยาดินเมื่อได้รับอิสระก็รีบดักพบกัญญาภัคด้วยความคิดถึง กัญญาภัค
ไม่เคยมีใจสักนิดแต่ต้องแสร้งตบตาไมยาดินต่อไป เพราะเธอพยายามจะดึงไมยาดินมา
อยู่ข้างเดียวกัน เพื่อกำจัดโกญจนาทให้จงได้ แต่สินาตีเฝ้ามองความใกล้ชิดระหว่าง
กัญญาภัคกับไมยาดินอย่างไม่พอใจ

โกญจนาท มีแผนจะยึดดินแดนแถวเขื่อนที่ติดกับนิราษิณ ขณะเดียวกันกัญญาภัค
ก็กำลังจ้องอยากได้ที่ดินตรงนี้ เย็นนั้นเธอจึงชวนไมยาดินไปนั่งเรือเล่นที่เขื่อน
แล้วทำพูดทีเล่นทีจริงว่า

"ปัญจารัตน์มั่งคั่งด้วยเขื่อนผลิตกระแส ไฟ นิราษิณเองก็คงอยากมีเหมือนเรา
ถ้าใครได้เป็นเจ้าของเขื่อน ก็เท่ากับยึดครองปัญจารัตน์ได้ทั้งหมด
ไมยาดินทำให้ทั้งหมดนี่เป็นของกัญญาได้มั้ย"

"ได้สิ" ไมยาดินพูดจบก็วักน้ำขึ้นมา "เราให้เธอ"

"ไม่ใช่สิ ไม่ใช่น้ำ ไม่ใช่ปลา ไม่ใช่แค่ทะเลสาบ เราต้องการที่ตรงนี้ทั้งหมด
ไมยาดินทำให้มันเป็นของเราได้มั้ย"

"เขื่อนไม่ใช่สมบัติของประชาชนคนใดคนหนึ่ง มันคือสมบัติของแผ่นดิน"

กัญญาภัคชะงักกับสีหน้าเคร่งเครียดของไมยาดินเธอแกล้งวักน้ำสาดเขา
หัวเราะเสียงใส

"ซีเรียสไปได้ กัญญาแค่ลองใจไมยาดินเท่านั้นแหละ ว่าจะหาทุกอย่างที่
กัญญาอยากได้จริงๆหรือเปล่า"

ไม ยาดินค่อยยิ้มออก พายเรือต่อไปท่ามกลางบรรยากาศ สดชื่น แต่กัญญา
ภัคเหยียดยิ้ม เบือนหน้าหันไปมองความยิ่งใหญ่ของเขื่อนด้วยสายตามีเป้าหมาย
เมื่อกัญญาภัคกลับเข้าบ้าน ไมยาดินยังตามมาส่ง ทั้งจับมืออ้อล้อไม่อยากจาก
แต่พลันต้องรีบปล่อยเพราะโกญจนาทเดินออกมาจ้องสายตาคมกริบ

"มีนายใหม่อีกคนแล้วหรือ ไมยาดิน"

"กัญญากำลังถามไมยาดินถึงตอนที่ถูกขังน่ะค่ะ"

"มีอะไรที่แกต้องรู้"

กัญญาภัคคิดไม่ทัน ไมยาดินรีบอธิบายแก้ให้ "ตอนที่อยู่ในคุก กัญญาภัคหาทางช่วยเราครับ"

"ถ้ากัญญารื้อฟื้นเรื่องนี้ขึ้นมาแล้วทำให้ท่านไม่สบายใจ กัญญาขอโทษค่ะ"

"กลับ ไปได้แล้ว" โกญจนาทสั่ง ไมยาดินก้มหัวก่อนเดินออกไปเงียบๆ
"แม่แกไม่อยากเห็นไมยาดินที่นี่อีก แต่ไมยาดินเป็นคนของฉัน แล้วมันก็ทำ
ประโยชน์ได้มากกว่าแกหลายเท่า จำใส่สมองแกไว้ เมื่อไหร่ที่เกิดเรื่องงามหน้าที่นี่
แกคือคนแรกที่ฉันจะไม่เลี้ยงไว้" โกญจนาทน้ำเสียงดุดัน แล้วหันกลับเข้าบ้าน
กัญญาภัคมองตาม แววตากระด้างขึ้นทันที

"แกต่างหากที่ต้องอ้อนวอนขอชีวิตจากฉัน"

กัญญา ภัคไม่เข้าบ้าน มุ่งหน้าไปพบทีฑายุในวัง แล้วทำออดอ้อนอย่างหวาดผวาว่า
ที่บ้านมีแต่ทหารจับตาดูโกญจนาทอยู่ เธอกลัวมาก ถ้าเกิดโกญจนาทคิดหนี
เธอคงโดนลูกหลงไปด้วย

"ลุงคิดจะหนีไปไหน"

"กัญญาไม่ทราบ แต่พี่ทีฑายุก็รู้นิสัยท่าน นิ่งไม่ได้ หมายความว่ายอมแพ้"

"พี่อยากให้กัญญาอยู่ใกล้ลุงไว้ พี่เข้าใจว่ามันอันตราย แต่ถ้าเราปล่อยให้ลุงคลาดสายตา..."

"แผ่น ดินก็ไม่มีวันสงบสุข พี่ทีฑายุกับเจ้าหญิงก็คง ไม่ได้ใช้ชีวิตคู่กันสักที..
.ได้ค่ะ กัญญาจะกลับไปที่บ้าน ทั้งๆพี่ ทีฑายุกำลังขอให้น้องเอาชีวิตไปเสี่ยง"

"กัญญา ฟังพี่ก่อน"

"ชีวิตกัญญา...สละได้เพื่อความสุขของพี่"

ที ฑายุจะคว้ามือ แต่กัญญาภัคหันหลังวิ่งออกไปแล้วแกล้งกลิ้งตกบันได
ร้องโอดโอยทั้งที่ไม่ได้เจ็บอะไรมากมาย ทีฑายุตกใจรีบอุ้มกัญญาภัคเข้า
ห้องเจ้าหญิงเพื่อปฐมพยาบาล กัญญาภัคยิ้มสมใจ แต่อีกครู่ได้ยินทีฑายุ
บอกว่าพี่จะไปนอนที่อื่น กัญญาภัคขัดใจแทบจะกรี๊ด

มาณสิงห์เดินผ่านมาเห็นทีฑายุออกจากห้อง เจ้าหญิงก็นิ่วหน้ามองสงสัย..
.มาณสิงห์เปิดประตูเข้าไปเห็นกัญญาภัค นอนบนเตียงเจ้าหญิง รู้สึกไม่พอใจอย่างยิ่ง

"บังอาจ ใฝ่สูงไม่สิ้นสุด มาทำอะไรบนเตียงเจ้าหญิงอีก"

"พี่ทีฑายุให้ฉันมานอนที่นี่"

มาณสิงห์ไม่สนตรงเข้ามากระชากแขนกัญญาภัค ไล่ให้ออกไปจากห้องนี้
กัญญาภัคแกล้งเซปะทะอกมาณสิงห์ ทันที แล้วเอามือโอบรอบคอเขาไว้

"ไปไม่ได้ เจ็บขา...คงคิดว่าเรากำลังจะเข้ามาครอบครองทุกอย่างของเจ้าหญิงล่ะสิ"

กัญญา ภัคทอดสายตาหวานฉ่ำ มาณสิงห์ปลดมือหญิงสาวออกแล้วผลักลงบนเตียง
กัญญาภัคแกล้งร้องราวกับเจ็บขาจะเป็นจะตาย มาณสิงห์ตกใจเข้ามาดูแลอย่างรู้สึกผิด

"สุภาพบุรุษอย่างนี้นี่เอง ถึงเป็นที่รักของเจ้าหญิง"

มา ณสิงห์สบตาหยาดเยิ้มของกัญญาภัคในระยะใกล้ แล้วรีบดึงตัวออกห่าง
"หวังว่าคราวนี้คงเจ็บจริง ไม่ใช่แกล้งเจ็บ เพื่อเรียกร้องความสนใจ"

"แล้วมันไม่ดีกับเธอด้วยเหรอ ถ้าเราจะอยู่ที่นี่ให้พี่ทีฑายุดูแล แล้วเธอก็ไป
คอยประคบประหงมจิตใจว้าเหว่ของเจ้าหญิง"

"แต่ถึงยังไง ห้องนี้ก็เป็นของเจ้าหญิงศิศิรา หายเมื่อไหร่ ก็รีบออกไปซะ"

มาณสิงห์หันหลังเดินเร็วออกไปทันที กัญญาภัคยิ้มพราย เอนตัวลงนอนบนเตียงนุ่มๆ
พร้อมกับประกาศความเป็นเจ้าของ

"แกไม่มีวันได้กลับมานอนที่เตียงนี้อีกแล้วศิศิรา ทุกอย่างในห้องนี้ต้องเป็นของฉัน
ทั้งเตียง ทั้งพี่ทีฑายุ"

ooooooo

เมื่อ คืนทีฑายุไปนอนที่หอคณิกาของจตารี เช้าขึ้นถึงกลับมาดูกัญญาภัค
กำชับไม่ให้ขยับเขยื้อนมากนัก ควรอยู่แต่ในห้อง จะได้หายเร็วๆ แต่กัญญา-ภัค
บอกเบื่อ อยากให้พี่พาเธอไปนั่งรถเล่น

"พี่ต้องไปประชุม แต่กลัวกัญญาเหงา เลยหาคนมาอยู่เป็นเพื่อน"

กัญญาภัคแปลกใจว่าใคร แล้วก็เห็นส้มเสี้ยวเดินหน้าบูดเข้ามา ทีฑายุรีบสั่งส้มเสี้ยว
ถ้าคุณกัญญาต้องการอะไร ก็รีบหามาให้

"แค่คนเดียวคงไม่ทันใจ กัญญาขอรักเร่มาอยู่ด้วยแล้วกันค่ะ"

ส้ม เสี้ยวรู้ดีว่ากัญญาภัคคิดจะแกล้งตน แต่คนอย่างส้มเสี้ยวไม่เคยกลัวใคร
ท้าเหย็งๆหลังจากทีฑายุกลับออกไปแล้ว แถมยังแกล้งกัญญาภัคจนโกรธหน้าดำหน้าแดง

ทีฑายุไปที่ค่ายทหาร กางแผนที่แคว้นปัญจารัตน์ ปรึกษาหารือกับสันธิและ
วิชัยเกี่ยวกับช่องทางการหนีของโกญจนาท

"กำลังทหารอยู่รอบบ้านตลอดเวลา ไม่มีทางรอดสายตา ชายแดนทุกด่าน
ก็มีแต่ทหารของเรา"

"ตรง นี้...พื้นที่ 10 กิโลเมตรเหนือเขื่อน มีแม่น้ำสายใหญ่ เชื่อมต่อกับนิราษิณ
เกาะแก่งมากมาย เหมาะสำหรับเป็นทางหลบหนี" สันธิชี้บนแผนที่

"เรามีกองกำลังพิเศษที่ควบคุมบริเวณเหนือเขื่อนอยู่แล้ว" ทีฑายุมั่นใจ แต่สันธิท้วงว่า

"พื้นที่ กว้าง มีผลประโยชน์ทั้งป่าไม้ เหมืองแร่ และแหล่งน้ำ ขุมทรัพย์ใหญ่
ของปัญจารัตน์ กองกำลังเรามีไม่ทั่วถึงเท่ากับชาวบ้านที่เราให้เขาดูแลพื้นที่"

"งั้นส่งคนเข้าไป อย่าให้ชาวบ้านพวกนั้นโดนมอมเมาด้วยเงินจนตกเป็นเครื่องมือ
ของโกญจนาท" ทีฑายุเอ่ยเตือน ด้วยน้ำเสียงกังวล...

ทาง ด้านโกญจนาทก็กำลังวางแผนกับทหารคู่ใจทั้งสามคน แต่จู่ๆสินาตีพรวดพราด
เข้ามาบ่นเรื่องกัญญาภัคเข้าวังไปตั้งแต่เมื่อคืน ป่านนี้ยังไม่กลับออกมา

"เข้าไปหาใคร" โกญจนาทถาม

"ก็มีคนเดียว ทีฑายุ"

"จริงสินะ พักนี้ลูกสาวคนสวยของเราสนิทชิดเชื้อกับสามีเจ้าหญิงเหลือเกิน
ไม่รู้ว่ากำลังวางแผนอะไรกันอยู่"

"กัญญาภัคไม่มีวันทรยศท่าน" ไมยาดินโพล่งขึ้น

"งั้นเหรอ อะไรในตัวลูกสาวฉันที่ทำให้แกมั่นใจ"

"กัญญาภัคฉลาด เขารู้ว่าแผ่นดินนี้กำลังจะเป็นของใคร"

โกญจนาท หัวเราะใจเย็น แตะมือลงที่บ่าไมยาดินอย่างสนิทสนม
"แกก็ฉลาดที่รู้ว่าต้องจงรักภักดีกับใคร ฉันมีงานให้แกทำ เงียบและลับที่สุด
เหมาะกับคนมีฝีมืออย่างแก"

สินาตีมองค้อนหมั่นไส้เมื่อเห็นไมยาดินยิ้มยืดที่ได้รับคำชม

ooooo0000000000000000000000000000000000000

มงกุฏแสงจันทร์ 04/12/52



ตอนที่ 17 (ต่อจากวานนี้)

ขณะไมยาดินนำเรือเล็กออกไปสำรวจแนวสัน เขื่อนตามคำสั่งโกญจนาท
มาณสิงห์กับธนูเพลิงกำลังพาทหารออกมาลาดตระเวนแถวนี้เหมือนกัน
เพื่อสำรวจทางหนีทีไล่ถ้าโกญจนาทคิดจะหนีด้วยเส้นทางนี้ เมื่อต่างฝ่ายต่างใช้กล้องส่องทางไกล แล้วมองเห็นกันลิบๆ ไมยาดินแน่ใจว่าถ้าถูกจับได้เขาต้องไม่รอดแน่ จึงหลบหลีกหนีไปโดยเร็วก่อนที่พวก
มาณสิงห์จะจู่โจมเข้ามาและเห็นหน้าเขาชัดๆ

เมื่อ หนีรอดมาได้ ไมยาดินรีบมารายงานโกญจนาทว่ามาณสิงห์เอาลูกน้อง
ไปเฝ้าไว้ทั้งแนวเขื่อน ถ้าจะเข้ายึดเราต้องมีกำลังมากกว่าอย่างน้อยสามเท่า
โกญจนาทบอกดี ให้มันยืนเฝ้าของที่จะเป็นของตนไปก่อน พอไมยาดิน
ถามว่าท่านจะบุกเมื่อไหร่ โกญจนาทสีหน้าไม่พอใจ ย้อนไมยาดินว่า

"ฉันต้องรายงานแกก่อนเหรอ" ไมยาดินรู้ว่าไม่ควรพูด ก้มหัวพร้อมเอ่ยคำขอโทษ
แล้วจะถอยออกไป "จะเข้าจะออก ระวังตัวหน่อย ทหารพวกมันเฝ้าอยู่รอบบ้าน
โดยเฉพาะตอนเข้าไปหากัญญาภัคในวัง คนซื่อสัตย์อย่างแกสมควรจะมีคนเห็นใจ"

"ขอบคุณครับท่าน"

จาก นั้นไมยาดินตั้งใจไปหากัญญาภัคในวัง เป็นเวลาที่กัญญาภัคและรักเร่กำลังทะเลาะ
กับส้มเสี้ยวในห้องศิศิรา กัญญาภัคพอรู้จากรักเร่ว่าทีฑายุกำลังไปหาศิศิรา
เธอจึงปล่อยให้สองสาวตบตีกันไป ส่วนตัวเองหลบออกมาอย่างเร่งรีบ
แล้วชนไมยาดินอย่างจังจนเธอล้มกระแทกพื้นเจ็บปวดข้อเท้าที่ตกบันไดยังไม่หาย ดี

ฝ่ายทีฑายุไปถึงบ้านแม่ กลับได้เห็นภาพบาดตาระหว่างศิศิรากับมาณสิงห์ที่ใกล้ชิดกัน
ทีฑายุโมโหหึงจนไม่ทันฟังเหตุผลใดๆ ต่อว่าทั้งศิศิราและมาณสิงห์เป็นการใหญ่
ยิ่งได้ยินญาณีกระแนะกระแหนเรื่องทีฑายุให้กัญญาภัคเข้าไปนอนในห้องส่วนตัว
เจ้าหญิง ทีฑายุก็ยิ่งโมโหมาณสิงห์ที่คาบข่าวมาฟ้องถึงนี่

ขณะสอง ฝ่ายทุ่มเถียงกัน ศิศิราลุกหนีไปโดยไม่พูดอะไรสักคำ ทีฑายุรีบตาม
ส่วนญาณีกับนารียาอดต่อว่ามาณสิงห์ไม่ได้ที่ปากหนักไม่ยอมบอกเหตุผลว่ากัญญา
ภัคมีอุบัติเหตุขาเจ็บถึงต้องเข้าไปนอนในห้องศิศิรา

ทีฑายุตามมา รวบตัวศิศิราที่วิ่งหนีไปริมน้ำ ศิศิราดิ้นรนและตบหน้าทีฑายุก่อนจะผลัก
เขาล้มกลิ้งลงไปในน้ำ แถมยังคว้าก้อนหินปาซ้ำเฉียดโดนหน้า แล้ววิ่งหนีไปโดยไม่พูดอะไรเลย

ส่วนในวังกัญญาภัคนั่งไม่ติด ขยับแล้วขยับอีกด้วยความรำคาญไมยาดินที่กำลังดู
ข้อเท้าของเธออย่างห่วงใย

"พอแล้วล่ะไมยาดิน เราไม่ได้เป็นอะไรมาก"

"ถ้าไม่เป็นอะไรมากก็กลับไปพักที่บ้านสิ หรือว่าต้องอยู่ใกล้พี่ชายถึงจะหายเร็ว"

"พูดอะไรน่าเกลียด ถ้าจะชวนทะเลาะ ก็อย่าคุยกันดีกว่า"

"วันนี้เราห่วงเธอทั้งวัน ขนาดตอนไปที่เขื่อน เราก็คิดแต่ภาพที่เธอนั่งพายเรือ"

กัญญาภัคแปลกใจ ถามไมยาดินไปที่เขื่อนทำไม ไมยาดินนึกได้ว่าเป็นงานลับ
จึงเงียบเสีย แต่นั่นยิ่งทำให้กัญญาภัค

อยากรู้ แสร้งทำเสียงอ่อนลง

"คงเป็นงานลับ...ไม่เป็นไร ไมยาดินจะมีความลับกับเราบ้างก็ไม่เป็นไร"

ไม ยาดินเห็นแววตาน้อยใจของหญิงสาวก็ใจอ่อนยวบ นั่งลงใกล้ๆ บอกเธอว่าเขา
ไปลาดตระเวนพื้นที่ หาข่าวว่ามาณสิงห์วางกำลังไว้ที่เขื่อนเท่าไหร่

"ท่านก็ต้องการเขื่อนเหมือนกัน" กัญญาภัคเดาทันที

"ใช่ ท่านต้องการพื้นที่เหนือเขื่อนยาวประมาณ 10 กิโลเมตร"

"แนว เขตติดต่อกับชายแดนนิราษิณ...งานเสี่ยงเหลือเกิน มิน่าเธอถึงเครียด"
กัญญาภัคไล้มือแตะหน้าไมยาดินแสดงความเห็นใจ ไมยาดินอดใจไม่ไหวจับมือนุ่มนั้นมาจูบ
กัญญาภัคสะดุ้งไปนิดอย่างคาดไม่ถึง แต่ไม่กล้าโวยวายกลั้นใจฝืนยิ้มและดึงมือออก
อ้างว่ากลัวมีคนมาเห็นเข้าจะไม่ดี ไมยาดินไม่ว่ากระไร มองท่าทางเอียงอายของกัญญาภัคด้วยรอยยิ้มชื่นใจ

ทางด้านส้มเสี้ยว หลังจากฟัดกับรักเร่จนหัวหูยุ่งเหยิง เจ็บทั้งตัวเจ็บทั้งใจ
แล้วพาลโมโหใส่ดรัณย์หน้าตาเฉย ทั้งที่ดรัณย์หวังดีจะมาอยู่เป็นเพื่อน
ดรัณย์ฉุนเลยว่าส้มเสี้ยวเป็นเด็กกะโปโล ไม่เห็นจะน่ารักน่าตื๊อตรงไหน
สาวๆในหอนางโลมมีเป็นร้อยสวยกว่านี้เยอะแยะ ว่าแล้วดรัณย์ก็เดินจากไป
ทิ้งส้มเสี้ยวยืนมองตามตาขวาง ทั้งน้อยใจทั้งงอน

ooooooo

เห็น มาณสิงห์ยังป้วนเปี้ยนใกล้ศิศิราทั้งที่มืดค่ำแล้ว ทีฑายุทนไม่ไหวเกิดต่อปาก
ต่อคำกับมาณสิงห์อีกยก จนญาณีที่รู้ว่ามาณสิงห์ต้องการเอาชนะทีฑายุถึงกับเอ่ยปาก
ไล่มาณสิงห์กลับ วังไปก่อน

ศิศิราเดินหนีทีฑายุเข้าห้องปิดประตูล็อกทันที ทีฑายุ โมโหประกาศว่าคืนนี้จะไม่กลับวัง
และถ้าศิศิราไม่เปิดรับเขา ไอ้ผู้ชายหน้าไหนก็ไม่มีสิทธิ์เข้าห้องนี้เหมือนกัน ศิศิราได้ยินเต็มสองหู
ทรุดลงนั่งกอดเข่าน้ำตาคลอด้วยความทุกข์ระทม

ข้าง ฝ่ายไมยาดินยังคงเอาอกเอาใจกัญญาภัค ประคองเธอมาส่งถึงหน้าห้องศิศิรา
แต่เขาก็อดบ่นเธอไม่ได้ว่า ห้องในวังมีตั้งมากมาย ทำไมถึงต้องเจาะจงมานอนที่ห้องเจ้าหญิง

"ไมยาดินว่าเรามีเหตุผลอะไรล่ะ"

"หรือว่าเธออยากจะเป็นเจ้าหญิงซะเอง"

"ได้ มั้ยล่ะ...เจ้าหญิงกัญญาภัคกับเจ้าชายไมยาดิน ถ้าได้เป็นเจ้าของเขื่อน
ก็เท่ากับบัลลังก์นี้มีไว้เพื่อเราสองคน หรือไมยาดินจะปล่อยให้มันเป็นแค่ความฝัน"

กัญญาภัคยิ้มหวานหว่าน เสน่ห์ จูบแก้มไมยาดินเบาๆ แต่พอไมยาดินจะคว้าตัวเธอมากอด
เธอกลับพลิ้วกายผ่านประตูเข้าห้อง...ไมยาดินยิ้มกว้าง อยากจะทำให้กัญญาภัคพอใจถึงที่สุด
แต่ไมยาดินหารู้ไม่ว่า กัญญาภัคในห้องกำลังเหยียดยิ้มเยาะหยันในความโง่เขลาเบาปัญญาของเขาอยู่

"ผู้ชายซื่อๆเซ่อๆอย่างแกก็ได้แค่ฝัน คนที่เหมาะจะเป็นเจ้าหญิงสูงศักดิ์เหนือทุกชีวิตคือฉัน..
.เจ้าหญิงกัญญาภัคกับเจ้าชายทีฑายุ"

ขณะ เดียวกันนั้น ทีฑายุที่ตอนแรกตั้งใจจะเฝ้าศิศิราอยู่ที่บ้าน แต่จนแล้วจนรอดก็อยู่ไม่ได้
หนักใจที่ศิศิราไม่ยอมพูดคุยด้วย ซ้ำหน้าตาก็ไม่อยากมอง ทีฑายุเลยมุ่งหน้าไปหอคณิกา
ในสภาพคนอมทุกข์ พอๆกับดรัณย์ที่ถูกส้มเสี้ยวเหวี่ยงมาเหมือนกัน ประสันต์กับมาลข่าน
จึงสรุปกันว่า ทีฑายุกับดรัณย์อกหักดังเป๊าะ ดรัณย์เถียงคอเป็นเอ็น แต่ทีฑายุไม่พูดอะไรสักคำ
กลับแยกตัวไปขอร้องจตารีให้ช่วยไปพูดกับศิศิราให้หน่อย จตารีคนเดียวที่เข้าใจความรู้สึก
ของเขามากที่สุด น่าจะทำให้ศิศิรายอมพูดกับเขาบ้าง สักคำก็ยังดี

เช้าขึ้นญาณีเห็นจตารีเยี่ยมหน้าเข้ามา ไม่ทันที่จตารีจะพูดอะไร ญาณีก็ชิงด่าจตารีฉอดๆ

"หน้าหล่อนมียางอายบ้างหรือเปล่า ถึงกล้ามาเหยียบที่นี่...นี่คงหวังจะให้ทีฑายุชื่นชมว่าเป็นคนดี
มาปลอบอกปลอบใจเจ้าหญิง"

"ข้ารับใช้นี่เขาต้องปากดี แสนรู้ เสนอหน้าไปทุกเรื่องของเจ้านายอย่างเธอทุกคนหรือเปล่า"

"ฉันเสนอหน้า แต่ไม่เคยเสนอตัวไปแทรกกลางเรื่องครอบครัวใคร"

"ดูจากหน้าตาท่าทาง ก็คงไม่มีเสน่ห์มากพอถึงขั้นนั้น"

"นี่ แสดงว่าแกตั้งใจทำลายความสุขของเจ้าหญิง" ญาณีรี่เข้าหาจตารี ศิศิราเข้ามาเห็นพอดี
แต่ห้ามไม่ทัน จตารีผลักญาณีเหวี่ยงไปกับพื้น แล้วตวาด

"ฉันมาอย่างมิตร ทีฑายุให้ฉันมา"

"โกหก" กัญญาภัคส่งเสียงและก้าวเข้ามาพร้อมรักเร่ ทุกคนหันมองไม่ไว้ใจ โดยเฉพาะญาณี
ที่ต้องเตรียมพร้อม ระวังทั้งจตารีและรักเร่ "พี่ทีฑายุไม่จำเป็นต้องให้ผู้หญิงชั้นล่าง
อย่างแกมาถึงบ้าน" กัญญาภัคกระแทกเสียงใส่จตารี

"ฉันมาอธิบายว่าฉันกับทีฑายุ เราหวังดีต่อกันแบบเพื่อน"

"เพื่อนคู่คิด...มิตรบนเตียงน่ะสิ"

"ถ้า เรียกอย่างนั้น เธอก็คงอยู่ประเภทเดียวกับจตารี เพราะตอนนี้เห็นว่ากล้าถึงขนาดเข้า
ไปยึดเตียงของเจ้าหญิงไว้ออเซาะคลอเคลีย ทีฑายุ"

กัญญาภัคหันขวับไปจ้องญาณีตาวาว รักเร่รู้ใจนายสาวพุ่งพรวดเข้าหาญาณี แต่ญาณีตั้ง
ท่ารออยู่แล้ว จึงคว้าเก้าอี้เหวี่ยงใส่จนรักเร่ต้องถอยฉาก กัญญาภัคทำท่าจะเดินเข้าหา

ศิศิรา จตารีรีบขวางไว้

"ฉันจะบอกทีฑายุว่าเธอมาหาเรื่องเจ้าหญิง"

"ให้รางวัลคนช่างฟ้องหน่อยสิจ๊ะ รักเร่"

รักเร่ ฉวยกระถางต้นไม้ขนาดย่อมสาดใส่จตารี ทั้งดินทั้งต้นไม้เลอะเนื้อตัวจตารี
รักเร่หยิบอีกกระถาง ญาณีรีบดันศิศิราออกห่าง แล้วเข้าตะลุมบอนรักเร่และกัญญาภัค
จตารีก็ร่วมวงด้วย ศิศิราไม่พูดอะไร หยิบสายยางมาเปิดน้ำฉีดใส่

สองสาวนายบ่าวจนวิ่งหนีกระเจิงกันไป

หลังจากนั้นจตารีมีโอกาสอยู่กับศิศิราตามลำพัง จตารีคุกเข่าลงตรงหน้าศิศิรา
เอ่ยปากอย่างนุ่มนวล จริงใจ

"ทีฑายุเองก็ไม่ได้สบายใจ ที่เจ้าหญิงแสดงองค์คล้ายหมดเยื่อใย หม่อมฉันมาพูดใน
ฐานะเพื่อนทีฑายุ หม่อมฉันมองเห็นความเศร้าของเขาเพคะ"

"แล้ว ความเศร้าของเราล่ะ" จตารียิ้มดีใจที่ได้ยินเสียงศิศิรา แต่อึดใจเดียวก็ต้องหุบยิ้ม
หน้าเจื่อนลง "ในเมื่อเสียงของเราไม่มีความหมายพอที่จะยับยั้งความประพฤติสำส่อนของทีฑายุ
ได้ เราก็ไม่ขอเอ่ยวาจาใดๆกับเขาอีก..."

ooooooo

ตอนที่ 18

ที ฑายุเข้าวังมาเห็นหน้ามาณสิงห์ก็หงุดหงิดขึ้นมาอีกจนได้ ทีฑายุเรียกกึ่งสั่งมาณสิงห์ไว้อีก
หลังจากสันธิ กับวิชัยรายงานความเคลื่อนไหวของโกญจนาทที่บ้านว่าไม่มีอะไรผิดสังเกต
สันธิกับวิชัยแปลกใจกับน้ำเสียงและสีหน้าทีฑายุที่จ้องมองมาณสิงห์ แต่ก็ต้องผละไป

"หาวิธีให้มันลูกผู้ชายกว่านี้หน่อยก็ได้ ถ้าไม่อยาก

ให้ฉันไปหาเจ้าหญิง" มาณสิงห์เอ่ยปากทันทีที่อยู่ตามลำพัง

กับทีฑายุ

"ที่ฉันยังปล่อยให้แกเป็นองครักษ์ศิศิรา เพราะเห็นแก่ ท่านสันธิ ไม่ใช่ความดีของแกเลย"

มาณสิงห์โกรธกำหมัดแน่น ทีฑายุกลับเดินเข้าหาท้าทาย

"สักหมัดก็ได้นะ ฉันกำลังอยากสั่งขังไอ้พวกชอบแทะๆเล็มๆเมียชาวบ้าน"

มาณสิงห์เงื้อหมัดแล้วชกเฉียดหน้าทีฑายุลงไปที่ผนัง "เลวอย่างแก ไม่มีทางชนะใจเจ้าหญิง"

"ฉันไม่ต้องชนะใจ เพราะฉันได้ทั้งตัวทั้งหัวใจศิศิรา... หมดจดทุกสิ่งทุกอย่าง"

มา ณสิงห์สุดทนเงื้อหมัดจะชกทีฑายุ สันธิวิ่งมาเห็น ตวาดห้ามก่อนจะไล่มาณสิงห์
ไปตรวจที่เขื่อน มาณสิงห์เห็นสายตา ดุๆของพ่อ จำต้องลดมือลงสะกดอารมณ์หันหลังเดินออกไป

"ถ้ามาณสิงห์ไม่มีพ่ออย่างท่าน เขาก็คงเป็นได้แค่ทหารปลายแถว"

"เราไม่ถือเป็นคำชมเพราะเรารู้ว่าสิ่งเดียวที่มาณสิงห์ ทนไม่ได้คือการที่เจ้าหญิง
โดนลบหลู่พระเกียรติ"

ทีฑายุชะงักนิ่งมองสันธิที่น้ำเสียงตำหนิชัดเจน...

ใน ขณะเดียวกัน กัญญาภัคกับรักเร่ที่กระเจิงมาจากบ้านนารียา กัญญาภัคกลับมาถึงบ้าน
อย่างหัวเสียสุดๆ รักเร่เห็นท่าไม่ดีรีบขอตัวไปเปลี่ยนเสื้อผ้า สวนกับไมยาดินที่เดินหน้าตึง
เข้ามาถามกัญญาภัคว่าหายไปไหนมา กัญญาภัคกำลังอารมณ์เสียพอได้ยิน
ไมยาดินทักแบบนี้ก็เสียงแข็งขึ้นทันที

"อย่ามาพูดเหมือนเป็นเจ้าของเรา เธอต่างหากวันๆทำอะไรมั่ง ถนัดก็แค่รับคำสั่งแล้วก็เดินตามก้นท่าน"

"เธอว่าเราแค่เดินตามก้น"

"ใช่ เพราะเราไม่เคยเห็นเธอทำอะไรเพื่อเราอย่างที่พูดเลย" กัญญาภัคสะบัดหน้า
เชิดเดินขึ้นบ้านด้วยอารมณ์ขุ่นมัว ไมยาดินมองตามแววตาทั้งโกรธทั้ง
น้อยใจหันหลังออกไปอย่างเร็ว...

ขณะ มาณสิงห์ออกไปตรวจตราแถวเขื่อนกับธนูเพลิง ธนูเพลิงเห็นสีหน้ามาณสิงห์
เหมือนมีเรื่องหนักใจ เพียงธนูเพลิง เอ่ยปากมาณสิงห์ก็บ่นออกมาทันที

"ทำไมฉันต้องทำงานอยู่ใต้คำสั่งไอ้ทีฑายุ แค่มันใช้สิทธิ์ ความเป็นสามีเจ้าหญิง
ก็ไม่มีใครคัดค้านมันได้" มาณสิงห์

ยิ่งพูดยิ่งแน่นในอกหันเดินไปอีกทาง ธนูเพลิงก้าวตามนาย

ของตนไปเงียบๆอย่างเข้าใจความรู้สึก แล้วทั้งคู่ไปเจอชาย

สามคนท่าทางแปลกๆมีพิรุธ พอธนูเพลิงสอบถามว่าจะไปไหน คนหนึ่งบอกว่ากำลัง
จะเข้าหมู่บ้าน พูดจบก็เตรียมจะชิ่งหนี

มาณสิงห์ไหวตัวชักปืนขึ้นเล็งทันที

"หมู่บ้านไม่ได้ไปทางนั้น"

ไม ยาดินที่พรางหน้าเตรียมตัวสู้ แต่มาณสิงห์ล็อกคอเสียก่อน ธนูเพลิงรีบคุมตัวสองคน
ที่เหลือ มาณสิงห์กระชากผ้าคลุมหน้า เห็นเป็นไมยาดินก็ยิ่งโมโห

"แกมาที่นี่ทำไม หรือว่าโกญจนาทกำลังใช้ให้แกหาทางหนี"

000000000000000000000000000000000000000000000


มงกุฏแสงจันทร์ 05/12/52


ตอนที่ 18 (ต่อจากวานนี้)

หลังจากมาณสิงห์จับไมยาดินได้คาหนังคาเขา แล้วควบคุมตัวมาขังคุกในวัง
สันธิรู้เรื่องจึงไปคาดโทษโกญจนาทที่กล้าฝ่าฝืนส่งลูกน้องไปลอบหาทางหนีที ไ
ล่ที่เขื่อน โกญจนาทนิ่งไม่ตอบโต้ สงสัยว่าไมยาดินไปที่เขื่อนอีกทำไม ทั้งที่ตนเองยังไม่ได้สั่ง

ขณะมาณสิงห์กับทีฑายุคาดคั้นไมยาดินว่าไป ที่เขื่อนทำไม ใครสั่ง
กัญญาภัคยืนหายใจไม่ทั่วท้องกลัวไมยาดินจะเอ่ยชื่อเธอออกมา แต่แล้วไมยาดินก็ทำให้
เธอโล่งใจ ไมยาดินบอกว่าโกญจนาทใช้ให้ไปดูว่าที่นั่นมีกองกำลังคุ้มกันมากแค่ไหน
กัญญาภัคจึงก้าวเข้ามาเจรจากับทีฑายุช่วยเหลือไมยาดินไม่ให้ถูกคุมขังจนได้ ทำให้ไมยาดินยิ่งรักและเทิดทูนกัญญาภัคมากขึ้นไปอีก

กัญญาภัคใช้ โอกาสนี้ล้างสมองไมยาดินเพื่อยึดมาเป็นคนรับใช้ของตนเอง
ไม่ใช่คนรักอย่างที่ไมยาดินเข้าใจ เวลาต่อมาเมื่อไมยาดินไปพบโกญจนาทที่บ้าน
ไมยาดินขอโทษที่เขาทำนอกเหนือคำสั่ง และยืนยันว่าเรื่องนี้กัญญาภัคไม่เกี่ยว
โกญจนาทรู้ดีว่าไมยาดินโกหก แต่ไม่คาดคั้นเอาผิดอะไร นอกจากสั่งไม่ให้แพร่งพราย
เรื่องที่ตนต้องการดินแดนเหนือเขื่อนให้ใครรู้ พอไมยาดินรับคำแล้วผละไป โกญจนาท
ก็คำรามอาฆาตทั้งไมยาดินและกัญญาภัคที่กล้าทรยศคนอย่างตน ทั้งคู่จะต้องได้บทเรียนที่จำไปถึงวันตาย...

ทีฑายุมั่นใจว่าโกญจนาท ไม่ได้คิดหนีไปจากปัญจารัตน์ หากแต่ยังต้องการล้มล้างราชวงศ์
เพื่อช่วงชิงมงกุฎแสงจันทร์ด้วยวิธีการเป็น เจ้าของเขื่อนซึ่งเป็นแหล่งผลิตพลังงาน
ไฟฟ้าเลี้ยงทั้งปัญจารัตน์ กัญญาภัคได้ฟังก็ร้อนรน เพราะถ้าโกญจนาทยึดเขื่อน
ได้ก็เท่ากับยึดอำนาจเบ็ดเสร็จ ทีฑายุจึงบอกให้รู้ว่าทางเราวางกำลังระวังพื้นที่รอบเขื่อนไว้หมดแล้ว เป็นระยะทางสิบกิโลเมตรเหนือเขื่อนตามแนวเขตติดต่อกับนิราษิณ

ขณะ เดียวกันนั้น โกญจนาทกำลังเดินแผนดัดหลังกัญญาภัค โดยสั่งการรามปุระ
ให้หาช่องทางเอาคำเชิญของตนไปให้ราเชนทระ บอกว่าตนอยากจะปรึกษาเรื่อง
กัญญาภัคลูกสาวหัวแก้วหัวแหวนที่ตนรักดั่งดวงใจ รับรองราเชนทระต้องรีบมาพบตนอย่างแน่นอน

รุ่งขึ้นโกญจนาทก็ส่งรถไป รับกัญญาภัคจากวังกลับมาบ้าน แล้วนั่งกินข้าวเช้าพร้อมหน้า
พ่อแม่ลูก รวมทั้งไมยาดินด้วย แต่สินาตีชังน้ำหน้าทหารรับใช้จึงลุกออกจากโต๊ะ
ไปอย่างหัวเสีย ส่วนกัญญาภัคนั้นเฝ้ามองโกญจนาทด้วยความแปลกใจ
อยากรู้เขาคิดจะทำอะไรกันแน่ ทำไมถึงดูรักใคร่ไมยาดินราวกับคนในครอบครัว

หลัง อาหาร โกญจนาทไม่เปิดโอกาสให้กัญญาภัคได้ซักถามอะไร เขาไล่กัญญาภัค
ไปดูแลสินาตี ก่อนจะเรียกไมยาดินมาพูดคุย แล้วเปิดไฟเขียวให้ไมยาดินคบหากัญญาภัค
เมื่อไมยาดินสารภาพว่าเขารักกัญญาภัคอย่างจริงใจ

แต่กัญญาภัคไม่เล่น ด้วยและโกรธมากเมื่อไมยาดินบอกว่าโกญจนาทยอมให้เราแต่งงานกัน
กัญญาภัคโกรธถึงขนาดคิดจะฆ่าโกญจนาท แต่แล้วเปลี่ยนใจ ถือมีดถอยออกมา
บอกตัวเองว่ายังไม่ถึงเวลา ยังไม่สาแก่ใจ มันจะตายก็ต่อเมื่อเธอได้รับผลประโยชน์
สูงสุดเสียก่อน และคนชั่วๆอย่างมันต้องถูกประจานทั่วทั้งแผ่นดิน ส่วนโกญจนาทที่
เมื่อครู่แกล้งหลับ ลืมตาขึ้นมองตามกัญญาภัคอย่างชิงชังเคียดแค้น

รามปุระติดสินบนทหาร ด้วยทองคำจำนวนไม่น้อยเพื่อเปิดทางให้แขกพิเศษผ่านเข้า
ปัญจารัตน์ได้สะดวก โดยไม่มี การรายงานไปถึงในวัง กัญญาภัคเมื่อเห็นราเชนทระมา
ปรากฏตัวที่บ้านก็ร้อนรน อยากรู้ว่าโกญจนาทมีจุดประสงค์อะไร พอเธอจะเข้า
ไปสนทนาด้วย ก็ถูกสินาตีขัดขวาง

โกญจนาทรู้ดีว่าราเชนทระพึงพอใจกัญญาภัคอย่างมาก เพียงแค่เขาเอ่ยปากยกกัญญาภัค
แลกกับที่ดินนิราษิณที่ติดกับเขื่อนของปัญจา รัตน์ ราเชนทระก็ตอบตกลงทันที
สินาตีพอรู้จากโกญจนาทว่ากัญญาภัคจะได้เป็นราชินีนิราษิณก็ยินดีปรีดา
และหวังว่าเธอเองก็จะได้เป็นราชินีแห่งปัญจารัตน์เคียงคู่ กับกษัตริย์โกญจนาทในเร็ววันด้วย

หลังจากราเชนทระกลับไป โกญจนาทก็เรียกรามปุระมาซักถามเรื่องกองกำลังของสันธิ
กับวิชัยว่ามีมากเท่า ไหร่ รามปุระบอกว่ามากกว่าเราเท่าตัว โกญจนาทย้อนว่า
จะมากกว่าได้ยังไง ในเมื่อเรามีกองทัพของนิราษิณ

"ท่านคิดจะ..." รามปุระสีหน้าตกใจ

"ให้ทหารนิราษิณต่อสู้เอาพื้นที่และเขื่อนปัญจารัตน์ มาเป็นของเรา"

"นิราษิณจะก่อสงครามเพื่อเราไปทำไม"

"ไม่เคยได้ยินหรือ หญิงสาวคนเดียวก็ทำให้เกิดสงครามได้"

ขณะ เดียวกันนั้น หญิงสาวที่โกญจนาทพูดถึงกำลังกระวนกระวายใจอย่างยิ่ง
กัญญาภัคอยากรู้ว่าโกญจนาทคุยอะไรกับราเชนทระบ้าง เธอหาโอกาสจะเข้าไปพูดคุย
แต่จู่ๆไมยาดินก็โผล่มาถึงเนื้อถึงตัวกอดรัดเธอ แถมยังบอกว่าเรากำลังจะแต่งงานกัน
กัญญาภัคท้วงไมยาดินอย่าพูดเอาเองฝ่ายเดียว ไมยาดินไม่ค่อยพอใจ แต่ไม่ทันจะพูดอะไร
กัญญาภัคก็สะบัดจากไป อ้างว่ามีธุระส่วนตัว

ทหาร สอดแนมของราเชนทระเห็นภาพไมยาดินกอดรัดกัญญาภัคเมื่อครู่
ครั้นเขากลับไปรายงานราเชนทระ ไมยาดินจึงถูกหมายหัวทันที แล้วไม่ทันข้ามวันทหาร
นิราษิณก็ย้อนกลับมาหมายปลิดชีพไมยาดิน แต่กัญญาภัคเข้ามาช่วยทัน
และฆ่าทหารนิราษิณตายด้วยมือเธอเอง ก่อนสั่งให้ไมยาดินจัดการเรื่องศพโดยเร็ว
ส่วนตัวเธอเข้าบ้านไปต่อว่าตัวการอย่างโกญจนาท

โกญจนาททำไม่รู้ไม่เห็นเรื่องไมยาดินจะถูกฆ่า แต่ก็ยอมรับว่าราเชนทระต้องการกัญญาภัคไปอยู่ด้วย

"ท่านไม่มีสิทธิ์ยกเราให้ใคร โดยไม่ถามความพอใจของเรา"

"มีปัญหาอะไรหรือเปล่า หรือว่าไม่อยากเป็นราชินีนิราษิณ แต่อยากเป็นราชินีแห่งปัญจารัตน์
มากกว่า" โกญจนาทแทงใจดำ

"ท่านบอกว่าอนุญาตให้เราแต่งงานกับไมยาดิน แล้วไม่ทันข้ามวันก็ยกเราให้ผู้ชายอีกคน
ท่านหวังจะให้ไมยาดินตายด้วยมือกษัตริย์ราเชนทระ"

"เราไม่เลือดเย็นขนาดยืมมือคนใหญ่คนโตมาฆ่าลูกน้องคนสนิทหรอก"

"ท่านทำลงไปแล้ว ท่านได้อะไรตอบแทนจากนิราษิณ ท่านต้องได้มากกว่าเงินทอง
ถึงได้ยอมขายลูกสาวอย่างเรา"

โกญจนาทสยบกัญญาภัคที่ฉอดๆใส่ด้วยฝ่ามือไปหนึ่งฉาด แล้วสำทับดุดัน

"แก เป็นแค่ของแลกเปลี่ยนที่นิราษิณต้องการจากฉัน รู้ตัวไว้ด้วย ว่าถ้าแกไม่ทำ
ทุกคนที่เกี่ยวข้องกับแกมันต้องตาย อย่างไร้ร่องรอย รวมถึงแม่แกด้วย"

กัญญา ภัคทั้งเจ็บทั้งแค้น มองตามโกญจนาทด้วยสายตาอาฆาต แล้วจากนั้นตรงรี่
ไปต่อว่าแม่ตัวเองว่ารู้เห็นเป็นใจกับโกญจนาท ยอมให้มันยกลูกสาวเป็นนางบำเรอราเชนทระ

"แกกำลังจะสบายนะ ไม่มีผู้หญิงคนไหนโชคดีอย่างแกอีกแล้ว รู้มั้ยว่าแค่เริ่มเจรจาสู่ขอ
กษัตริย์ราเชนทระก็ยกที่ดินนิราษิณเหนือเขื่อนให้เราแล้ว"

"มิน่า ราเชนทระถึงกับส่งคนมาฆ่าไมยาดิน"

"สม ใจฉันจริงๆ ลูกสาวฉันไม่ควรได้กับขี้ข้ารองมือรองเท้าอย่างไมยาดิน
ราศีแกน่ะต้องเป็นถึงราชินี แล้วถ้าฉันได้เป็นราชินีปัญจารัตน์ แกเป็นราชินีนิราษิณ
เราก็จะเป็นราชินีคู่แม่ลูกคู่แรกในประวัติศาสตร์"

"ไม่ กัญญาไม่เป็นราชินีของนิราษิณ ผู้ชายคนเดียวที่ต้องยืนเคียงข้างกัญญาเหนือบัลลังก์คือพี่ทีฑายุ"

"แกมันหลงทีฑายุจนเสียสติไปแล้ว มันมีอะไรให้แกมากเท่ากษัตริย์แห่งนิราษิณหรือไง"

"ความรักไงล่ะแม่ ความรักของพี่ทีฑายุเท่านั้นที่กัญญาต้องการ"

"ความรักมันไม่ได้ทำให้แกมีทรัพย์สมบัติเต็มท้อง พระคลัง"

"มี แน่ๆ กัญญาจะต้องมีทั้งความรัก มีทั้งพี่ทีฑายุ และมีดินแดนที่กัญญาเป็นเจ้าของ
แม่คอยดูว่ากัญญาจะต้องมีทุกอย่าง...ที่โกญจนาทอยากได้" กัญญาภัคประกาศด้วย
แววตาเคียดแค้นทะเยอทะยาน แล้วหันหลังเดินออกไป สินาตีมองตาม คำรามด้วยความโมโห

"แกมันบ้า กัญญาภัค ไอ้ทีฑายุมันไม่มีอะไรให้แก"

ooooooo

กัญญา ภัคหายไปนานจนไมยาดินกับรักเร่อดเป็นห่วงไม่ได้ ไมยาดินสังหรณ์ใจ
ว่ากัญญาภัคอาจจะไปนิราษิณ เมื่อเขาไปสอบถามสินาตี กลับถูกสินาตีขับไล่
ไสส่งอย่างดูถูกเหยียดหยาม ไม่ยอมให้มาเกาะแกะกับลูกสาวของเธอ

"แต่ท่านโกญจนาทยกกัญญาภัคให้ผมแล้ว"

"เขา คงไม่คิดสั้นขนาดนั้น แล้วฉันก็ไม่ได้รับรู้เรื่องนี้ ไสหัวไปให้พ้นๆหน้าฉัน"
สินาตีตวาดแว้ด ไมยาดินจำต้องถอยออกมาด้วยแววตาพะวักพะวง

ส่วนโกญจนาท พอรู้จากรามปุระว่ากัญญาภัคข้ามไปนิราษิณแล้ว โกญจนาทถึงกับยิ้มสมใจ
"นึกอยู่แล้วว่ามันต้องรีบไปขอความเห็นใจจากราเชนทระ ไมยาดินก็คงกำลังดิ้นพล่าน
อย่าให้ไมยาดินตามไปได้ คืนนี้กษัตริย์ราเชนทระจะต้องพอใจที่สุด"

ภายในวังนิราษิณ กัญญาภัคใช้จริตมารยาออดอ้อนราเชนทระ จนราเชนทระยิ่งหลงใหล
ถึงขนาดเปลี่ยนใจยกที่ดินเหนือเขื่อนให้กัญญาภัคตาม ต้องการ แล้วเขาจะหาที่ดินตรง
อื่นให้โกญจนาทแทน

"งั้นให้ทหารไปกั้นที่ดินตรงนั้นไว้เลยนะเพคะ" กัญญาภัคส่งยิ้มยั่วยวน ราเชนทระมองอย่างเสน่หา

ดึงมือหญิงสาวมาจูบแผ่วเบา


0000000000000000000000000000000000000000000000


มงกุฏแสงจันทร์ 06/12/52

ตอนที่ 18 (ต่อจากวานนี้)

เพียงมีคำสั่งจากราเชนทระ ทหารก็นำกำลังเอาลวด หนามไปกั้นเขตที่ดินที่ยก
ให้กัญญากัคในคืนนี้ทันที ทีฑายุ สันธิและวิชัยรับรายงานจากทหารของตน
เกี่ยวกับเรื่องนี้ เกิดความไม่พอใจเพราะมีบางช่วงที่ทหารนิราษิณเอาลวดหนาม
กั้นรุกล้ำเข้ามาใน ปัญจารัตน์ สันธิสงสัยว่าทำไมต้องเร่งทำตอนกลางคืน
วิชัยเพิ่งนึกได้ วันก่อนได้ข่าวมีขบวนรถที่น่าจะเป็นของกษัตริย์ราเชนทระผ่าน
ข้ามชายแดนมา แล้วก็หายไปแถวบ้านโกญจนาท

"โกญจนาทอีกแล้ว" สันธิท่าทีหงุดหงิด

"สั่ง ทหารดันลวดหนามของนิราษิณกลับไป" ทีฑายุ สั่งการ จากนั้นไม่นาน
มาณสิงห์กับธนูเพลิงก็พาทหารกลุ่มหนึ่งไปที่เขื่อน ประจันหน้ากับทหารนิราษิณ
ที่กำลังเร่งมือ แล้วเกิดการดึงดันลวดหนามกันครู่หนึ่ง ก่อนไมยาดินกับพวกจะ
ออกมาสมทบช่วยฝ่ายมาณสิงห์ ทหารนิราษิณจึงยอมถอย

ใน ขณะที่ชายแดนเกิดเรื่องวุ่นวายแทบฆ่ากันตาย กัญญาภัคตัวการกำลังมอม
เหล้าราเชนทระผู้มักมากในกามารมณ์ จนฟุบหลับคาเตียง พอเช้าขึ้นราเชนทระ
พยายามจะสานต่อเหตุการณ์เมื่อคืนที่กำลังจะได้สุขสม แต่กัญญาภัคชิงขอตัว
กลับทันที ทำจริตมารยาอ้างว่าจะไม่งาม ถ้าเธอยังอยู่ต่อแล้วมีคนในวังนี้รู้เห็น

แต่ขณะกัญญาภัคเดินทางกลับ ปัญจารัตน์มีทหารของสันธิเห็นเข้า เมื่อทีฑายุ
ได้รับรายงานจากสันธิจึงรีบเดินทางไปบ้านโกญจนาท ซึ่งเวลานั้นโกญจนาทกำลัง
ดุด่ากัญญาภัคที่เอาตัวเข้าแลกสนองตัณหาราเชนทระจน ได้ที่ดินมากมาย
ทั้งๆที่ที่ดินตรงนั้นวันก่อนราเชนทระเพิ่งจะหยกให้ตน

เมื่อถูกด่าสำส่อนสกปรก มีแค่หน้าตากับมารยาไว้ ล่อหลอกผู้ชาย กัญญาภัคหมดความ
อดทนตอบโต้โกญจนาทอย่างไม่เกรงกลัว

"ก็ เหมือนที่ท่านมีแต่ความเจ้าเล่ห์ เลวนรก คิดจะเสี้ยมให้นิราษิณฆ่าได้กระทั่ง
ไมยาดินลูกน้องคนสนิท" โกญจนาทโกรธจัดเงื้อมือจะตบ กัญญาภัคเชิดหน้าท้าทาย
"ตบสิ ถ้าท่านทำฉันเจ็บ นิราษิณอาจจะต้องเปิดศึกสงครามกับปัญจารัตน์ เพื่อกำจัดท่าน
เพียงคนเดียว ถึงเวลาที่ท่านต้องอ้อนวอนจากฉันแล้วล่ะ ขอสิ ขอที่ดินเหนือเขื่อนที่
ท่านอยากได้นักหนา ฉันอาจจะให้ท่านสักสิบยี่สิบตารางวา ไว้ปลูกเพิงหลบภัยเวลาที่
โดนเนรเทศออกไปจากที่นี่"

โกญจนาทสุดจะ ระงับอารมณ์ ตบกัญญาภัคทีเดียวล้มกองกับพื้น ทีฑายุเข้ามาเห็นพอดี
เขาพุ่งเข้าไปผลักโกญจนาท ออกห่าง แล้วประคองกัญญาภัคขึ้นมา

"ทำไมต้องลงมือกับผู้หญิง กัญญาเป็นลูกท่าน" ทีฑายุต่อว่า

"นังลูกเลี้ยงคนนี้ก็ไม่ต่างจากแก สัญชาติเลี้ยงไม่เชื่อง"

"เพราะเราไม่ใช่สัตว์ที่ต้องเลี้ยงด้วยเงินของแก" กัญญา–ภัคย้อนทันที
"เรามีชีวิตมีจิตใจที่ไม่ต้องให้ใครมาบงการ"

"ฉันเลี้ยงพวกแกมา หวังว่าพวกแกจะช่วยให้ฉันก้าวไปสู่ความยิ่งใหญ่"

"ความยิ่งใหญ่ของลุงต้องไม่ใช่มาจากการทำลายชีวิตคนอื่น"

"ไอ้ลูกหลานทรพี แกคิดว่าปีกกล้าขาแข็งแล้วใช่มั้ย"

"หยุดเถอะครับ ถ้าหยุดตอนนี้เราก็ยังอยู่ร่วมกันได้"

โกญจนาท ไม่ฟังคำทีฑายุ ตวาดไล่ทั้งคู่ออกจากบ้าน กัญญาภัคจึงประกาศจะ
ไม่กลับมาเหยียบที่นี่อีก โกญจนาทแค้นแทบกระอักเลือด มองตามทั้งคู่อย่างอาฆาต
แล้วจากนั้นไประบายแค้นอาละวาดตบตีสินาตี โทษฐานที่เป็นแม่กัญญาภัค
จนสินาตีปากแตกสลบคามือ

ทีฑายุพากัญญาภัค เข้ามาในวังและคาดคั้นว่าไปนิรา–ษิณทำไม
กัญญาภัคบอกตามตรงว่าเธอไปขอที่ดินที่ราเชน–ทระจะยกให้โกญจนาท
กลับมาเป็นของ เธอ ทีฑายุไม่ชอบใจ ถามว่ามันสำคัญขนาดที่ต้องเอาตัวเข้าไปตามลำพังเชียวหรือ

กัญญาภัค ยืนยันทั้งน้ำตาว่ามันสำคัญสำหรับเรา โกญจนาทไม่ได้ต้องการ
ที่ดินเหนือเขื่อนไว้หนี แต่ต้องการเขื่อนเพื่อกุมอำนาจทั้งสองแคว้น

"กัญญาแน่ใจ"

"แน่ ใจค่ะ โกญจนาทยกกัญญาให้กษัตริย์ราเชนทระ เพราะคิดว่าจะรวบทุก
อย่างไว้ในกำมือ กัญญายอมไม่ได้ เราเสียแผ่นดินให้คนขี้โกงไม่ได้ กัญญา
ยอมให้พี่ทีฑายุดูถูก แต่กัญญารู้ว่ากัญญากำลังรักษาทุกตารางนิ้วไว้ให้เป็น
ของปัญจารัตน์ ไม่ใช่ของโกญจนาท กัญญาทำเพื่อเรา พี่ทีฑายุอย่าโกรธ
อย่ารังเกียจน้องนะคะ"

"พี่ ไม่มีวันเกลียดกัญญา" ทีฑายุเช็ดน้ำตาให้กัญญาภัคที่สะอึกสะอื้นกอด
เขาเป็นที่พึ่งเดียวของชีวิต แล้วจากนั้นก็ออดอ้อนให้ทีฑายุอยู่เป็นเพื่อน
ทั้งยังรำพันอยากให้ความฝันของเธอเป็นจริง ตื่นมาทุกเช้าได้เห็นเขาเป็นคนแรก
ทีฑายุอึดอัดแต่ก็รักษาน้ำใจน้องสาว กัญญาภัคได้ยินคำว่าน้องก็ตัดพ้อด้วยความน้อยใจ
ทีฑายุจึงอธิบายว่าความเป็นพี่น้องยิ่งใหญ่มาก เพราะมันเกิดขึ้นจากความรู้สึกที่บริสุทธิ์
ไม่มีอะไรเคลือบแฝง

"จะมีมั้ยคะที่วันนึงความรู้สึกของพี่ที่ให้กัญญาจะเปลี่ยนไป

"ไม่มี...เพราะพี่จะรักน้องสาวคนนี้เท่าชีวิต"

กัญญา ภัคหน้าสลด น้ำตาคลอ เตะมือลงที่อกทีฑายุ "หัวใจที่ไร้รักหล่อเลี้ยงคือ
หัวใจที่ว่างเปล่าเดียวดาย กัญญาจะรอค่ะ เพราะกัญญารู้ว่าอีกไม่นานน้องสาวคน
นี้จะต้องได้อยู่กลางดวงใจของพี่"

ทีฑายุมองมือกัญญาภัคที่วางบนอกของตนอย่างลำบากใจ ต่างจากกัญญาภัคที่
สายตาแน่วแน่กับความรักที่มีต่อทีฑายุคนเดียว

ooooooo

สัน ธิกับวิชัยเป็นกังวลหลังรู้ว่าโกญจนาทแอบติดต่อราเชนทระโดยใช้ลูกสาวเป็นตัว
เชื่อม แถมทีฑายุหลานชายก็ได้เป็นสามีเจ้าหญิง ทำให้ความมั่นคงของปัญจารัตน์ตก
อยู่ในกำมือโกญจนาท แต่มาณสิงห์ ที่รู้แก่ใจว่ากัญญาภัคไม่เห็นด้วยกับโกญจนาท
และมาณสิงห์เองก็ร่วมมือกับกัญญาภัคเพื่อแยกศิศิรากับทีฑายุออกจากกัน
จึงแทรกขึ้นมาว่ากัญญาภัคอาจจะมีเหตุผลที่ไปมาหาสู่ราเชนทระ

วิชัย ย้อนถามมาณสิงห์ว่า เหตุผลที่ต้องช่วยให้โกญจ–นาทกลับมาแผลงฤทธิ์อีกหรือเปล่า
มาณสิงห์ตอบเรียบๆว่า ควรจะถามความจริงให้แน่ก่อนจะปรักปรำกัน ว่าแล้วก็เดินออกไปทันที
วิชัยมองตามมาณสิงห์ก่อนหันมาเปรยกับสันธิว่า

"เพิ่งจะเห็นกับตาว่าวันนี้ ลูกชายท่านแก้ตัวให้ ้กัญญาภัค"

สัน ธิฟังแล้วเริ่มไม่สบายใจ ส่วนมาณสิงห์ผละไปที่ห้องนอนศิศิรา ตั้งใจจะมาถามกัญญา
ภัคที่อยู่ข้างในเรื่องไปนิราษิณ แต่ต้องมาเจอไมยาดินเฝ้าหน้าห้อง แล้วสองหนุ่มเกิดปะทะ
คารมกัน เพราะไมยาดินหึงหวงกัญญาภัค มาณสิงห์ แม้ใจจะอยู่กับศิศิรา แต่เมื่อถูกไมยา
ดินหยาม มาณสิงห์ก็ไม่ยอม ทำเหมือนหลงเสน่ห์กัญญาภัคเข้าอีกคน ทำให้ไมยาดินยิ่งหึงหวงรุนแรง

ที่ สุดมาณสิงห์เป็นฝ่ายผละไปอย่างเหนือกว่า อีกครู่ ทีฑายุออกจากห้องมาเจอไมยาดิน
ทีฑายุถามดักคอไมยาดินว่าโกญจนาทคงสั่งให้มาดูกัญญาภัค ทั้งที่กัญญาภัคเพิ่งโดน
ทุบตีทำร้าย โดนไล่ออกจากบ้าน

"ท่านทำร้ายกัญญาภัค" ไมยาดินทวนคำ สีหน้าตกใจ

"เพราะ แค่กัญญากล้าปกป้องผลประโยชน์ให้แผ่นดิน ทำให้โกญจนาทพลาดหวัง
ปัญจารัตน์คือแผ่นดินบริสุทธิ์ หวังว่าแกคงคิดได้ก่อนจะสายเกินไปว่าจะเสียสละเพื่อชาติ หรือเพื่อคนโลภแค่คนเดียว"

ไมยาดินฟังแล้วนิ่งงันด้วยความรู้สึกกด ดัน และสงสารกัญญาภัค...เมื่อทีฑายุไปพบ
สันธิ วิชัย และมาณสิงห์ เขาสั่งให้ ส่งทหารสกัดทุกเส้นทางที่โกญจนาทจะติดต่อกับ
นิราษิณไว้ให้หมด สันธิเปรยว่าไม่น่าเชื่อกษัตริย์ราเชนทระจะเลือกเป็นมิตรกับโกญจนาท
วิชัยจึงว่าโลกนี้ไม่มีมิตรแท้และศัตรูที่ถาวร ผลประโยชน์ต่างหากที่ถาวร

"ผล ประโยชน์ที่มีกัญญาภัคเป็นสะพาน" สันธิสรุป ทีฑายุขัดขึ้นทันทีว่า กัญญาภัคจะ
ไม่กลับไปอยู่ที่บ้านโกญจ–นาทอีก มาณสิงห์เลยได้ทีถามแขวะทีฑายุว่า แล้วเจ้าหญิงล่ะ?

"เรื่องนี้ฉันไม่ต้องพึ่งองครักษ์ให้มาจัดการแทน" ทีฑายุ ตอกหน้ามาณสิงห์ แล้วผละไปทันที

ขณะ ที่พวกทีฑายุคิดป้องกันทุกด้านทุกทางไม่ให้ โกญจนาทติดต่อราเชนทระ
โกญจนาทก็กำลังเรียกทหารคนสนิท รามปุระกับทาอูหารือ เพราะแผนเดิมที่หวังว่าจะ
ได้ที่ดินเหนือเขื่อน บัดนี้ล้มเหลวถูกกัญญาภัคมาช่วงชิงเอาไปแล้ว โกญจนาทจึงสั่ง
การให้รามปุระติดต่อไปนิราษิณอีกครั้งว่าตนขอเสนอข้อตกลงใหม่

ที ฑายุออกจากวังไปหาศิศิราที่ยังปักหลักอยู่บ้านแม่ของเขา แต่ไม่ว่าทีฑายุจะพยายามอย่างไร
ศิศิราก็ไม่ยอมพูดกับเขาแม้แต่คำเดียว ทีฑายุรู้สึกท้อแต่ไม่ถอย เอ่ยปากฝากศิศิราไว้กับแม่
เพราะตอนนี้ตนมีเรื่องยุ่งๆ และกัญญาภัคก็ย้ายเข้ามาอยู่ในวังแล้ว นารียาหนักใจเรื่อง
กัญญาภัคที่ยังเกาะติดทีฑายุ แล้วอย่างนี้เมื่อไหร่ทีฑายุกับเจ้าหญิงจะเข้าใจกันเสียที
ทีฑายุเข้าใจความรู้สึกแม่ แต่ก็ย้ำว่ากัญญาภัคไม่มีที่พึ่ง กลับไปอยู่กับโกญจนาทก็เท่า
กับส่งน้องให้โกญจนาทเอาตัวไปบำเรอความสุขของ
ราเชนทระ

"ใจคอเขาทำด้วยอะไร จะไม่ละเว้นกระทั่งคนที่เลี้ยงมากับมือ"

"ผมถึงให้กัญญากลับไปที่บ้านโกญจนาทไม่ได้"

"แต่ที่ประทับถาวรของเจ้าหญิงก็ไม่สมควรจะเป็นบ้านหลังนี้เหมือนกัน" นารียาติง
ทีฑายุนิ่งเงียบไปอย่างอึดอัดลำบากใจ

ด้าน ไมยาดินผู้รักปักใจกัญญาภัค เขาเฝ้ารอจนได้พบหน้าเธอในเช้าอีกวัน
ไมยาดินทั้งห่วงทั้งหึงออกปากห้ามกัญญาภัคไปนิราษิณอีก แล้วรวบตัวเธอมากอด
ย้ำว่าเขารักเธอ และจะไม่ยอมให้เธอเป็นของใคร

"อย่ามาทำเหมือนเรา เป็นหญิงใจง่าย เร่หาอ้อมกอดชายไม่เลือกหน้า" กัญญา
ภัคตวาดดุพร้อมกับสะบัดตัวออกอย่างแรง ไมยาดินถึงกับยืนอึ้ง หน้าสลด

ooooooooooooooooooooooooooooooooooooooooooo


มงกุฏแสงจันทร์ 07/12/52

ตอนที่ 19 (ต่อจากวานนี้)

ไม ยาดินยังตามตื๊อกัญญาภัคจะให้เธอออกจากวังไปอยู่กับเขา
กัญญาภัคย้ำด้วยความรำคาญว่าเราไม่ได้เป็นอะไรกัน ไมยาดินจึงย้อนอย่างมีอารมณ์

"แล้วเธอเป็นอะไรกับราเชนทระ ถึงต้องไปหามันถึงนิราษิณ"

"ฉันไม่ได้ไปเพราะตัณหา กามารมณ์เหมือนที่เธอคิด เหตุผลของฉันมันดีกว่าที่เธอจะนึกได้"

"แล้วที่เธอบอกให้เราทำทุกอย่างเพื่อเธอ"

"ทุกอย่างที่เราสั่ง ฟังเรานะไมยาดิน โกญจนาทยืมมือนิราษิณมาฆ่าเธอ"

"ไม่จริง"

"เรา รู้ว่าเธอเสียใจ เราก็เสียใจที่กลายเป็นเหยื่อให้พ่อเลี้ยงเอาชีวิตของเรา
ไปยกให้นิราษิณ เราไม่ต่างกันเลยนะไมยาดิน ศัตรูคนเดียวของเรา
คือศัตรูของแผ่นดิน" กัญญาภัคเสียงอ่อนลง ไมยาดินนิ่งคิด...

ส่วนในบ้านโกญจนาท ราเชนทระที่เพิ่งมาถึงกำลังหงุดหงิด หัวเสียเพราะกว่า
จะเดินทางมาถึงที่นี่ได้ต้องเจอด่านตรวจหลายแหล่งจนต้อง เปลี่ยนรถไม่รู้กี่คัน
โกญจนาทเลยโยนความผิดให้ทีฑายุทันที

"เป็นความคิดของทีฑายุที่ไม่ต้องการให้โลกภายนอกรู้ว่าปัญจารัตน์ปกครองอย่าง
ไม่ชอบธรรม พวกเขาใช้อำนาจทหารควบคุมองค์กษัตริย์ไว้"

"ปัญจารัตน์กำลังถอยหลังลงคลอง"

"เกล้ากระหม่อมถึงอยากให้พระองค์ช่วยเปลี่ยนแปลง"

"เราคิดว่าท่านจะพูดเรื่องดินแดนที่เรายกให้หนูกัญญาภัค"

"มิได้พระเจ้าค่ะ สมบัติของลูก เกล้ากระหม่อมก็ไม่คิดจะแย่งชิง แต่ที่อยาก
จะทูลคือธุรกิจของเกล้ากระหม่อมที่จะขอลงทุนกับนิราษิณ"

"ธุรกิจอะไร"

"นิราษิณต้องซื้อกระแสไฟจากปัญจารัตน์มานาน แต่ เกล้ากระหม่อมกำลัง
จะทำให้ปัญจารัตน์ต้องซื้อกระแสไฟจากเขื่อนตัวเอง"

"เท่ากับท่านกำลังจะขายชาติ ขายบ้านเมือง"

"เรียกว่าความเปลี่ยนแปลงและการพัฒนาให้ปัญจารัตน์เจริญขึ้นดีกว่า"

"เรื่อง นี้เราขอคิดอีกที แต่ตอนนี้เราอยากเจอหนูกัญญาภัค หนูกัญญาภัคอยู่ไหน
ให้คนไปตามหรือยัง" ราเชนทระหันหลังอย่างไม่สบอารมณ์ ขณะที่โกญจนาทนิ่งคิดหนักใจ

ครู่ต่อมา สินาตีถูกโกญจนาทบังคับเคี่ยวเข็ญให้ไปตามกัญญาภัคที่วังกลับมาบ้าน
สินาตีเนื้อตัวยังบอบช้ำไม่หาย กลัวจะถูกเขาทำร้ายอีกจึงลนลานไปขอร้องกัญญาภัค
ให้กลับไปพบราเชนทระ แต่กัญญภัคไม่ยอม และขอให้แม่อยู่ที่นี่ ทีฑายุ จะปกป้องเราแม่ลูก

"ไม่ ฉันเกลียดไอ้ลูกชายนังนารียา ฉันเกลียดที่ท่านโกญจนาทเคยรักนังนารียา
ฉันเกลียดไอ้ทีฑายุ" สินาตีขึ้นเสียง กัญญาภัคเหนื่อยใจ เหลือบเห็นไมยาดินยืนอยู่หน้าห้อง พอ

ไมยาดินขยับออก กัญญาภัครีบผละจากแม่วิ่งตามไปถาม

ไมยาดินว่า จะไปหาราเชนทระใช่ไหม?

"ใช่ หน้าไหนมันจะแย่งเธอไปจากฉันไม่ได้ ต่อให้ใหญ่ คับฟ้าก็ฆ่าได้"

"อยากตายหรือไง"

"ก็ดีกว่าต้องทนเห็นเธอเข้าไปหา...ทุกครั้งที่มันเอ่ยปาก"

"อด ทนไว้สิ อดทนแล้วใช้สมองให้มากกว่าอารมณ์ เธอแค่คนเดียวจะสู้กับทหาร
ทั้งกองทัพนิราษิณได้ยังไง เห็นหรือยังที่เราเคยบอกให้เธอมีกำลังของตัวเองไว้ปกป้องเรา"

"ไม่ต้องไปหาราเชนทระ" ไมยาดินสั่งเฉียบ แต่สินาตีเดินออกมาบีบน้ำตาขอร้อง
กัญญาภัคอีก ทำเอากัญญาภัค

ลังเลเพราะสงสารแม่

แต่ เวลานี้ราเชนทระรอไม่ไหวแล้ว เริ่มแสดงท่าทีหงุดหงิด บ่นหลายคำก่อนจะสรุป
เรื่องธุรกิจที่โกญจนาทเสนอมาว่าเขาคงต้องใช้เวลาคิดนาน ขึ้น แล้วอย่าลืมให้กัญญาภัค
ไปหาเขาด้วย...โกญจนาทขัดใจเป็นที่สุด แล้วตัดสินใจเข้าไปตามสองแม่ลูกถึงในวังด้วยตัวเอง
เป็นเวลาที่ทีฑายุหัวเสียกลับมาจากศิศิราที่ไม่ยอมพูดจากับเขา แต่อารมณ์ดีปักผ้า
เช็ดหน้าให้มาณสิงห์

เมื่อเผชิญหน้ากับโกญจนาทที่ มีทหารคุมตัว กัญญาภัคแสดงท่าทีหวาดกลัวโผเข้าเกาะทีฑายุเป็นที่พึ่ง
ฟ้องว่าโกญจนาทจะเอาเธอไปถวายให้เป็นของเล่นกษัตริย์ราเชนทระให้ได้

"ไม่ต้องกลัว พี่จะไม่ปล่อยให้กัญญาตกไปเป็นเครื่องมือให้ใครหน้าไหนทั้งนั้น"

สัน ธิคาดไม่ถึงว่าโกญจนาทจะกล้าเหยียบเข้ามาในวัง ทั้งที่ไม่มีสิทธิ์ถ้าไม่มีรับสั่งเรียกตัวเข้าพบ
โกญจนาทอธิบายว่าตนมาในฐานะคนเป็นหัวหน้าครอบครัว เพื่อมารับลูกสาวกับเมียที่มีคนที่นี่
กักตัวไว้ ทีฑายุสวนทันทีว่า ไม่มีการกักตัวกัญญาภัค กัญญาภัคเต็มใจจะอยู่ที่นี่ซึ่งเป็นที่ที่
ปลอดภัยและอบอุ่นกว่าบ้าน

"พี่ ชายที่แสนดี" โกญจนาทแดกดัน...กัญญาภัคยืนกรานไม่ยอมกลับบ้าน รวมทั้งแม่ของเธอด้วย
โกญจนาทไม่เชื่อว่าสินาตีคิดเช่นนั้น จะขอถามความสมัครใจของสินาตีก่อน
แต่กัญญาภัคไม่ยอมให้พบ จู่ๆสินาตีโผล่เข้ามายืนข้างโกญจนาท แล้วบังคับกัญญาภัคกลับไปกับแม่

"อย่าบังคับลูกเลย ถ้ากัญญาภัคจะอยู่ที่นี่ เพราะกำลังสนุกที่ได้เป็นตัวแทนเจ้าหญิง"

"กัญญาไม่ใช่ตัวแทนศิศิรา และจะไม่มีวันเป็น กัญญาคือน้อง"

กัญญา ภัคมองทีฑายุด้วยแววตาน้อยใจ โกญจนาทยิ้มเยาะกัญญาภัคในหน้าแล้วหัน
ไปชวนสินาตีกลับ อย่าอยู่ให้เขาอึดอัดเลย สินาตีก้าวตามโกญจนาททันที ทั้งคู่เดินไปได้ไม่กี่ก้าว
ก็เจอธราเทพที่มาพร้อมบัวบุศ โกญจนาททำนอบน้อมต่อธราเทพ และพูดเหมือนฟ้องว่า
นี่เป็นครั้งแรกที่ตนได้ออกมานอกบ้าน ครั้งแรกที่รู้สึกมีอิสรภาพจากการถูกคุมขังกักบริเวณ
ธราเทพแปลกใจ
หันมาถามทีฑายุที่ยืนด้านหลังว่า ยังไม่ตัดสินความผิดอีกหรือ

"ทหารกำลังรวบรวมหลักฐาน"

"ไม่เป็นไรพระเจ้าค่ะ กระหม่อมรอได้ เสียดายก็แต่เวลาที่จะได้รับใช้บ้านเมืองต้องมาขาดช่วงไป"

"ปัญจารัตน์ ก็ไม่ได้เสียหายอะไร แถมยังมีความสงบมากขึ้นด้วย" กัญญาภัคโพล่งขึ้นมา
สินาตีมองค้อนลูกสาว ทีฑายุไม่รอช้าให้บัวบุศพาธราเทพกลับห้องก่อน เดี๋ยวเขาจะตามไป
พอธราเทพขยับ โกญจนาทที่นั่งคุกเข่ารีบก้มลงซบแทบพื้น กัญญาภัคหมั่นไส้เหลือทน
กล่าวกระทบกระเทียบหลังจากธราเทพเดินพ้นไปแล้ว

"ลุกขึ้นเถอะ ตรงนี้ไม่มีใครให้เสแสร้งปั้นหน้าว่าจงรักภักดีแล้ว"

"อย่าพยายามหาข้ออ้างเพื่อมาที่นี่อีก" ทีฑายุสำทับ

"ถ้า แกกลัวกระทั่งฉัน ก็ไม่สมควรคิดจะเป็นผู้นำปกครองบ้านเมือง" โกญจนาทยิ้มเยาะทีฑายุ
ก่อนเดินนำสินาตีออกไป กัญญาภัคมองตามแม่ ขุ่นเคืองที่แม่ยังเข้าข้างโกญจนาทไม่เปลี่ยนแปลง

ooooooo

กลับ ถึงบ้าน สินาตีประกาศตัดหางปล่อยวัดกัญญาภัคลูกไม่รักดี เห็นผู้ชายดีกว่าแม่อย่างที่โกญจนาทว่า
โกญจนาทขอบใจสินาตีที่ไม่โกรธเรื่องเขาหงุดหงิดกัญญาภัคจนลงมือลงไม้กับเธอ

"คนจะเป็นราชินีต้องอดทนให้ได้ทุกเรื่องค่ะ ยังไงฉันก็ต้องได้เป็นราชินีเคียงข้างท่าน
ถึงจะมีอุปสรรคแค่ไหน ฉันก็จะไม่ทิ้งท่านค่ะ"

โกญจนาท ฟังแล้วเบื่อหน่ายกับเป้าหมายของเมีย...จากนั้นโกญจนาทเรียกรามปุระกับทาอู
มาพบ บอกเป้าหมายใหม่ ของตนเองที่ต้องการครอบครองตราลัญจกรเครื่องหมาย
แห่งราชวงศ์ที่อยู่กับธรา เทพ ซึ่งเครื่องหมายนี้จะประทับกำกับทุกเอกสาร
และช่วยทำให้ตนทำทุกอย่างได้ง่ายดาย

ข้างฝ่ายกัญญาภัค หลังจากทีฑายุประกาศย้ำว่าเธอเป็นน้องสาวต่อหน้าศัตรู
ของเธออย่างโกญจนาท กัญญาภัคไม่พอใจและพาลโกรธศิศิราผู้หญิงที่ทีฑายุรักหมดใจ
จึงไปอาละวาดศิศิราที่บ้านนารียา หาว่าศิศิรามารยาไม่ยอมพูด แกล้งป่วยการเมืองไว้
ออดอ้อนออเซาะทีฑายุ นารียากับญาณีมัวง่วนทำอาหารในครัวจึงไม่รู้เห็น
จนกระทั่งเห็นศิศิราร้องไห้ เข้ามาในบ้าน สองคน
ตกใจ ซักถามและปลอบใจศิศิราด้วยความสงสาร ตกกลางคืนทีฑายุมาที่บ้าน
พอรู้จากแม่ว่า

กัญญาภัค มาอาละวาดที่นี่ ทีฑายุพยายามปลุกปลอบศิศิรา แต่กลับได้รับความหมางเมิน
เย็นชาจากเธอเหมือนเช่นเคย

ที ฑายุหงุดหงิดออกจากห้อง แล้วฝากญาณีให้บอกศิศิราด้วยว่า ถึงศิศิราจะไม่พูดกับเขา
แต่เขาอยากให้เธอกลับวัง เจ้าชายธราเทพต้องการพี่สาวดูแล...หลังจากนั้นทีฑายุไปปรับทุกข์
กับจตารีด้วยเรื่องศิศิรา จตารีแนะนำให้เขาไล่กัญญาภัคออกไปก่อน เพราะไม่มีเมียคน
ไหนอยากกลับมานอนบนเตียงที่ผู้หญิงอื่นกำลังใช้อยู่

"เราจัดห้องใหม่ให้กัญญาภัคแล้ว"

"แค่ห้องใหม่ แต่เจ้าหญิงก็ต้องทนเห็นเธอกับกัญญาอยู่ในวัง"

"กัญญาเป็นน้อง"

"อะไร ก็จะอ้างแต่น้องๆๆ น่ารำคาญ ถามจริงๆเหอะ ซื่อหรือโง่ เธอน่ะคิดว่าเขาเป็นแค่น้อง
แต่น้องกำลังคิดจะให้พี่เป็นผัว...ชัดมั้ย หรือว่าต้องให้หยาบกว่านี้ถึงจะตาสว่าง"
จตารีผละไปด้วยความโมโห แล้วเช้าวันรุ่งขึ้นจตารีก็ไป

ปรากฏตัวที่บ้านนารียา พูดคุยกับศิศิราเรื่องทีฑายุ ระหว่าง

นี้ เองกัญญาภัคโผล่มาอีกคน กัญญาภัคทั้งแขวะทั้งเหน็บศิศิรา ทำให้จตารีทนไม่ไหวออก
โรงปกป้องและเถียงแทน ทั้งยังแทงใจดำเรื่องที่กัญญาภัคเสนอตัวให้ราเชนทระ
กัญญาภัคโกรธจัดตบจตารีหน้าหัน จตารีทำท่าจะเอาคืน ก็พอดีทีฑายุ เข้ามาขวางไว้

ทีฑายุไม่พอใจที่จตารีดูถูกกัญญาภัคเรื่องราเชนทระ จึงจะให้จตารีขอโทษ แต่จตารีไม่ยอม
ย้อนว่ากัญญาภัคต่างหากที่ต้องขอโทษที่ตบเธอก่อน แล้วก็ขอโทษที่เคยล่วงเกินเจ้าหญิงด้วย

"ไม่ต้องให้เขาขอโทษก็ได้ค่ะ คำขอโทษของผู้หญิงชั้นสวะ กัญญาไม่อยากฟังให้เสนียด
ระคายหู ไปเถอะค่ะ" กัญญาภัคดึงแขนทีฑายุ จตารีมองศิศิราที่ยืนนิ่ง แล้วพูดกับทีฑายุเร็วจี๋

"มารับเจ้าหญิง ก็รีบพาไปสิ"

ที ฑายุหันมองศิศิรา แต่ศิศิราเชิดหน้าไม่มองเขาเลย ทีฑายุจึงปฏิเสธไม่ได้มารับ
แค่แวะมาดูว่าเจ้าหญิงยังมีลมหายใจ ศิศิราไม่อยากทนฟังคำประชดประชันวิ่งหนีออกไปทันที

"ตามไปทำหน้าที่เพื่อนสิ เผื่อวันนึงเจ้าหญิงระลึกถึงบุญคุณนางโลมขึ้นมาบ้าง"

"พอแล้ว...กัญญา" ทีฑายุปรามเสียงขุ่น กัญญาภัคสงบคำ ดึงทีฑายุออกไป จตารีสุดเจ็บใจ
แล้วตามมาต่อว่าศิศิราอย่างไม่เข้าใจ

"เจ้าหญิงควรจะพูดอะไรบ้าง ไม่ใช่คิดจะเอาชนะด้วยความอดกลั้น หรือว่าจะยอมเป็นคนแพ้"

"เราไม่ต้องการชนะเรื่องนี้" ศิศิราเน้นย้ำ จตารีก็ย้ำเช่นกันว่าทีฑายุรักเจ้าหญิง "เราไม่เชื่อ"

"งั้น ก็เชิญเงียบ นิ่ง อดทนให้ถึงที่สุด ฉันก็อยากเห็นเหมือนกันว่าต้องดีแสนดีแค่ไหน
ถึงจะเอาชนะผู้หญิงร้ายกาจอย่างกัญญาภัค" จตารีหันหลังเดินออกไปอีกคน
ศิศิรามองตามเศร้าๆที่ไม่มีใครเข้าใจความรู้สึกที่ต้องอดทนกับทุกอย่าง

กลับ ถึงในวัง กัญญาภัคออเซาะทีฑายุ อยากให้เตือนจตารีให้รู้เสียบ้างว่าเธออยู่สูง
กว่าจตารีแค่ไหน ทีฑายุไม่ชอบใจ ชี้แจงว่าตนคบจตารีเป็นเพื่อน เพราะเราคุยกันได้ทุกเรื่องแบบไม่มีชั้นวรรณะ

"ก็เลยให้มันยืนด่ากัญญาว่าเป็นผู้หญิงอาชีพเดียวกับมัน"

"พี่ขอนะ เลิกไปที่บ้านนั้นสักที ถ้ากัญญาไม่อยากมีเรื่อง ก็ต้องอยู่แต่ในวัง"

ที ฑายุผละไป กัญญาภัคไม่พอใจ พลันก็ปั้นยิ้มเมื่อไมยาดินก้าวเข้ามาสอบถามเรื่อง
กัญญาภัคถูกจตารีด่า กัญญาภัคได้ทีกระหน่ำจตารีไม่ยั้ง ทำให้ไมยาดินเจ็บแค้นแทนถึง
กับไปตบตีจตารีจนเลือดกบปาก ทั้งสำทับด้วยว่า ถ้าเรื่องนี้ถึงหูทีฑายุ ทุกคนที่นี่
จะตายเป็นซากตอตะโกอยู่ในนี้

ooooooo

โกญจนาท สบโอกาสเหมาะเมื่อธราเทพตามตัวให้มาสอนยิงธนู โกญจนาทพยายามหว่าน
ล้อมธราเทพให้เห็นถึงความไม่ซื่อของทีฑายุที่ไม่ยอมให้ ศิศิรากลับวัง
เอาตัวไปกักขังเพราะหวังควบคุมทุกอย่างในวังนี้ด้วยตัวเองเพียงคนเดียว

"แต่เราก็ได้เจอพี่หญิง พี่หญิงไม่เห็นพูดเรื่องนี้เลย"

"เพราะทีฑายุขู่ไว้...ชีวิตแลกกับชีวิต"

ธราเทพหน้าเสีย โกญจนาทยิ่งได้ทีฉกฉวยสถานการณ์ ใส่ไฟ

"กระหม่อม รู้แผนการชั่วของทีฑายุ เขาถึงกีดกันกระหม่อมให้ห่างพระองค์
แต่ด้วยความจงรักภักดีเหนืออื่นใด ขอให้ทรงเชื่อกระหม่อมสักครั้ง
เสด็จออกจากปัญจารัตน์ กระหม่อมจะหาประเทศให้พระองค์ทรงไปศึกษาต่อ
เพื่อความปลอดภัยของพระองค์และเจ้าหญิง ส่วนเรื่องราชการทั้งหมด
ขอให้ทรงไว้ใจมอบตราลัญจกรให้กระหม่อมทำงานแทน"

ธราเทพนิ่วหน้าไม่แน่ใจ โกญจนาทคุกเข่าลงตรงหน้า บัวบุศร้อนใจเมื่อเห็นภาพนั้น
ตัดสินใจออกจากห้องเพื่อไปตาม ทีฑายุ

"กระหม่อม สัญญาว่าจะใช้เครื่องหมายแห่งพระองค์เพื่อประโยชน์ของประชาชนทั้งหมด
หากพระองค์อยากอยู่ใกล้ชิดพี่หญิงเหมือนแต่ก่อน ขอให้ทรงแต่งตั้งและมอบตรา
ประทับกับกระหม่อม ต่อหน้าทุกคนอย่างเร็วที่สุดเถิดพระเจ้าค่ะ"

โกญจนาทรุกเร่ง ขณะเดียวกันทีฑายุกับบัวบุศก็กำลังรีบมาที่ห้อง แต่ก็ช้ากว่าโกญจนาท
ที่กลับออกไปพร้อมตราลัญจกร ทีฑายุเข้ามาไม่เห็นตราประจำพระองค์ก็ใจหาย สอบถาม
ธราเทพก็ได้คำตอบว่า เราเก็บไว้ในที่ที่ปลอดภัย และเราต้องการพบพี่หญิง พาพี่หญิงมาหาเราด้วย

เวลา เดียวกันนี้มาณสิงห์อยู่ในห้องศิศิรา มาณสิงห์ตั้งใจมาไล่กัญญาภัคออกจากห้องเจ้าหญิง
แต่กลับต้องมาเจอจริตมารยากัญญาภัคจนเกือบเผลอใจ ถ้ารักเร่ไม่ผลักประตูเข้ามาเสียก่อน
รักเร่ทำตามแผนของกัญญาภัคร้องวี้ดว้ายหวาดเสียวกับภาพนัวเนียของทั้งคู่บน
เตียง มาณสิงห์หน้าเสียรู้สึกผิด กัญญาภัครีบกำชับรักเร่ห้ามพูดเรื่องนี้กับใครทั้งนั้น
แล้วไล่ ให้ออกไป ก่อนสัญญา
กับมาณสิงห์ว่า เรื่องนี้ถือเป็นความลับของเราสองคน

"ยังไงเธอก็รีบออกไปจากห้องนี้ซะ" มาณสิงห์ฮึดฮัดออกไป กัญญาภัคแสยะยิ้ม พึมพำตามหลัง

"อย่ามาไล่ให้ยากเลย มาณสิงห์ ยังไงฉันก็ถือไพ่เหนือกว่า"

แต่ พอตกเย็น กัญญาภัคก็ถูกทีฑายุบอกให้เตรียมเก็บของออกจากห้องศิศิรา
ไปอยู่ห้องใหม่ที่ จัดไว้ให้แล้ว กัญญาภัคไม่พอใจที่ทีฑายุทั้งหวงและห่วงแม้แต่ห้องศิศิรา
แต่ก็ไม่กล้าโวยวายใดๆ ส่วนมาณสิงห์เมื่อกลับไปที่บ้านนารียา เขาถูกญาณีคาดคั้น
จนรู้ว่ากัญญาภัคยังอยู่ห้องเจ้าหญิง ญาณีตำหนิมาณสิงห์ไปหลายคำ
ก่อนพูดรู้ทันมาณสิงห์มีส่วนได้ ส่วนเสียกับเรื่องนี้ ยิ่งเจ้า
หญิงห่างทีฑายุมากเท่าไหร่ โอกาสของมาณสิงห์ก็มีมากขึ้น

"โอกาสของเราไม่จำเป็นต้องรอให้เจ้าหญิงมาอยู่ที่บ้านทีฑายุ"

"ขอ โทษที่ฉันมองผิด ก็เห็นเธอเอาแต่ทำหน้าระทมขมใจ ไม่สมหวังในรักซะเหลือเกิน
ยังไงก็ช่วยทำให้เจ้าหญิงได้กลับไปสู่ฐานะที่แท้จริงในวังหน่อย ไม่ใช่ให้ครอบครัว
โกญจนาทเป็นเงาปีศาจคอยหลอกหลอนเจ้าหญิงอยู่อย่างนี้" ญาณีประชดเสร็จก็เดิน
เข้าบ้านไปหาศิศิรา ทิ้งมาณสิงห์ยืนอึ้ง อึดอัดใจ

ooooooo

รามปุระกับทาอูได้เห็นตราลัญจกรเต็มๆตาเมื่อโกญจนาทนำมาโชว์ และยิ้มย่องหัวเราะก้องอย่างมีความสุข

"ตรา ลัญจกรคือที่สุดของอำนาจ และมันก็ตกมาอยู่ในเงื้อมมือของฉัน มดปลวกที่คิด
จำกัดพญาราชสีห์อย่างฉัน มันต้องไม่เหลือกระทั่งซากชีวิต"

"แม้กษัตริย์ธราเทพก็ยังไม่กล้ามีปากมีเสียง"

"เท่ากับว่าปัญจารัตน์คือแผ่นดินของท่านโกญจนาทแต่เพียงผู้เดียว"

โกญจนาท หัวเราะชอบใจกับคำยกยอของสองลูกน้อง พอไมยาดินเยี่ยมหน้าเข้ามา
โกญจนาทรีบดักคอไมยาดินจะมาสอดแนมแล้วไปบอกกัญญาภัค ไมยาดินจึงยื่นมีดให้
โกญจนาท ถ้าคิดว่าตนเป็นนกสองหัวก็ฆ่าตนเสียเดี๋ยวนี้เลย โกญจนาทกลับปั้นยิ้ม
บอกว่าตนจะฆ่าทาสผู้ซื่อสัตย์ได้ยังไง

จากนั้น ไม่นาน กัญญาภัคเกิดร้อนใจหลังฟังไมยาดินรายงานเรื่องตราลัญจกร
เธอคิดอย่างเดียวว่าต้องแย่งมาจากโกญจนาทให้ได้ ก่อนบ้านเมืองจะพังพินาศเพราะ
ไอ้คนกาลีบ้านกาลีเมือง แต่ไมยาดินเตือนว่าทำอย่างนั้นเท่ากับเดินไปหาความตาย
ทีฑายุเองพอรู้ก็อดเตือนกัญญาภัคไม่ได้ว่ามันเสี่ยงมาก ถ้าตราลัญจกรที่โกญจนาท
มีเป็นของปลอม...กัญญาภัคฟังแล้วชะงักกึก

"บางทีตราลัญจกรของจริงอาจจะยังอยู่ที่องค์ธราเทพ พี่จะไปดูที่ห้องเจ้าชาย"

"ระวังตัวด้วยนะคะ"

"กัญญาเองก็ต้องระวังเหมือนกัน บ้านโกญจนาททุกตารางนิ้วไม่ปลอดภัยสำหรับน้องอีกต่อไปแล้ว"

"กัญญาโตมาที่นั่น ทุกตารางนิ้วไม่เคยรอดหูรอดตากัญญาต่างหากค่ะ"

เมื่อ สองคนแยกกันไปหาตราลัญจกร กัญญาภัคแอบเข้าบ้านโกญจนาทค้นหาในห้องทำงาน
ไม่พบ ขณะที่ทีฑายุก็ได้รับความร่วมมือจากบัวบุศเข้าห้องธราเทพ และเจอตรานี้
ถูกเก็บในตู้ ทีฑายุจึงนำออกมาแล้วรีบออกจากห้องอย่างรวดเร็ว

เช้า วันใหม่ โกญจนาทเข้าวังพร้อมตราลัญจกรเพื่อแสดงอำนาจเหนือใครทั้งปวง
ธราเทพเองก็ยอมโกญจนาททุกอย่างหลังถูกเป่าหูมาดิบดี ธราเทพบอกทุกคนว่าตน
จะไปเรียนต่อต่างประเทศ ตนปรึกษาโกญจนาทแล้ว วิชัยกับสันธิคัดค้าน
อยากให้ธราเทพปรึกษาเจ้าหญิงก่อน ที่สำคัญโกญจนาทเป็นกบฏจะมอบหมายราชการแทนได้อย่างไร

โกญจนาทไม่สน อ้างตราลัญจกรที่ได้รับจากธราเทพด้วยความเต็มใจ
พอธราเทพจะประกาศแต่งตั้งโกญจนาททำงานทุกอย่างแทน ทีฑายุกับกัญญาภัคก็เข้ามา
พร้อมตราลัญจกร อีกอัน กัญญาภัคกล่าวหาโกญจนาทบังอาจทำตราราชวงศ์ปลอม โกญจนาทจึงขอความเป็นธรรมจากธราเทพ

"ทีฑายุ ท่านได้ตรามาจากไหน ห้องเราใช่ไหม" ธราเทพถาม

"ขออภัย ที่กระหม่อมทำการไม่สมควร แต่ทั้งหมดเพื่อยับยั้งโกญจนาท"

"เป็นเหมือนที่กระหม่อมคาดการณ์ไว้มั้ยพระเจ้าค่ะ" โกญจนาทเอ่ยยิ้มๆ
ทีฑายุกับกัญญาภัคเริ่มเอะใจ

"ท่านโกญจนาทบอกว่า ทีฑายุจะต้องเข้ามาขโมยในห้องเรา เราถึงได้มอบตรา
ลัญจกรของจริงให้ท่านโกญจนาทไปดูแลรักษาไว้"

"กล้าขโมยของถึงในห้องบรรทม จงใจโยนความผิดให้กระหม่อมทุกวิถีทาง
แล้วยังกีดกันเจ้าหญิงไม่ให้พบเจ้าชาย"

กัญญา ภัคกับทีฑายุเจ็บใจที่ตกหลุมพรางโกญจนาท ส่วนธราเทพก็ยิ่งไว้เนื้อเชื่อใจ
โกญจนาท ประกาศมอบหมายอำนาจต่างๆให้โกญจนาทอย่างเป็นทางการ โดยที่ใครก็ไม่กล้าขัด
แล้วสั่งทีฑายุ ถ้าบริสุทธิ์ใจก็รีบไปพาพี่หญิงกลับมา

ทันทีที่ธรา เทพเดินพ้นท้องพระโรง โกญจนาทก็เย้ยหยัน ทีฑายุกับกัญญาภัคว่า
ปัญญาของแกสองคนรวมกัน ยังไม่เท่าปลายเล็บของฉัน...ว่าแล้วหยิบตราลัญจกรจากพานในมือ

รามปุระก้าวขึ้นไปยืนหน้าบัลลังก์ วิชัยชักปืนออกมาเล็ง โกญจนาทยิ้มไม่สะทกสะท้าน

"จะฆ่าองค์กษัตริย์เชียวหรือ วิชัย"

สัน ธิมองตราลัญจกรแล้วจำต้องกดมือวิชัยลง ทันใดนั้น โกญจนาทก็สั่งให้ทหารจับทีฑายุ
และกัญญาภัค วิชัยไม่ยอม ร้องท้าถ้าใครจับทีฑายุ ต้องข้ามศพเขาไปก่อน

"กษัตริย์ต้องมีทศพิธ ราชธรรมใช่มั้ย ถือว่าเป็นความปรานีสูงสุดจากฉัน เอาทีฑายุ
กัญญาภัคไปขัง ข้อหาวางแผนล้มล้างอำนาจสูงสุดแห่งแผ่นดินนี้ ซึ่งก็คือเรา...โกญจนาท"

oooooooooooooooooooooooooooooooooooooooooooooooooo


มงกุฏแสงจันทร์ 08/12/52

ตอนที่ 19 (ต่อจากวานนี้)

ทหารกรูเข้ามาล็อกกัญญาภัคและทีฑายุ วิชัยจะเข้าช่วย ไมยาดินรีบชักปืน
จ่อหลังวิชัยให้กลับไปยืนรวมกับสันธิ แล้วทหารก็พากัญญาภัคและทีฑายุไปขังคุก
โดยมีรามปุระกับไมยาดินตามประกบ ไมยาดินทำขึงขังสั่งทหาร

"ใครปล่อยสองคนนี้หลุดออกไปได้ โทษตายสถานเดียว" พูดจบไมยาดินก็ชำเลือง
มองกัญญาภัคแวบหนึ่งก่อนกลับออกไป ขณะที่รามปุระยังยืนยิ้มเยาะทีฑายุและกัญญาภัคที่ถูกแยกขัง

"ไม่มีใครคิดจะล้มท่านโกญจนาทได้ด้วยสองมือเปล่า หรือต่อให้เอามาทั้งกองทัพก็เห็นแล้วว่ายังไงก็แพ้"

"คนเลวจะชนะได้ไม่นาน" กัญญาภัคคำราม

"นั่น น่ะสิ ยังไงก็อย่าเพิ่งรีบตายไปซะก่อน ทั้งลูกทั้งหลานเนรคุณ
ท่านคงอยากเก็บไว้ทรมานให้สะใจก่อนส่งไปลงนรก" ว่าแล้วรามปุระเดินด้วยมาดกวนๆออกไป
กัญญาภัคกับทีฑายุมองตามอย่างเจ็บใจ

ส่วน ทาอูฉวยโอกาสที่ธราเทพเหม็นหน้าบัวบุศที่ชอบเข้าข้างทีฑายุมากกว่าโกญจนาท
พารุกขมณีพี่เลี้ยงคนใหม่มาดูแลธราเทพแทนบัวบุศ แล้วจ้างรุกขมณีด้วยทองหยองให้
เอานมและขนมผสมยาอันตรายชนิดหนึ่งให้ธราเทพ กินจนหมด เพื่อธราเทพจะได้
กลายเป็นเจ้าชายนิทรา แล้วทุกสิ่งทุกอย่างก็จะตกอยู่ในกำมือโกญจนาททั้งหมด

เมื่อแผน ทุกอย่างสำเร็จ รุ่งขึ้นโกญจนาทไปปรากฏตัวที่บ้านนารียา ทำท่าจ
ะบอกข่าวดีเรื่องของตนเองให้ศิศิรารับรู้ แต่นารียากับญาณีชิงด่าโกญจนาทเสียก่อน
โกญจนาทไม่พอใจ ย้ำเตือนนารียาอย่าลืมว่าพ่อศิศิราเป็นคนสั่งฆ่าสามีของเธอ

"ฉันไม่เชื่อ บางทีฆาตกรใจชั่วมันอาจจะยืนอยู่ตรงหน้าฉันก็ได้"

โกญจนาทเงื้อมือด้วยความโกรธ แต่แล้วลดมือทำไม่ลง เมื่อนารียาเชิดหน้าสบสายตา

"เรามาเพื่อจะบอกเจ้าหญิงและข้าทาสบริวารทั้งหลาย ว่าตอนนี้ทุกชีวิตในปัญจารัตน์อยู่ในอุ้งมือของเรา"

ศิศิราใจหายวาบนึกถึงน้องชาย ถามคาดคั้นโกญจนาทว่าทำอะไรธราเทพ

"องค์ธราเทพยังปลอดภัยดี ไม่ถึงกับตาย แต่ก็มีลมหายใจรวยรินเต็มที หลังจากที่
ได้มอบตราลัญจกรให้เราดูแลไพร่ฟ้าประชาชน"

"เลวที่สุด คนชั่วไม่มีวันที่จะได้ใหญ่คับฟ้า ทีฑายุต้องไม่ยอมให้เกิดเรื่องแบบนี้ขึ้น"

"ที ฑายุน่ะเหรอ ต่อให้เอาชีวิตเข้าแลก มันก็ปกป้องเจ้าหญิงไม่ได้อีกแล้ว ที่มันจะทำ
ได้ดีที่สุดตอนนี้ก็คือผลัดกันปลอบอกปลอบใจน้องสาวที่มอบกายถวาย ชีวิตให้
แต่ไม่ต้องห่วง เรากำลังพาเจ้าหญิงไปเยี่ยมสองคนนั่นในคุก"

พอ โกญจนาทและทหารคุมตัวศิศิรากับญาณีเข้ามาถึงในวัง ปรากฏว่ากำลังเกิดเหตุชุลมุนวุ่นวาย
เมื่อประสันต์ ดรัณย์ และมาลข่านร่วมมือกับวิชัยช่วยทีฑายุและกัญญาภัค ออกจากคุก
อีกทั้งไมยาดินก็รู้เห็นเป็นใจด้วยความรักที่มีต่อกัญญาภัค

โกญจนาท ต่อสู้กับไมยาดินจนหลบหนีไปได้ แต่ก็เจอทีฑายุกับกัญญาภัคสกัดไว้อีก
โกญจนาทจวนตัวจึงลำเลิกบุญคุณที่ชุบเลี้ยงทั้งคู่มากว่ายี่สิบปี กัญญาภัคไม่สน
ใจจะลั่นไกใส่โกญจนาท แต่ทีฑายุต้องการจับเป็น จึงปัดปืนกัญญาภัคหล่นลงพื้น
โกญจนาทฉวยโอกาสนี้ยิงใส่ทีฑายุ กัญญาภัคตกใจ เข้าประคองทีฑายุที่ถูกยิงเฉียดสีข้าง

"ฉันจะกลับมาลากแกทั้งคู่ไปลง นรกพร้อมๆกัน" โกญจนาทประกาศแล้ววิ่งหลบออก
ไปอย่างรวดเร็ว กัญญาภัคจะตาม แต่ห่วงทีฑายุมากกว่า เมื่อมาณสิงห์รู้ว่าโกญจนาท
หนีไปได้ จึงสั่งทหารออกตามล่าลากตัวกลับมาให้ได้

แต่ทั้งทหารและไมยาดินก็ คว้าน้ำเหลว แถมไมยาดินยังถูกโกญจนาทยิงขาบาดเจ็บ
ก่อนหนีลอยนวลขึ้นเรือเร็วออกไปทางนิราษิณ สินาตีรู้ข่าวโกญจนาทกำลังโดนตามล่า
พอเจอหน้ากัญญาภัคจึงต่อว่าและตบหน้า ก่อนจะอธิบายเหตุผลว่าทำไมเธอถึงรักโกญจนาท

"ฉันรักท่าน เพราะฉันรักตัวเองมากกว่า คิดดูสิ ไม่มีท่าน ความฝันของฉันพังทลายลงตรงหน้า
ส่วนแก...ศิศิรามันกลับมาแล้ว เจ้าหญิงคั่นเวลาอย่างแกก็ต้องกระเด็นออกไป
แกช่วยทีฑายุขับไล่ท่านจนสำเร็จ แล้วทีนี้ชีวิตแกกับฉันจะเป็นยังไง สุดท้ายเราต้องถูกลอยแพ..
.กัญญาภัค แกรู้ตัวหรือยัง ว่าแกกำลังจะเป็นหมาหัวเน่า"

"ไม่มีทาง ที่นี่คือที่ของเจ้าหญิงกัญญาภัค"

"ทีฑายุมันยอมรับแกมากกว่าน้องหรือยัง"

กัญญาภัคนิ่งไป รู้อยู่แก่ใจว่าทีฑายุทั้งรักและห่วงศิศิรา สินาตีเห็นท่าทางลูกก็จับไหล่เขย่ารุกเร่งเอาตัวรอด

"งั้นแกก็ต้องดิ้นเฮือกสุดท้ายเพื่อฉัน ฉันไม่อยากต้องหนีตายหัวซุกหัวซุน แกต้องทำให้เราได้อยู่ที่นี่ต่อไป"

เย็น นั้นกัญญาภัคกับสินาตีจึงวางแผนเรียกร้องความสงสารจากทีฑายุ โดยหลอกให้ญาณี
หอบผ้าผ่อนกัญญาภัค ออกจากห้องศิศิรา แล้วโกหกทีฑายุว่าศิศิราเป็นคนสั่งขับไล่
ทำให้ทีฑายุกับศิศิรามีปากเสียงประชดประชันกันใหญ่ เพราะต่างคนต่างก็มีเรื่องราวหึงหวง
อยู่แล้ว เมื่อทีฑายุปกป้องกัญญาภัค ศิศิราก็ออกรับแทนมาณสิงห์เหมือนกัน คนรอบข้าง
ไม่ว่าจะเพื่อนๆทีฑายุหรือญาณี เห็นแล้วได้แต่พากันหนักใจ

จตา รีก็เบื่อหน่ายเมื่อรู้จากทีฑายุว่าเกิดปัญหาเดิมๆขึ้นอีกแล้ว จตารีคับข้องใจ ทำไม
น้องสาวคนเดียว ทีฑายุถึงปล่อยให้คอยสร้างปัญหาไม่จบไม่สิ้น

"จะให้เราเอาใจศิศิราด้วยการไล่น้อง ไม่เลือดเย็นไปหน่อยเหรอ"

"แสดงว่าจะยอมแตกหักกับเจ้าหญิง

"บางทีอาจจะเป็นทางออกที่ดีก็ได้ เพราะมาณสิงห์ก็รอปลอบใจเจ้าหญิงอยู่"

"เธอ ยอมเฉือนหัวใจตัวเองได้จริงอย่างที่พูดหรือเปล่า" ทีฑายุหันหน้าหนีไม่ตอบ
จตารีเข้าใจทันที "จะเป็นผู้ชายปากแข็งต่อไปก็ได้ แต่ฉันจะบอกให้ว่าความอดทน
ของผู้หญิงน่ะมีขีดจำกัด ถ้าฉันเป็นเจ้าหญิง ไม่ต้องรอเธอมาจัดการเลย
กัญญาภัคน่ะกระเด็นพ้นวังไปตั้งนานแล้ว"

ที ฑายุฟังแล้วยิ่งหงุดหงิด ส่ายหัวเดินจากไป จตารีมองค้อนหมั่นไส้เต็มที
ด้านกัญญาภัคเกิดความแค้นแน่นอกขึ้นมาอีก เมื่อรู้จากรักเร่ว่าทีฑายุไปหาจตารี
จนต้องยืมมือไมยาดินไปจัดการจตารีอีกครั้ง ซึ่งครั้งนี้ไมยาดินถึงกับเผาหอคณิกาว
อดวาย ทำให้จตารีเกือบตายและไร้ที่อยู่

ทีฑายุรู้เรื่องจากจตารีจึงต่อว่า กัญญาภัค แต่กัญญาภัคกลับจะโยนความผิดให้ศิศิรา
อ้างว่าศิศิราก็เสียของรัก อาจจะสั่งลงมือก็ได้ จตารีไม่เชื่อ ซ้ำยังด่ากัญญาภัคโกหกตา
ใส ศิศิราที่ยืนฟังอยู่นานไม่อาจทนต่อไปได้จะขอตัว เพราะไม่อยากเป็นพยานความ
มักมากของใคร ทีฑายุรู้ดีว่าถูกด่ากระทบ แต่เวลานี้ไม่มีแก่ใจตอบโต้ ได้แต่ขอ
อนุญาตศิศิราให้จตารีอยู่ที่นี่ เพราะเธอยังไม่มีที่ไป

ศิศิรายังไม่ทันจะว่ากระไร กัญญาภัคก็คัดค้านหัวชนฝา อ้างหวังดีกับวังนี้ ไม่อยากให้
รอยด่างของจตารีมาเลอะเทอะพื้นวัง

"แต่ เราอนุญาตให้จตารีอยู่ ในเมื่อเราไม่สามารถห้ามความมักมากของชายอย่างทีฑายุได้
ทางเดียวก็คือปล่อยให้เขาระเริงในกิเลสตัณหาจนถึงที่สุด" พูดจบศิศิราปรายตามองทุกคน
แล้วหันหลังเดินออกไปอย่างไม่แคร์ แต่กัญญาภัคยังไม่ยอมให้จตารีเสนอหน้าในวัง
บอกทีฑายุว่าจะให้จตารีไปอยู่ห้องคนใช้ที่บ้านของเธอ

"คงจะไม่ได้ เพราะเจ้าหญิงศิศิราเจ้าของวังอนุญาตให้ฉันอยู่ เจ้าหญิงจอมปลอม
อย่างเธอก็อย่ามาเสนอหน้าไล่ฉัน" จตารีลอยหน้ายั่ว กัญญาภัคโกรธจะกรี๊ด ทีฑายุหันมาจ้องทันที

"พี่เคยขอแล้วว่าจตารีต้องไม่ใช่เหยื่อความโกรธของใคร"

"กัญญาไม่รู้เรื่อง"

"อย่า โทษคุณกัญญาเธอเลย ต้องขอบคุณซะด้วยซ้ำที่ทำให้หญิงมีราคีได้ดีดตัวเอง
เข้ามาเดินเชิดหน้าถึงใน วัง ขอบพระทัยนะเพคะเจ้าหญิงกัญญาภัค" จตารีแกล้งย่อตัวลอยหน้ายั่ว
กัญญาภัคกำมือแน่น แค้นแทบคลั่ง

จากนั้นไม่นาน กัญญาภัคส่งรักเร่มาแก้แค้นจตารี แต่กลายเป็นว่ารักเร่ถูกยำเละเทะด้วยน้ำมือ
จตารี และญาณีกับส้มเสี้ยวที่หมั่นไส้รักเร่มานานแล้ว ฝ่ายสินาตีก็เดือดดาลแทนลูกสาว
ถึงกับมาต่อว่าดุด่าศิศิรา และอาจจะลงมือกับศิศิราถ้าจตารีไม่เข้ามาขวางเอาไว้

กัญญาภัคสุดเจ็บ ใจ เมื่อเห็นทั้งแม่และสาวใช้ของตนกระเจิงกลับมา...สินาตีกับรักเร่มั่นใจว่าศิ ศิรา
แผนสูงคิดเอาจตารีมาเป็นพวกถล่มเรา เพื่อจะเขี่ยเราออกไปจากที่นี่ให้ได้

"ไม่มีวัน กัญญาไม่ได้อยู่ที่นี่แค่เพราะเป็นน้องพี่ทีฑายุ กัญญาต่างหากที่เหมาะสมกับ
ตำแหน่งราชินีเคียงคู่ ผู้ชายมีความสามารถ...ศิศิราต้องสำนึกว่าคนที่แก้ปัญหาให้

พี่ทีฑายุได้คือกัญญาเท่านั้น" กัญญาภัคประกาศแน่วแน่

แววตาเปล่งประกายความถือดี

ooooooo

ตอนที่ 20

ที ฑายุหนักใจอย่างยิ่งเมื่อแน่ใจว่าโกญจนาทหนีไปนิราษิณ ด้วยเกรงว่าโกญจนาท
จะอาศัยตราลัญจกร แก้กฎหมายทำการค้ากับนิราษิณเอาประโยชน์เข้าตัวเอง
มาณสิงห์จึงแนะนำให้ยกเลิกกฎหมาย แล้วประกาศออกไปเลยว่าโกญจนาทเป็นกบฏ
ทีฑายุมั่นใจ ทำอย่างนั้นต้องเจอกับการต่อต้านจากคนที่โดนล้างสมอง
จากคนที่เชื่อว่าโกญจนาทบริสุทธิ์

"เราต้องเปิดหลักฐานความชั่วชาติ ของมัน องค์กษัตริย์ไง ที่กำลังกลายเป็นเจ้าชายนิทรา
ก็ต้องเป็นมันนี่แหละทำ" กัญญาภัคโพล่งขึ้นมา ประสันต์ติงทันทีว่า ข่าวแบบนี้มีแต่จะทำ
ให้ไอ้โกญจนาทหัวเราะ มาณสิงห์เลยย้อนถามอย่างหงุดหงิดว่า

"หรือจะรอให้โกญจนาทรวบรวมกำลังได้ แล้วกลับมาพร้อมแผนถล่มที่นี่อีกครั้ง"

"ทุกคนก็กำลังหาทางสกัดโกญจนาทอยู่" ทีฑายุสวนขึ้นมา

"หน ทางที่จะจัดการโกญจนาทให้สิ้นซากได้มีแค่วิธีตาต่อตา ฟันต่อฟัน" กัญญาภัคน้ำเสียง
เชื่อมั่น แล้วจากนั้นกัญญาภัคก็เรียกไมยาดินมาพบเป็นการส่วนตัว
สั่งไมยาดินไปลากตัวโกญจนาทกลับมาให้ได้

"เพราะเธออยากให้ทีฑายุเห็นว่าเธอเหนือกว่าเจ้าหญิง" ไมยาดินดักคอ

"มัน ก็เป็นเรื่องดีกับเราไม่ใช่เหรอ โดยเฉพาะเธอที่ยังมีข้อหาเป็นพวกโกญจนาทเป็น
ชนักปักหลังอยู่ ถ้ายังอยากใช้ชีวิตนอกคุก ก็รีบหาทางลากตัวไอ้กบฏชั่วนั่นกลับมาให้เราที่นี่"

ขณะเดียวกันนั้น โกญจนาทซึ่งรู้ตัวดีว่าพวกทีฑายุต้องคิดตามล่าตนเองอยู่ ก็พยายาม
ดิ้นสุดฤทธิ์ เขาปลุกปั่นราเชนทระอย่าปล่อยให้เด็กเมื่อวานซืนอย่างทีฑายุกับกัญญาภัคกุม
อำนาจเหนือปัญจารัตน์ เพราะผลประโยชน์ที่ราเชนทระควรจะได้อาจจะหลุดมือไป

"แต่ท่านก็เพิ่งจะถูกขับออกมาจากบ้านเมืองตัวเอง" สันชัยทหารคนสนิทของราเชนทระขัดขึ้น

"เพราะ ทีฑายุกำลังรวมหัวกับพวกอำนาจเก่าขัดขวางธุรกิจการลงทุนของเรา
ถ้าไม่มีทีฑายุ ตอนนี้ท่านก็คงได้เขื่อนปัญจารัตน์เพื่อผลิตกระแสไฟฟ้า"

"กล้ายกให้เราเชียวเหรอ โกญจนาท" ราเชนทระถามหยั่งเชิง

"เพราะ เกล้ากระหม่อมรู้ว่า สิ่งที่ดีที่สุดควรจะอยู่ในมือผู้ใด ทีฑายุอาจจะเป็นภัยคุกคาม
ในวันข้างหน้า เพราะความดื้อรั้นไม่ฟังใครเหมือนที่เคยบุกเข้านิราษิณมาแล้ว
ไม่มีใครจะรู้จักทีฑายุเท่าเกล้ากระหม่อมที่ฟูมฟักเขามาตั้งแต่เล็กแต่น้อย
ขอให้ทรงเชื่อสายตาของเกล้ากระหม่อมเถิดพระเจ้าค่ะ ว่าไม่มีทีฑายุเสีย คนนิราษิณจะปลอดภัย"

ราเชนทระนิ่งไป มองสบตาสันชัยอย่างชั่งใจ...

ทางด้านไมยาดินหลังรับคำสั่งจากกัญญาภัคเมื่อ

ตอน เย็น ตกค่ำเขาก็รีบเช่าเรือเร็วมุ่งสู่นิราษิณทันที ส่วนทีฑายุ และเพื่อนฝูง
รวมทั้งมาณสิงห์ก็กำลังคิดอ่านจะเอาตัวโกญจนาทกลับมาได้อย่างไร จะขอเปิด
เจรจากับราเชนทระส่งตัวกบฏ กลับมาก็ท่าจะยาก อาจเกิดผิดใจกันจนกลายเป็นสงคราม

ราเชนทระเองก็แผนสูง เตรียมสั่งสันชัย ถ้าทีฑายุส่งทูตมาเจรจา ให้บอกไปว่าตนจะ
แลกเปลี่ยนตัวโกญจนาทกับกัญญาภัคเท่านั้น

"ทีฑายุคงไม่ยอมให้น้องสาวมาที่นี่ โกญจนาทอาจจะเป็นชนวนสงครามนะพระเจ้าค่ะ"

"นั่นแหละที่เราต้องการ ไสหัวมันกลับไปสร้างความพินาศ ทีนี้พอปัญจารัตน์ระส่ำระสาย
ก็ง่ายที่นิราษิณจะบุกยึด"

"แล้วจุดจบของคนขายชาติอย่างโกญจนาทล่ะพระเจ้าค่ะ"

"คน ที่ทรยศได้แม้กับแผ่นดินเกิด ก็สมควรจะตายอย่างหาแผ่นดินฝังไม่ได้" ราเชนทระยิ้มเจ้าเล่ห์
สันชัยพอใจกับความฉลาดปราดเปรื่องของผู้เป็นนาย

ooooooo

ศิ ศิราดักพบทีฑายุแล้วเสนอตัวจะไปเจรจาเอาตัวกบฏโกญจนาทจากราเชนทระมาให้เอง
โดยอ้างความเป็นเจ้าหญิงแห่งปัญจารัตน์ เธอควรจะได้ทำหน้าที่นี้ แต่ทีฑายุไม่ยอมให้ศิศิรา
ออกไปเสี่ยง ศิศิรา จึงเอ่ยชื่อมาณสิงห์ ให้ตามอารักขาเธอก็ได้ ทีฑายุได้ยินชื่อนี้ก็ขุ่นมัวทันที
หาว่าศิศิราจะไปเพราะแค่อยากออกนอกวังกับมาณสิงห์ ศิศิราโกรธจี๊ด ย้อนว่าความคิด
ของเธอไม่เคยลงที่ต่ำเหมือนทีฑายุ

"น้ำ...มันก็ไหลตกจากที่สูง มีเหรอที่ความรู้สึกมันจะเก็บกั้นไว้ได้ ในเมื่อแอบใกล้ชิด
ปลอบอกปลอบใจกันทุกวัน ทุกคืน ตอนไม่มีใครเห็น"

ศิ ศิราสุดทนกับวาจาดูถูก ฟาดหน้าทีฑายุเต็มแรง ทีฑายุเลยกระชากศิศิรามากอดจูบ
มาณสิงห์กับกัญญาภัคยืนมองมาจากคนละทาง ต่างตะลึงไม่กล้าเข้ามา..
.ศิศิราดิ้นขัดขืนแล้วตบหน้าทีฑายุซ้ำอีกที

"อย่าคิดว่าผู้หญิงทุกคนต้องยอมให้ผู้ชายหลายรักอย่างเธอ"

"เรา มีรักเดียว รักเดียวจากหัวใจ" น้ำเสียงทีฑายุหนักแน่น กัญญาภัคจ้องไปที่ศิศิรา
อย่างเกลียดชัง แล้วหันหลังเดินจากมาเพราะทนฟังทนดูต่อไปไม่ไหว เช่นเดียว
กับมาณสิงห์ ที่เจ็บลึก รีบเดินออกไปอีกทาง จึงไม่ได้ยินคำพูดไร้เยื่อใยของศิศิรา

"เก็บ ไว้หลอกน้องสาวหรือเพื่อนผู้หญิงคนสนิทของเธอเถอะ เราเคยบอกแล้วว่า
เราจะไม่เชื่อผู้ชายชื่อทีฑายุ" พูดขาดคำศิศิราก็วิ่งจากไป ทีฑายุได้แต่มองตาม
สายตาเจ็บปวดที่ถูกปฏิเสธ

เมื่อคนอกหักมาเจอกันด้วยใบหน้าเคร่งเครียด มาณสิงห์ เป็นฝ่ายระเบิดอารมณ์ใส่กัญญาภัคขึ้นก่อน

"พี่ชายเธอมันเกิดมาเพื่อทำให้เจ้าหญิงร้องไห้"

"แล้วเธอจะมายืนอยู่ตรงนี้ทำไม ถ้าพี่ทีฑายุคือชายชั่ว เธอก็ต้องเป็นสุภาพบุรุษที่คอยซับน้ำตา"

"แต่ในใจเจ้าหญิง คิดถึงชื่อเดียว...คือไอ้ทีฑายุ"

กัญญาภัคเปลี่ยนท่าทีเดินมาแตะมือลงบนไหล่มาณสิงห์ แผ่วเบาเหมือนคนที่เข้าอกเข้าใจเป็นอย่างดี

"เพราะ พี่ทีฑายุเขาใช้การกระทำควบคุมหัวใจอ่อนไหวของเจ้าหญิง ทำไมไม่ลอง
ใช้วิธีดิบๆกับเจ้าหญิงดูบ้าง เผื่อบางทีปัญหาคาราคาซังจะได้ลงเอยกันสักที ไปซี
ช้านักความรักอาจจะหลุดลอยไปตลอดกาล"

มาณสิงห์ถูกกระตุ้น นิ่งคิดแล้วเดินเร็วออกไป กัญญาภัค มองตามยิ้มๆ หวังให้มาณสิงห์ชนะใจ
ศิศิราให้ได้...มาณสิงห์ ตามไปปลอบศิศิราที่นั่งร่ำไห้เพียงลำพัง แล้วขอโอกาสให้เขาบ้าง
ถ้าศิศิราไม่ได้รักทีฑายุ เพราะในใจของเขามีศิศิราเพียงคนเดียว

"เราขอบใจความห่วงใยของเธอ" ศิศิราเอ่ยเรียบๆ

"ทรง ไม่รักทีฑายุใช่มั้ย ในใจเจ้าหญิงไม่รักไม่มีเยื่อใย กับทีฑายุเลย ให้โอกาสกระหม่อมไ
ด้รับเกียรตินั้นเถิด เกียรติของผู้ชายที่เจ้าหญิงรัก บอกกระหม่อมเถอะว่าจะลืมทีฑายุ
เจ้าหญิงไม่ได้รักทีฑายุเลย บอกกระหม่อมสิเจ้าหญิง บอกให้กระหม่อมชื่นใจเพียงนิด"

"เราโกหกเธอ ไม่ได้..." ศิศิราตัดใจพูดออกมา มาณสิงห์ หน้าเสีย "ถึงจะมีหลายอย่างที่
เราไม่พอใจทีฑายุ ถึงจะถูกทำร้ายมากี่ครั้ง แต่ทีฑายุเหมือนดวงตะวันที่สาดแสงขับไล่
ความหนาวเย็นที่มาจากอำนาจมืดของโกญจนาท ถึงทีฑายุจะทำให้เราเสียใจแค่ไหน
แต่เราก็เลิกรักทีฑายุไม่ได้"

มาณสิงห์ปวดร้าว จับมือศิศิราทุบลงที่อกของเขาอย่างแรง ศิศิราตกใจพยายามดึงมือออก
แต่มาณสิงห์ไม่ยอม รำพันน้อยเนื้อต่ำใจ และคว้ามือศิศิราตบหน้าตนเองไม่ยั้ง
จะให้ศิศิราพูดออกมาว่าไม่ได้รักทีฑายุ แม้ศิศิราขอร้องให้เขาหยุดทำร้ายตัวเอง
มาณสิงห์ก็ไม่ฟัง กระทั่งศิศิราต้องตัดใจพูดความจริงออกมา

"เรารักทีฑายุ" มาณสิงห์ถึงผงะ "มาณสิงห์...เก็บความรักความปรารถนาดีที่มีให้เราไว้
เราจะจดจำมัน"

"แค่ จดจำ แต่ไม่ได้รักเหมือนที่รักทีฑายุ มันทำร้ายเจ้าหญิง แต่เจ้าหญิงก็ยังรัก
ทั้งๆที่กระหม่อมอยู่ใกล้รับใช้ เจ้าหญิงเสมอมา แม้กระทั่งชีวิตของกระหม่อมก็พลีให้ได้
แต่กลับเทียบไม่ได้กับความใกล้ของหัวใจที่แนบชิดทีฑายุ ทั้งๆที่มันชั่วช้ากับเจ้าหญิงสารพัด
ตรงไหนพระเจ้าค่ะ คือความดีของกระหม่อมที่เจ้าหญิงจะเห็นได้บ้าง"

มาณสิงห์มองจ้องศิ ศิรา ศิศิราทนมองเห็นความผิดหวังของมาณสิงห์ไม่ได้ หันหลังวิ่งออกไป
มาณสิงห์ทรุดลง น้ำตาคลอออกมาด้วยความหวังที่พังทลายลงในพริบตา

ศิศิราวิ่งเข้ามาร้องไห้สะอื้นด้วยความสงสารมาณสิงห์ กัญญาภัคที่เหมือนรออยู่ก่อน
แล้วก้าวออกจากมุมหนึ่ง

"อย่า กลัวไปเลยศิศิรา...เจ้าหญิงผู้เพียบพร้อม ศิศิราแปลว่าน้ำค้าง ส่วนทีฑายุคือความ
ยั่งยืนยาวนาน ต่อให้ใสบริสุทธิ์แค่ไหน น้ำค้างก็ไม่อาจสู้แสงตะวัน มีแต่จะระเหยไปในอากาศ
เพราะฉะนั้นศิศิรากับทีฑายุก็ไม่มีวันจะอยู่ร่วมกันได้"

"นั่นคงเป็น ความหวังสูงสุดของเธอ" ศิศิราตอบโต้ กัญญาภัคอ้อมมาด้านหลัง ศิศิราสัมผัส
ได้ถึงปลายแหลมของมีดที่จ่อหลัง ก่อนมันจะเลื่อนมาอยู่ที่อก แต่ศิศิราไม่หวั่น กำมือลง
ไปบนมือกัญญาภัค

"เอาสิ ถ้าอยากให้น้ำค้างอย่างฉันพ้นทางรักของเธอ แค่แทงลงมาตรงหัวใจนี่ หัวใจที่มี
พี่ชายเธออยู่ข้างใน หัวใจดวงที่พี่ชายเธอเฝ้าทะนุถนอม รักสุดหัวใจ"

"ศิศิรา...เธอจะเป็นเจ้าหญิงของใครก็ได้ แต่ต้องไม่ใช่ เจ้าหญิงของพี่ทีฑายุ"

"คงจะไม่ได้ เพราะทีฑายุเองก็ไม่เคยยกย่องใครให้เป็นเจ้าหญิงในหัวใจ นอกจากชื่อ...ศิศิรา"

ศิ ศิราบิดมือแรงจนมีดหลุดจากมือกัญญาภัคหล่นลงพื้น แล้วหยิบมันปาลงปลายเท้ากัญญาภัค
แสดงให้รู้ว่าไม่ยอมเป็นเบี้ยล่างอีกต่อไป กัญญาภัคโมโหหันรีหันขวางก่อนเดินจ้ำออกไป
แล้วไปเอาเรื่องมาณสิงห์ที่กำลังจมอยู่กับความผิดหวัง

"นี่น่ะเหรอทหารกล้า ทำสงครามมาร้อยครั้ง เอาชนะใจผู้หญิงคนเดียวไม่ได้"

"แล้วเธอล่ะ มีปัญญาเอาชนะใจไอ้ทีฑายุมันมั่งมั้ย" มาณสิงห์สวนทันควันอย่างมีอารมณ์

"อย่างน้อย...ฉันก็ยังไม่เคยหยุดความพยายาม"

"พยายามมาเท่าไหร่ ทีฑายุก็ยังไม่เคยมองเธอเกินคำว่าน้องสาว"

"ถึง ตอนนี้จะยัง แต่ถ้าเจอแผนขั้นเด็ดขาดของฉันเข้าไป แล้วศิศิรายังรักพี่ทีฑายุอยู่ได้
อีกล่ะก้อ...มาณสิงห์ ผู้ชายอย่างเธอก็อย่าอยู่ให้อายหมาเลย ไปผูกคอตายซะ"

มาณสิงห์ฟังแล้วโกรธ แต่เถียงไม่ออก...



(อ่านต่อพรุ่งนี้)

ภาพมงกุฎ1

มงกุฏ2

มงกุฎ3

แฟนคลับร่วมด้วยช่วยทำ

วันเปิดตัว ละคร รักวุ่น...ลุ้นรัก

น้องนิค คลับน้องนุ่นน

จาก แฟนคลับนุ่น โดยคุณนุจ





รายการบล็อกของฉัน

ผู้ติดตาม