งานบอกตัวตน

วันพฤหัสบดีที่ 26 พฤศจิกายน พ.ศ. 2552

มงกุฎแสงจันทร์ในไทยรัฐ3

oooooooooooooooooooooooooooooooooooooooooooooooo

มงกุฏแสงจันทร์ 09/12/52

ตอนที่ 20 (ต่อจากวานนี้)

เย็นนั้นเอง รักเร่แกล้งฟูมฟายร้องไห้วิ่งหน้าตื่นมาบอกทีฑายุว่ากัญญาภัคกำลังจะฆ่าตัว
ตายอยู่ที่บ้าน ทีฑายุรีบร้อนไปห้ามทันเวลา แต่หารู้ไม่ว่านี่เป็นแผนของกัญญาภัค
แล้วเธอก็ทำสำเร็จเสียด้วย เมื่อแอบวางยากระตุ้นอารมณ์ทีฑายุจนมีสัมพันธ์ลึกซึ้งกับเธอ
แล้วรักเร่ก็หลอกพวกศิศิราตามมาเห็น โดยมีสินาตีเล่นละคร บทแม่ผู้น่าเห็นใจที่ลูกสาวถูกชายย่ำยี

ศิศิราเสียใจและอับอายจนสุด ทนกับความมักมากของทีฑายุ เธอวิ่งหนีออกจากห้อง
ทีฑายุรีบตามศิศิรา กัญญาภัคจะคว้าตัวก็ไม่ทัน แถมยังถูกญาณีด่าซ้ำว่าไร้ยางอาย
กล้าพลีตัวให้สามีเจ้าหญิง...ทีฑายุตามไปอ้อนขอโทษศิศิรา มาณสิงห์ยืนมองอย่างเจ็บช้ำ
รู้แก่ใจว่าศิศิรารักทีฑายุ แล้วเขาหันหลังเดินเร็วออกไป จึงไม่เห็นศิศิราสะบัดตัวออกจาก
อ้อมแขนทีฑายุเดินจากไปอย่างเย็นชา

ขณะ เกิดความวุ่นวายภายในวังปัญจารัตน์ โกญจนาทที่หลบไปอยู่นิราษิณก็ได้รับทราบ
ความเคลื่อนไหวทั้งหมดจากสินาตี โกญจนาทเห็นว่าสบโอกาสแล้วที่จะกำจัดทีฑายุ
จึงวางแผนให้มาณสิงห์ที่รักศิศิราฆ่าทีฑายุเสีย เพื่อมาณสิงห์จะได้เป็นสุภาพบุรุษใน
สายตาศิศิราคนเดียวตลอดไป โดยโกญจนาทบอกผ่านไปทางสินาตีเป็นคนเจรจา
กับมาณสิงห์ในเรื่องนี้

จตา รีที่ยังอยู่ในวัง พอรู้ว่ากัญญาภัคตกเป็นเมียทีฑายุ อีกคน และเห็นกัญญาภัค
เข้ามาแสดงตัวข่มศิศิรา จตารีทนไม่ได้เกิดทะเลาะตบตีกับกัญญาภัครุนแรง
กัญญาภัคโกรธจัดถึงขนาดคว้าปืนจากทหารจะยิงจตารี โชคดีสันธิมาเห็น
จตารีจึงรอดตาย แต่สันธิก็ต้องตะลึง เมื่อกัญญาภัคประกาศตัวเป็นเมียทีฑายุ

ศิ ศิรารู้สึกอัปยศกับสิ่งที่เกิดขึ้นจากการกระทำของทีฑายุ มาณสิงห์จึงพยายามใกล้ชิด
ปลอบใจ นั่นยิ่งทำให้ทีฑายุ ไม่พอใจ เย้ยมาณสิงห์ด้วยการกอดจูบศิศิราต่อหน้
า ศิศิราจึงยิ่งโกรธทีฑายุจนแทบไม่มองหน้า ประสันต์ ดรัณย์ และมาลข่านรับรู้ถึง
ความบาดหมางของเพื่อนรักกับเจ้าหญิง ก็อดหนักใจแทนไม่ได้ ทุกคนต่างพูดเป็นเสียงเดียวกันว่า
เมียสองต้องห้าม ทีฑายุเลยเล่นซะเมียสามตามตำรา แต่ในจำนวนสามคนคือ ศิศิรา
จตารี และกัญญาภัค คนหลังนี่น่ากลัวที่สุด

กัญญาภัคแสดงอำนาจฐานะเมียทีฑา ยุ สั่งคนขนเสื้อผ้าข้าวของของศิศิราออกจากห้อง
เอาไปเผาไฟ ศิศิรากับญาณีทัดทานไม่ไหว จนทีฑายุมาเห็นด้วยตาตัวเองต้องระงับเหตุ
ให้ดรัณย์กับประสันต์ช่วยกันดับไฟเดี๋ยวนี้...ศิศิราน้ำตาคลอด้วยความโกรธ
แล้วออกคำสั่งกับกัญญาภัคว่า ต่อไปนี้ทุกสิ่งทุกอย่างที่เป็นของของตน
ยกเว้นทีฑายุ กัญญาภัคห้ามแตะ... กัญญาภัคชักสีหน้าดวงตาวาวโรจน์ด้วยความเกลียดชัง
จ้องมองตอบโต้ศิศิรา

"อย่าให้เกิดเรื่องอย่างนี้ขึ้นอีก รับปากพี่สิ กัญญา" ทีฑายุเสียงเข้ม

"กัญญาไม่รับปากค่ะ จนกว่าพี่ทีฑายุจะให้ความเป็นธรรมกับกัญญา"

"ความเป็นธรรม คือการที่เธอได้อยู่ในวังนี้"

"ในฐานะไหนคะ" กัญญาภัคถามจี้ทีฑายุ ศิศิราสวนขึ้นทันที

"ฐานะไหนก็ได้ ที่เธอตะเกียกตะกายไปถึง ยกเว้นตำแหน่งเจ้าหญิงแห่งปัญจารัตน์"

ศิศิราเดินออกไป จตารี ส้มเสี้ยว ญาณี ยิ้มเยาะกัญญาภัค แล้วตามศิศิราออกไป
กัญญาภัคตวัดสายตามองทีฑายุที่ยืนสีหน้าอึดอัดหนักใจ

"เพราะว่าเจ้าหญิงศิศิราอ่อนแอ บอบบางมากใช่มั้ยคะ พี่ทีฑายุถึงต้องเฝ้าทะนุถนอมจน
ไม่สนใจความรู้สึกผู้หญิงคนไหนเลย"

"กัญญา อย่าให้พี่ต้องรื้อฟื้นเหตุการณ์วันนั้นว่ามันเกิดขึ้นได้ยังไง"

"พูด ออกมาก็ได้ค่ะ กัญญาจะได้รู้ว่าพี่ทีฑายุเลือกจะมีความรับผิดชอบกับผู้หญิงอย่างศิศิราคน
เดียว ไม่ว่ากัญญาจะทำดีแค่ไหน หัวใจพี่ทีฑายุก็จะเห็นแต่ความอ่อนโยนของศิศิรา
พี่ทีฑายุรู้ไหมคะหัวใจที่แข็งแกร่ง มันก็อ้างว้างได้ เหมือนกัน หัวใจดวงนั้นก็ต้องการความรักจากพี่ทีฑายุ"

"พี่ไม่เคยทอดทิ้งกัญญา พี่มีแต่ความรักมอบให้ แต่มันเป็นรักในฐานะ..."


"เมีย... กัญญาเป็นเมีย ต้องรักในฐานะเมีย กัญญามีสิทธิ์นั่งเคียงข้างพี่ทีฑายุบนนั้น"
ชี้มือไปที่บัลลังก์ ทั้งน้ำตาที่ไหลเอ่อออกมา ทีฑายุจะเข้ามาแตะปลอบโยน
กัญญาภัคเบี่ยงตัวหนีด้วยความน้อยใจ

"กัญญาต้องเป็นผู้หญิงคนเดียวที่พี่รักและมอบใจให้ จนกว่าความตายจะมาแยกเราจากกัน"

ระบายความในใจทุกอย่างแล้วกัญญาภัคก็วิ่งออกไปด้วยความเจ็บปวด
สินาตีเดินเข้ามาจ้องหน้าทีฑายุ มองอย่างสมเพชก่อนผละไป

"ความรักของแกสำคัญกับชีวิตกัญญาภัค" ดรัณย์เอ่ยขึ้นมา ทีฑายุหน้าสลด
เขาไม่เคยคิดว่ามันจะสำคัญมากถึงขนาดนี้ ประสันต์จึงเตือนสติ

"ไม่มีใครอยากเป็นคนพ่ายแพ้ในรัก แต่แกควรจะจำใส่สมองของแกด้วยว่า
มงกุฎแสงจันทร์ควรค่ากับเจ้าหญิงองค์เดียวเท่านั้น"

ทีฑายุหันมองบัลลังก์แสงจันทร์ หนักใจกับเหตุการณ์ กลืนไม่เข้าคายไม่ออกที่ตัวเองคือต้นเหตุ

กัญญาภัคยังไม่เลิกระรานศิศิรา แม้ศิศิราไม่อยากปะทะ พยายามจะเดินหนีไปพ้นๆ
กัญญาภัคกลับหาว่าศิศิราหนีความจริง ศิศิราเลยชะงัก

"เธอหนีความจริงไม่ได้หรอกศิศิรา ยังไงเธอก็ต้องยอมรับว่าฉันอยู่ที่นี่ในฐานะ...เมียพี่ทีฑายุ"

"หรือว่าเรายังใจกว้างไม่พอ ต้องจัดงานแต่งงานแล้วส่งตัวเธอเข้าห้องให้ด้วยมั้ย
เผื่อว่าเธอจะมีศักดิ์ศรีขึ้นมาบ้าง"

"กล้าทำเหมือนที่กล้าพูดหรือเปล่าล่ะ"

"อย่า ท้าทายเรื่องที่เป็นไปไม่ได้ดีกว่า กัญญาภัค" ทีฑายุก้าวตรงมาที่กัญญาภัค
"พี่คงไม่ต้องเล่าว่าเรื่องคืนนั้นเกิดเพราะจากความเต็มใจ หรือว่ามีใครวางแผนให้มันเกิด"
กัญญาภัคฟังแล้วหน้าเสีย ศิศิรามองจับสังเกตคนทั้งคู่ "พี่อดทนได้กับการกระทำทุกอย่างที่ผ่านมา
เพราะน้องคือความผูกพัน แต่ที่มากกว่าความผูกพัน หมายถึงรักทั้งชีวิต รักที่ไม่มีข้อแม้ ใดๆคือ...ศิศิรา"

"พี่ทีฑายุกำลังจะฆ่าน้อง" กัญญาภัคตัดพ้อเสียงสั่นเครือ

"พี่ ไม่ได้บอกว่าจะหยุดรักกัญญา แต่มันต้องไม่มากไปกว่าฐานะที่พี่เคยให้ ต้อง
ไม่ใช่เครื่องมือที่กัญญาจงใจใช้ ทิ่มแทงทำร้ายจิตใจเจ้าหญิง"

กัญญา ภัคน้ำตาคลอทั้งเจ็บทั้งอายศิศิรา ที่ทีฑายุประกาศชัดเจนขนาดนี้
ยิ่งเห็นทีฑายุเดินตามศิศิราออกไป น้ำตาก็ยิ่งไหลพรากด้วยความผิดหวัง
ร้าวรานใจ พอกลับไปเล่าให้แม่ฟัง กลับถูกแม่กระหน่ำซ้ำเติมให้ยิ่งเจ็บช้ำหนักขึ้นไปอีก
ทั้งแม่ยังประกาศจะไม่อยู่ที่นี่ ขอไปภักดีกับโกญจนาทผู้ชายที่แม่รัก...
ด้านทีฑายุที่ตามไปง้อศิศิราด้วยความจริงใจก็สมหวัง เพราะลึกๆแล้วศิศิราก็รักทีฑายุมากเช่นกัน

ooooooo

ข้างฝ่าย มาณสิงห์ หลังคิดทบทวนข้อเสนอของสินาตีและตัดสินใจแน่วแน่แล้ว
แม้สันธิผู้เป็นพ่อซึ่งระแวงระวังพยายามเตือนเรื่องความรักที่มีต่อเจ้าหญิง ว่าไม่ควร
และเป็นไปไม่ได้ มาณสิงห์ก็ไม่ใส่ใจ แอบออกไปพบโกญจนาทที่ริมเขื่อน
เพื่อร่วมมือกำจัด

ทีฑายุโดยโกญจนาทขอให้มาณสิงห์แสดงความจริงใจที่จะร่วมมือ
ด้วยการพารามปุระกับทาอูมาหาเขาให้ได้ก่อน

ที่ สนามขี่ม้า ราเชนทระโมโหโกรธาเมื่อได้รับรายงานจากสันชัยว่ากัญญาภัค
เป็นเมียทีฑายุไป แล้ว ไมยาดินซึ่งปลอมตัวเป็นคนดูแลม้าได้ยินก็ดวงตาลุกโพลง

"คนของเรายืนยันมาว่าไม่ใช่ข่าวลือ ตอนนี้ในวังปัญจารัตน์กำลังวุ่นวาย" สันชัยยืนยัน

"แล้ว ทำไมไอ้โกญจนาทมันไม่บอกฉัน หรือว่ามันรู้แล้วจงใจปิด รอเอาผลประโยชน์
เข้าตัวเองเสียก่อน....สันชัย ไปลากตัวโกญจนาทมาหาฉันเดี๋ยวนี้" ราเชนทระตวาด
น้ำเสียงผิดหวัง สันชัยรีบออกไป...ไมยาดินกำเชือกม้าแน่น ทำเป็นรีบจูงม้าออกไป
จากสนามอย่างเร็ว

มาณสิงห์ทำตามคำขอของโกญจนาท บุกเข้าไปช่วยทาอูกับรามปุระในคุก แต่สองคน
ไม่ไว้ใจมาณสิงห์ จึงเกิดต่อสู้กันจนทาอูพลาดท่าถูกมาณสิงห์ใช้โซ่รัดคอจนสิ้นใจ
รามปุระคว้าปืนจะยิงมาณสิงห์ ธนูเพลิงพรวดพราดเข้ามาเห็น จะยิงรามปุระก่อน
แต่มาณสิงห์ร้องห้าม ก่อนจะยิงธนูเพลิงจนทรุด

"ขอบใจความซื่อสัตย์ของแก ธนูเพลิง แต่ฉันจำเป็น"

ธนูเพลิงมองมาณสิงห์อย่างนึกไม่ถึง ขณะที่รามปุระเข้าใจสถานการณ์ รีบวิ่งตามมาณ
สิงห์ที่นำออกไป ทิ้งธนูเพลิงกระอักเลือดอยู่ตรงนั้น

เวลา นั้น โกญจนาทกำลังเข้าพบราเชนทระด้วยท่าทีตื่นเต้น รายงานว่าแผนทำลาย
ปัญจารัตน์ของเราเริ่มต้นขึ้นแล้ว แต่ราเชนทระกลับมองโกญจนาทอย่างหยามเหยียด
ไม่มีสายตาเป็นมิตร

"หุบปาก ฉันจะไม่ฟังคนขายชาติอย่างแกอีกแล้ว แกรู้ว่ากัญญาภัคเป็นเมียทีฑายุ แต่แกไม่บอกฉัน"

"เกล้ากระหม่อมไม่รู้"

"ลิ้นสองแฉกอย่างแก มีหรือจะไม่รู้ความเคลื่อนไหวทุกอย่าง แต่ที่แกไม่พูดเพราะแก
ยังไม่ได้ผลประโยชน์จากฉัน... ทหาร ลากมันออกไป"

สันชัยกับทหารเข้าประกบคุมตัวโกญจนาททันที

"พระองค์จะต้องเสียใจกับการตัดสินใจผิดพลาดครั้งนี้" โกญจนาทคำราม

"ฉันไม่เสียใจเพราะคนคดในข้องอในกระดูกอย่างแก สันชัย เนรเทศโกญจนาท
อย่าให้มันกลับมาเหยียบแผ่นดินนิราษิณได้อีก"

โกญจนาท จ้องมองราเชนทระอย่างเดือดดาล แต่เมื่อเห็นกำลังทหารของราเชนทระ
โกญจนาทก็ข่มความรู้สึก ก้าวออกไปจากตรงนั้นด้วยท่าทีเสือยังไม่สิ้นลาย

ส่วน ที่คุกปัญจารัตน์ สันธิกับวิชัย และเพื่อนๆของทีฑายุ กำลังตรวจสอบร่องรอยเหตุการณ์
อุกอาจที่เกิดขึ้น วิชัยมั่นใจว่าต้องเป็นฝีมือคนในที่ช่วยรามปุระออกไป ธนูเพลิงพยายาม
จะบอกชื่อไอ้คนทรยศ แต่ก็กระอักเลือดอย่างหนักจนคอพับไปอีก

สัน ธิสั่งทหารออกตามล่าลากตัวรามปุระกับไอ้คนทรยศกลับมาให้ได้ แล้วทั้งทหาร
และพวกดรัณย์ก็ไล่ล่าออกไปที่ริมเขื่อน ซึ่งมาณสิงห์กำลังจะส่งรามปุระขึ้นเรือไปนิราษิณ
แต่ทันใดนั้นเอง ไมยาดินโผล่มาเผชิญหน้ามาณสิงห์

"ไม่นึกเลยว่าองครักษ์จะกลายเป็นแค่หมารับใช้ของโกญจนาท"

"หายไปไหนมา รู้ข่าวดีหรือยังว่าคนที่แกรักเพิ่งจะกลายเป็นเมียไอ้ทีฑายุ"

"ฉันไม่เชื่อ กัญญาภัคยังรอฉัน"

ราม ปุระกำลังจะก้าวขึ้นเรือ ไมยาดินยิงทันที รามปุระก้มหลบทัน มาณสิงห์ตะโกน
เร่งให้รามปุระขึ้นเรือ จังหวะนี้เองทหารและพวกดรัณย์วิ่งมาถึง มาณสิงห์จวนตัวเลย
ต้องพลิกเกม กระหน่ำยิงรามปุระตกน้ำขาดใจตาย แล้วหันมายิงใส่ขาไมยาดินที่ไม่ทันตั้งตัว

"มัน...หมารับใช้ไอ้โกญจนาทที่ช่วยแหกคุก"

"ไม่ ใช่ฉัน...ไอ้มาณสิงห์..." ไมยาดินพูดได้แค่นั้นก็ถูกมาลข่านกับดรัณย์ถีบเข้ายอด
อกจนหงายหลัง ประสันต์ตามมากระทืบซ้ำ แล้วเอาปืนจ่อจะลั่นไก แต่ดรัณย์รีบห้าม
ควรเอาตัวมันกลับไปให้ทีฑายุสอบสวน มาณสิงห์หน้าเครียดขึ้นมาทันที...

ooooooo

เมื่อถูกคุมตัวเข้ามาในวัง ไมยาดินพยายามบอกความจริงว่ามาณสิงห์เป็นไส้ศึกให้โกญจนาท
แต่ทุกคนไม่มีใครเชื่อ สันธิโกรธถึงกับลงมือซ้อม

ไมยาดินสะบักสะบอม...ขณะเดียวกันนั้น มาณสิงห์กำลังรีบร้อนไปโกหกโกญจนาทในจุดที่เคยนัดพบ

"ไมยาดินมันแค้นท่านมาก ถึงฆ่าได้ทั้งรามปุระ ทั้งทาอู เราเองก็เกือบไม่รอด"

"ไม่เป็นไร จะทำงานใหญ่ก็ต้องมีคนสละชีวิต"

"ไมยาดินมันคงไม่หยุดพูดเรื่องที่สงสัยเรา"

"กว่าที่ทุกคนจะรู้ กองกำลังใหม่ของเราก็แข็งแกร่งแล้ว" มาณสิงห์ทำหน้าสงสัย
โกญจนาทจึงขยายความว่า "กองกำลังเพื่ออาณาจักรใหม่"

"แกไม่ได้อยู่ที่นิราษิณ"

โกญจนาทยิ้มปกปิดความจริง ไม่ยอมบอกมาณสิงห์ เรื่องถูกขับออกจากนิราษิณ

"คน อย่างฉันไม่จำเป็นจะต้องอยู่ใต้เงาของใคร เตรียมตัวให้พร้อม มาณสิงห์
เรากำหนดวันตายให้เลือดเนื้อเชื้อไขสารเลวอย่างทีฑายุแล้ว" มาณสิงห์ถามทันที
ว่าเมื่อไหร่ "ทันทีที่เราได้หมากตัวสุดท้าย เพื่อล่อทีฑายุออกมา"

มาณสิงห์เห็นสายตากระหยิ่มย่ามใจของโกญจนาท แล้วถึงกับรำพึงชื่อศิศิราออกมา...

ส่วน ศิศิราเป้าหมายของโกญจนาท เมื่อรู้จากทีฑายุว่าเกิดเหตุร้ายแรงขึ้นก็หวาดหวั่น
และเป็นห่วงธราเทพ กลัวโกญจนาทจะกลับมาเอาชีวิต แต่ทีฑายุรับปากจะไม่ยอม
ให้เป็นเช่นนั้นแน่ ถ้าโกญจนาทก้าวเข้ามาที่นี่อีกครั้ง มันต้องไม่มีลมหายใจ ศิศิราจึง
ถามทีฑายุ แน่ใจหรือว่าจะกล้าฆ่าคนที่เลี้ยงเขามา

"ถึงบุญคุณโกญจนาทท่วมท้นชีวิต แต่ก็ไม่ยิ่งใหญ่ไปกว่าบุญคุณของแผ่นดินเกิด
เราสัญญา ศิศิรา เราจะเป็นแค่ ผู้ปกป้อง ไม่ใช่ผู้ปกครอง"

"เราขอขอบใจ ความกล้าหาญ ความเสียสละของเธอ"

ที ฑายุยิ้มรับ ดึงศิศิราเข้ามากอดด้วยความรัก "เพียงแค่นี้...ยิ่งกว่าชีวิตก็ให้ได้ รักเดียว
จากหัวใจคือการรักษาน้ำค้าง หยดนี้ให้บริสุทธิ์ใสตลอดไป"

ฝ่ายกัญญาภัคที่ลงไปดูไมยาดินในคุก เธอถูกไมยาดินคาดคั้นถามเรื่องที่ใครต่อใครบอก
ว่าเธอเป็นเมียทีฑายุ กัญญาภัค ยอมรับและบอกให้ไมยาดินตัดใจ เพราะเธอเต็มใจเป็นเมียทีฑายุ
ไมยาดินทั้งเจ็บทั้งแค้นตะโกนตัดพ้อต่อว่ากัญญาภัค

อย่างบ้าคลั่ง และหมายหัวทีฑายุว่ามันต้องตาย...

ธนูเพลิงนอนรักษาตัวในโรงพยาบาลที่ค่ายทหาร

สัน ธิมาเยี่ยมและคาดคั้นจนรู้ความจริงว่ามาณสิงห์ลูกชายของตัวเองคือคนทรยศที่
ช่วยรามปุระ สันธิผิดหวังเสียใจที่สุด รีบมาบอกพวกทีฑายุให้รู้ ซึ่งเวลานั้นมาณสิงห์
ได้ย้อนกลับมาจับตัวศิศิราออกไป โดยทำร้ายจตารีที่อยู่ในห้องด้วยกันจนลุกไม่ขึ้น

มาณสิงห์พาศิศิราไป ยังแหล่งกบดานของโกญจนาท ศิศิราโกรธมากดุด่ามาณสิงห์ที่
ยอมเป็นเครื่องมือคนเลว เพียงเพราะเธอให้ความรักที่เกินเพื่อนไม่ได้ แล้วเธอหัน
ไปประกาศกับโกญจนาทว่า ทีฑายุต้องมาช่วยเธอ ไม่ว่ายากลำบากแค่ไหนเขาก็จะ
ขับไล่คนชั่วทุกคนให้หมดไปจากแผ่นดินของเธอ โกญจนาทกลับตอบโต้ด้วยรอยยิ้มว่า

"คงจะอีกนาน เพราะเราต้องการให้ทีฑายุมันกระอักเลือดตายลงไปช้าๆกับความทรมาน
ที่ไม่รู้ว่าชะตากรรมของเจ้าหญิงจะเป็นหรือตาย"


oooooooooooooooooooooooooooooooooooo

มงกุฏแสงจันทร์ 10/12/52


ตอนที่ 20 (ต่อจากวานนี้)

เมื่อ รู้จากจตารีว่ามาณสิงห์จับศิศิราไปแล้ว ทีฑายุแค้นแสนแค้นจนแทบคลั่ง
สั่งทหารปิดชายแดนทุกด่าน เจอมาณสิงห์ ที่ไหนต้องจับเป็น แล้วเขาจะตอบ
แทนความบัดซบของมาณสิงห์ด้วยตัวเอง กัญญาภัคเห็นความรักของทีฑายุ
ที่มีต่อศิศิราก็ยิ่งริษยา พยายามเป่าหูทีฑายุว่าอาจเป็นแผนของศิศิราที่จะหนีไปอยู่
กับมาณสิงห์ แต่ทีฑายุไม่เชื่อ เขารู้จักผู้หญิงที่เขารักดีที่สุด ศิศิราไม่มีวันเต็มใจไปกับมาณสิงห์

"แต่ผู้หญิงของพี่ เขาเคยรัก เคยเห็นอกเห็นใจกับมาณสิงห์ มาก่อน" กัญญาภัคยังพยายาม

"ความเห็นใจกับความรักมันต่างกันนะกัญญา เหมือนที่พี่เห็นใจเธอ แต่สำหรับศิศิรา...นั่นคือความรัก"

"รักที่ไม่มีวันยาวนาน ศิศิราคือตัวทำลาย เขาเข้ามาทำลายความผูกพันของเรา"

"คนผิดคือพี่ ไม่ใช่ศิศิรา ออกไปซะ ศิศิราคนเดียวเท่านั้นที่พี่จะคิดถึง"

"อยาก คิดถึงก็คิดถึงไปสิคะ กัญญาก็อยากรู้ว่าพี่ทีฑายุจะอยู่กับความฝันหรือ
ความจริงมากกว่ากัน" กัญญาภัคทอดกายบนเตียงพร้อมกับโน้มตัวทีฑายุตามลงมา
ทีฑายุกลับดึงกัญญาภัคขึ้นอย่างแรง และตวาดไล่ให้ออกไป กัญญาภัคไม่พอใจเสียงแข็งว่า
ศิศิราอาจจะไม่ได้กลับมาแล้ว ทีฑายุจึงกระชากกัญญาภัคผลักไปที่ประตูแล้วย้ำชัด
"ไม่มีศิศิรา หัวใจทีฑายุก็จะไม่เป็นของผู้หญิงคนไหนอีก"

ญาณีเห็นกัญญาภัคเดิน น้ำตาไหลออกมาจากห้อง ได้ทีสมน้ำหน้าคนแพ้และตอกย้ำว่า
ผู้หญิงหน้าหนาอย่างกัญญาภัคไม่มีทางเอาชนะเจ้าหญิงของเธอได้ กัญญาภัคโกรธจัดจะตบตีญาณี
แต่ญาณีไวกว่า จับแขนกัญญาภัคบิดจนหมดทางสู้...

มา ณสิงห์เฝ้าดูแลศิศิราด้วยความรัก แต่ศิศิราไม่แม้แต่จะมองหน้าเขาสักนิด
ซ้ำยังยืนยันในรักที่มีต่อทีฑายุ สำหรับมาณสิงห์จะได้แค่ความเกลียดจากเธอจนชั่วชีวิต
มาณสิงห์ทั้งน้อยใจและเสียใจจนระงับอารมณ์ไม่อยู่ พยายามปลุกปล้ำศิศิราจนเสื้อผ้าขาด
แต่แล้วก็ได้สติเมื่อฝ่ามือศิศิราฟาดใบหน้าเขาอย่างแรง มาณสิงห์ละอายใจ
ขอโทษศิศิราแล้วผละออกไปทันที

โกญจนาทฉวยโอกาสนี้เอาเสื้อศิศิราที่ขาดส่งไปให้

ทีฑายุ ทีฑายุเห็นเสื้อก็คลั่งหนักจะไปฆ่ามาณสิงห์ จนพวก

ประ สันต์ต้องช่วยกันรั้งช่วยกันห้ามอยู่พักหนึ่งกว่าทีฑายุจะสงบลง ขณะเดียว
กันนั้นโกญจนาทก็เดินแผนต่อไป เข้าพบราเชนทระเพื่อขอทหารไปจัดการศัตรูที่ปัญจารัตน์
ราเชนทระยอมให้ตามที่ขอ แต่มีข้อแลกเปลี่ยนว่าปัญจารัตน์ต้องเป็นเมืองขึ้นนิราษิณ

"เมืองขึ้นนิราษิณ" โกญจนาททวนคำอย่างคาดไม่ถึง

"ใช่ เราจะช่วยให้ท่านได้เป็นกษัตริย์แห่งแคว้นปัญจารัตน์ โดยมีกองทหาร
แห่งนิราษิณคุ้มครองบัลลังก์ให้ หรือว่าท่านอยากเป็นกษัตริย์ที่ไม่มีกองทัพหนุนหลัง
แล้วก็ต้องต่อสู้กับพวกจงรักภักดีที่จ้องจะโค่นล้มอำนาจท่านได้ทุกเมื่อ"

"กระหม่อมยินดีเหลือเกินที่จะได้เชื่อมสองแคว้นให้เป็นหนึ่งเดียว และอยู่ภายใต้
พระบรมเดชานุภาพของพระองค์"

"แล้วเรื่องทีฑายุกับพวกทหารราชวงศ์ที่ยังปกป้องบัลลังก์ล่ะ"

"ไม่ต้องห่วงพระเจ้าค่ะ กระหม่อมขอแค่มือสังหารของพระองค์สิบคน แค่นั้นก็เพียงพอที่
จะกำจัดศัตรูทุกคนให้สิ้นซากพระเจ้าค่ะ"

ไม่ ทันข้ามวัน ทีฑายุและคณะซึ่งประกอบด้วย สันธิ วิชัย ดรัณย์ ประสันต์ มาลข่าน
จตารี ธนูเพลิง กัญญาภัค รวมทั้งไมยาดินก็ยกขบวนมาแถวเขื่อนเพื่อดูลาดเลา
แล้วก็เกิดปะทะกับมือสังหารที่โกญจนาทส่งมา ผลคือพวกทีฑายุถูกมือสังหารจับ
ได้หมด เอาไปขังในคุกลับของโกญจนาท

ทุก คนพยายามหาทางหนี แต่ดูจะมืดมน หนำซ้ำญาณีกับส้มเสี้ยวที่หวังจะพึ่งพาก็
ถูกจับมาขังรวมกันอีก โกญจนาทหวังให้ศัตรูทุกคนของตนแตกแยกความสามัคคี
เข่นฆ่ากันเองเพื่อแย่งอาหารและน้ำที่ให้มาเพียงน้อยนิด

เมื่อศัตรูเริ่มทะเลาะเบาะแว้ง โดยเฉพาะพวกผู้หญิง โกญจนาทก็หัวเราะร่าเดินเข้ามา
พร้อมมือสังหารที่คอยคุ้มกัน

"เป็น ยังไง ท่าทางจะรักใคร่กลมเกลียวกันดี เหล่าทหารเอกทั้งหลาย ไมยาดินฝาก
เนื้อฝากตัวกับสี่ทหารเสือหรือยัง อ้อนวอนให้มันรับแกเป็นพวกด้วยนะ
ไม่งั้นหมาหัวเน่าอย่างแกอาจจะกลายเป็นศพแรกในคุกนี้ เพราะไม่มีนายอย่างฉันคุ้มกะลาหัว"

ไมยาดินเจ็บใจ โกญจนาทหันมาทางกลุ่มผู้หญิงสี่คน

"หรือจะเอาโซ่รัดคอกัญญาภัค แก้แค้นแทนเจ้าหญิงก็ได้นะ ฉันให้โอกาสพวก
แกฆ่านังงูพิษนี่ได้ตามสบาย"

กัญญาภัคมองเห็นสายตาเอาเรื่องพวกญาณี ก็หันกลับมามองโกญจนาทด้วย
ความเกลียดชัง โกญจนาทไม่แคร์ เลื่อนสายตามาที่ทีฑายุ สันธิ วิชัย

"ส่วน พวกจงรักภักดี ปิดทองหลังพระ มันก็ต้องทรมานกว่าเพื่อน อยู่ให้นานที่สุดน
ะ สันธิ วิชัย อยู่ให้ถึงวันที่แกจะได้ยินเสียงประชาชนแซ่ซ้องเทิดทูนกษัตริย์โกญจนาทดังมา
ถึงในนี้ ส่วนทีฑายุหลานรัก ขอให้แกตายเป็นคนสุดท้าย เพื่ออยู่รอดูทุกคนที่นับถือ
ในตัวแกตายไปต่อหน้าต่อตาทีละศพ...ทีละศพ สุดท้ายก็คือศิศิรา ที่ฉันจะส่งซากกลับ
มาโยนให้แกเหมือนกระดูกชิ้นนึง"

ที ฑายุพุ่งพรวด แต่เจอมือสังหารเสยด้วยปืนก่อนจะถึงตัวโกญจนาท คนอื่นๆจ้องจะช่วย
เหลือทีฑายุ แต่มือสังหารจ่อปืนเล็งเตรียมพร้อม โกญจนาทหันมารับชามข้าวจาก
มือสังหารแล้วโยนลงไปกลางห้อง ทุกคนมองเจ็บใจ ทั้งที่หิวแต่ไม่มีใครยอมแตะ
โกญจนาทแสยะยิ้ม โยนถังน้ำลงไปใกล้ชามข้าว

"ไม่ต้องรีบกินกันล่ะ เพราะนี่มันอาหารของพวกแกทั้งเดือน"

"แกจะเอาอะไรก็ว่ามา" ทีฑายุกระชากเสียง

"ฉันได้หมดแล้ว บ้านเมืองเป็นของฉัน มงกุฎแสงจันทร์ เป็นของฉัน เหลือแค่ความตาย
ของพวกเหล่าผู้จงรักภักดี"

"ประชาชนจะสดุดีผู้นำชั่วๆด้วยเสียงสาปแช่ง" สันธิคำราม

"เสียง สาปแช่งลบหลู่ผู้มากบารมีอย่างฉันไม่ได้ พวกแกใครที่ทนไม่ไหวก็รีบๆตายไปซ
ะ คนที่เหลือจะได้กินเนื้อ... ประทังชีวิต" โกญจนาทยิ้มเย้ย กลับออกไปอย่างผู้ชนะ

ooooooo

ถึงยามคับขัน หากตีกันเองต้องเป็นที่สะใจของโกญจนาท ทีฑายุจึงเตือนสติทุกคน
ให้รักษาลมหายใจเพื่อออกไปกอบกู้บ้านเมือง ดีกว่าปล่อยให้สิ้นลมหายใจอยู่ที่นี่อย่างไร้ค่า
ทุกคนเห็นด้วยกับทีฑายุ โดยเฉพาะไมยาดินสำนึกผิดที่ฆ่ากษัตริย์สิปปภาคตามคำสั่งโกญจนาท
จึงไถ่บาปยอมพลีชีพแอบเอาระเบิดที่มือสังหารเข้ามาติดตั้งหวังให้ทุกคนตาย
หมู่มาติดไว้กับตัวเองคนเดียว เพื่อเปิดทางให้คนอื่นๆหนีออกไป

เสียง ระเบิดดังกึกก้อง ร่างไมยาดินกระเด็นไปแน่นิ่งเลือดอาบ ทีฑายุและทุกคนที่หนีออก
ไปได้หันมองสภาพศพไมยาดินด้วยความสลดใจ ทีฑายุย้ำว่า ไมยาดินคือผู้เสียสละที่
พวกเราจะไม่มีวันลืม...จากนั้นทีฑายุให้ญาณี จตารี และส้มเสี้ยวรีบไปดูแลเจ้าชายธราเทพ
รักษาชีวิตพระองค์ไว้ให้ได้

พวกญาณีไปถึงวังทันเวลา ช่วยกันจับรุกขมณีที่เห็นแก่ อามิสสินจ้างจากโกญจนาท
กำลังจะฉีดยาพิษใส่ร่างธราเทพ...

ส่วนโกญจนาทเมื่อรู้ว่าพวกทีฑายุหนีออกไปได้หมด จึงสั่งมาณสิงห์ให้เอาศิศิราออกมา
เป็นตัวประกัน

ทีฑายุวิ่งนำทุกคนไปแถวเขื่อน แล้วสั่งกระจายกำลังคุ้มกันรอบนอก ให้โกญจนาทคิดว่า
มันได้เปรียบ จนกว่าเขาจะได้ตัวศิศิรามาแล้วค่อยบุก

"ระวังตัวด้วย" สันธิเตือน ทีฑายุพยักหน้า สันธิจึงนำกลุ่มวิ่งไปอีกทาง เหลือเพียงกัญญาภัคยังยืนอยู่กับที่

"ให้กัญญาเป็นคนฆ่าโกญจนาทได้มั้ยคะ น้องอยากให้มันตายด้วยมือของน้อง"

"พี่ไม่ให้น้องเสี่ยง"

"ไม ยาดินทำให้น้องรู้ว่าความตายมันไม่น่าหวาดกลัวเลย ถ้าเราต้องตายเพื่อแผ่นดินที่
มอบชีวิตให้เรา เพื่อความรักที่มีคนจดจำ ขอให้น้องได้อยู่ในความทรงจำของพี่
เพราะในหัวใจนี้พี่ไม่เหลือที่ว่างให้น้องแล้ว ไม่ว่าจะเป็นหรือตาย น้องก็เคยได้ร่วมทุกข์ร่วมสุข
เคียงข้างคนที่น้องรัก แค่นี้ลมหายใจของน้องก็มีค่า" กัญญาภัคจับมือทีฑายุมาแนบแก้ม
ก่อนจะปล่อยลงช้าๆ "รีบไปช่วยคนรักของพี่เถอะค่ะ"

ทีฑายุซึ้งใจ โอบกอดกัญญาภัคก่อนจะดึงตัวออกรีบวิ่งไปตามแนวเขื่อน แล้วเผชิญหน้า
กับโกญจนาทอย่างไม่กลัวเกรง

"ปล่อยตัวศิศิรามา แล้วแกจะฆ่าฉัน...ก็เอาเลย"

"ฉัน ผิดเองที่ปล่อยให้ลูกกำพร้าอย่างแกมีชีวิตรอดกล้าแกร่งมาต่อรองกับฉันได้ ทั้งๆที่ฉันน่าจะ
ยิงแกให้ตายไปพร้อมๆกับไอ้น้องชายคนซื่อ"

"แกเคยบอกว่า พ่อศิศิราฆ่าพ่อฉัน"

"ข้า ราชการสัตย์ซื่อ มือสะอาด ไม่กล้าแม้กระทั่งช่วยพี่ชายถ่ายเทเงินแผ่นดินมาเป็นสมบัติตัวเอง
มันก็สมควรได้รับรางวัลแห่งชีวิตเป็นความตาย"

ทีฑายุสีหน้าคั่งแค้นกับความจริงที่เพิ่งเปิดเผย "แก...แกฆ่าพ่อฉัน แล้วแกเลี้ยงฉันมาทำไม"

"เพราะ แกจะเป็นทายาทคนเดียวที่พาฉันขึ้นไปสวมมงกุฎแสงจันทร์ แต่เลือดพ่อแกมันแรง
แกถึงกล้าเนรคุณฉัน เพราะแกรักราชวงศ์ เพราะแกรักนังศิศิรา"

ทีฑายุหยิบปืนขึ้นจ่อโกญจนาท โกญจนาทกลับมองเฉย เหยียดยิ้มสะใจ

"ก็เอาสิ ถ้าแกอยากเห็นศพเจ้าหญิงเร็วขึ้น"

"ศิศิราอยู่ที่ไหน"

ทัน ใดมาณสิงห์ก็พาศิศิราในสภาพถูกมัดมือออกมา โกญจนาทมั่นใจว่าเป็นต่อ สั่งทีฑายุทิ้ง
ปืนแล้วคลานเข้ามา ศิศิราร้องห้ามทีฑายุอย่าก้มหัวให้มัน แต่ทีฑายุต้องรักษาชีวิตศิศิรา
ยอมทิ้งปืนและคุกเข่าลง

"ฉันคุกเข่า ให้แกเพื่อรักษาคนที่สูงค่า เป็นยิ่งกว่าชีวิต ยิ่งกว่าจิตใจ...ชีวิตข้ารองบาทคนนี้
เคยสัญญาว่ายินดีตายเพื่อรักษาน้ำค้าง ให้ใสหมดจดกลางใจทุกคนตลอดไป"

"สะใจหรือยัง มาณสิงห์ สะใจหรือยังที่ร่วมมือกับคนทรยศ" ศิศิราระเบิดเสียง
โกญจนาทไม่รอช้า ยั่วยุมาณสิงห์ ให้ตัดสินใจ

"ยิงมันสิ มาณสิงห์ ยิงทีฑายุให้สมกับความแค้น

ที่มันมาแย่งความรัก"

"ทั้งๆ ที่ฉันใช้ชีวิตเป็นเดิมพันในรัก อกของฉันจะเป็น ที่พักพิงให้เจ้าหญิงได้ดีกว่า แค่ไม่มีแกสักคน
ชื่อเดียวที่เจ้าหญิงจะรักคือมาณสิงห์" มาณสิงห์พูดจบก็ลั่นกระสุนโดนไหล่ทีฑายุที่เอี้ยวตัวหลบล้มล
ง ศิศิราตกใจร้องลั่น ดิ้นรน จะไปหาทีฑายุ ทีฑายุเองก็พยายามลุกขึ้นจะเข้ามาหาศิศิรา

เสี้ยวนาทีนั้น โกญจนาทชักปืนยิงรัวใส่ท้องมาณสิงห์ แล้วยิงเข้าที่ขาทีฑายุ
ก่อนหันปืนไปหาศิศิราอย่างรวดเร็ว

"นั่น... หัวใจดวงเดียวของพวกแกใช่มั้ย" โกญจนาทเหนี่ยวไกใส่ศิศิราจนร่างเธอทรุดฮวบ
ท่ามกลางสายตาตกตะลึง ของมาณสิงห์กับทีฑายุ และเสียงหัวเราะดังก้องของโกญจนาท

พวกสันธิที่ ซุ่มอยู่รอบนอกได้ยินเสียงปืนก็ตกใจกรูกัน ออกไป...ทีฑายุฝืนความเจ็บเข้า
ประคองร่างศิศิรา ขณะที่มาณสิงห์ จะคว้าปืนที่พื้น แต่ถูกโกญจนาทกระหน่ำยิงจนทรุดไปอีก

"ขอบใจฉันสิ ที่จะส่งให้พวกแกได้ไปรักกันต่อถึงชาติหน้า" โกญจนาทตั้งใจจะซ้ำทีฑายุกับศิศิรา
แต่กัญญาภัคพรวดเข้ามาพร้อมปืนในมือ

"ฉันต่างหากที่จะส่งแกไปครองบัลลังก์ในนรก"

กัญญาภัคกระหน่ำยิง จนโกญจนาทต้องล่าถอย กัญญาภัคบอกทีฑายุว่า เธอจะไปล่ามันเอง
พูดจบก็วิ่งตามโกญจนาทไป

มาณสิงห์ที่ยังมีลมหายใจคลานเข้ามาหาศิศิราที่เลือดท่วมตัวอยู่ในอ้อมกอดของทีฑายุ

"เจ้าหญิง อภัยให้คนโง่อย่างกระหม่อมด้วย...เจ้าหญิง"

"ศิศิรา แข็งใจไว้...ศิศิรา เราต้องได้อยู่ด้วยกัน"

พวกสันธิวิ่งกรูเข้ามาเห็น สันธิมองสภาพลูกชายแล้วเข้ามาช้อนร่าง มาณสิงห์กระอักเลือดออกมา
พยายามเรียกพ่อ...

"ฉันไม่ใช่พ่อแก ตั้งแต่วันที่แกผิดคำสัตย์สาบานว่าจะยอมตายเพื่อราชวงศ์"

"ผมทำเพื่อ...เจ้าหญิง"

"ไม่ใช่ แกทำเพื่อความสุขของตัวเอง แกคิดว่าทีฑายุ ตาย เจ้าหญิงจะรักแกได้บ้าง
เห็นแล้วใช่มั้ยว่าแกแยกคน

สองคนนี้ไม่ได้"

"ผม ผิดคำสัตย์สาบาน ทำลายเกียรติแห่งทหาร หัวใจผมกลับทำร้ายเจ้าหญิง
เพราะรักที่เห็นแก่ตัว ยกโทษให้ลูกคนนี้ด้วยนะพ่อ" มาณสิงห์น้ำตาไหล
สันธิกลั้นสะอื้น วางร่างมาณสิงห์

"สำหรับความเป็นพ่อ ไม่มีอะไรเทียบได้กับความรักลูก แต่พ่อเป็นทหารของราชบัลลังก์
ชีวิตนี้เราต้องอุทิศเพื่อสิ่งเดียว..."

"ความ ภักดี...ต้องอยู่เหนือหัวใจ" สิ้นคำของมาณสิงห์ สันธิตัดสินใจเด็ดเดี่ยวเหนี่ยว
ไกใส่มาณสิงห์ ทุกคนตะลึงอึ้งไปกันหมด...สันธิเข้ามาปิดเปลือกตาให้ลูกชายก่อน
จะกอดไว้ ท่ามกลางความสลดใจของทุกคน

ooooooo

ทางกัญญาภัคที่ติดตามโกญจนาทไปอีกด้าน กัญญาภัคพลาดถูกโกญจนาทยิงแทบทรุด

"นังลูกเลว นังงูพิษ อยากเป็นคนดีเพื่อรักแท้ ฉันก็จะให้แกตายไปกับความดีที่ทีฑายุ
มันไม่เหลียวแล"

"อย่างน้อยชีวิตฉันก็มีความรัก รักที่มีแต่ให้ ไม่ใช่โลภมากอยากได้จนอัดแน่นไปด้วย
ความเลวอย่างแก"

โกญจนาททำท่าจะยิงซ้ำ กัญญาภัคฮึดสู้หยิบเข็มฉีดยาจากเอวปักเข้าที่คอโกญจนาทเต็มแรง

"อย่าอยู่ก่อเวรก่อกรรมกับใครอีกเลย ไอ้ชาติชั่ว"

โกญจนาท ดิ้นจนเข็มหักคาคอ ยกปืนจะเล็งแต่มือไม่มีแรงเพราะฤทธิ์ยาที่ทำลายประสาท
ควบคุมร่างกายทุกส่วน ที่สุดปืนก็หล่นจากมือ ร่างล้มตึงลง กัญญาภัคฝืนความเจ็บพยายาม
มัดเท้าโกญจนาทไว้กับม้า

"กัญญาภัค...เห็นแก่พ่อสักครั้ง"

"พ่อ เหรอ แกเคยทำอะไรที่แสดงถึงความเป็นพ่อบ้าง พ่อเลี้ยงอย่างแกอุ้มชูฉันมาก็เพราะ
เห็นฉันเป็นแค่สัตว์ในบ้าน แกใช้ทุกคนเป็นแขนขาเพื่ออำนาจของแกใช่มั้ย วันนี้แหละที่ฉัน
จะเอาคืนจนแกทุรนทุราย ร้องหาแต่ความตาย"

"กัญญา ภัค ลูกรัก พ่อถูกราเชนทระมันบังคับ ขอแค่ ลูกให้อภัย เราจะกลับมาเป็นครอบครัว
กันใหม่ มองไปข้างหน้า สิลูก ประวัติศาสตร์จะต้องจารึกว่าครอบครัวเราคือสามพ่อแม่ลู
ที่ยิ่งใหญ่เหนือ ราชวงศ์"

"คนเขียนประวัติศาสตร์ด้วยความมักใหญ่ใฝ่สูง ไม่รู้จัก พออย่างแก ไม่สมควรจะอยู่ให้หนัก
แผ่นดิน ลาก่อน ไอ้สัตว์ เดรัจฉานในคราบมนุษย์"

กัญญาภัครวบรวมกำลังสุดท้ายหวดแส้ลงที่หลังม้า ม้าเตลิดลากร่างโกญจนาทครูดไปกับพื้นทันที

"ตายไปซะ โกญจนาท ไม่มีแก มงกุฎแสงจันทร์จะสง่างามตลอดกาล"

กัญญา ภัคยืนตัวงอมือกุมท้องที่ถูกยิง มองโกญจนาทที่ถูกม้าลากตรงไปยังทิวเขาดำ
ทะมึนอย่างอเนจอนาถ หมดทางรอด แล้วกัญญาภัคก็ฝืนเจ็บไม่ไหวหงายลงกับพื้น
นอนหายใจรวยริน น้ำตาซึม

"กัญญา...ทำเพื่อพี่แล้วนะคะ พี่ทีฑายุ" ดวงตากัญญาภัค ค่อยๆหลับลง สิ้นลมหายใจ
อย่างเดียวดายไร้อ้อมกอดชายที่รัก ดั่งดวงใจ...

ooooooo

ศิ ศิราถูกผ่าตัดด่วนและรอดพ้นความตายมาได้ ท่ามกลางความดีใจของทุกคนที่เฝ้ารออย่างจดจ่อ
โดยเฉพาะทีฑายุ...ส่วนสินาตีที่พลาดหวังและสูญเสียคนที่รักทั้งลูกและสามีก็ ทำใจไม่ได้ถึง
กับเสียสติ นารียา ต้องเข้ามาดูด้วยความสงสาร

หลัง เหตุการณ์ร้ายๆผ่านไป ธราเทพที่กลับมาแข็งแรงดังเดิมก็ตัดสินใจไปเรียนต่อ
โดยจะมอบให้ศิศิราและทีฑายุเป็นผู้สำเร็จราชการแทน แต่ทีฑายุกับศิศิราซึ่งตกลงกัน
ไว้ก่อนหน้าแล้ว คัดค้านขึ้นทันทีท่ามกลางสายตาทุกคู่ของทุกคนในท้องพระโรง

"เราสองคนจะไม่ขอรับตำแหน่งใดๆที่เกี่ยวกับการปกครองบ้านเมืองเลย แต่จะเป็นแค่มือที่
คอยประคองมงกุฎแสงจันทร์ไว้ตลอดไป"

ทุกคนตกใจ วิชัยรีบเอ่ยท้วงศิศิรา

"แต่องค์กษัตริย์ต้องมีที่ปรึกษานะพระเจ้าค่ะ"

"ที่ปรึกษาที่ดีที่สุดอยู่ไม่ไกลน้องเราเลยท่านวิชัย"

"ควร มิควรแล้วแต่จะโปรด ยังมีผู้จงรักภักดีอีกคนหนึ่ง ที่เหมาะสมจะทำงานเป็นตัว
อย่างของข้าแผ่นดิน ที่เปี่ยมด้วยความซื่อสัตย์และความเที่ยงตรง คนคนนั้นได้พิสูจน์ตัวเอง
แล้วว่าจะไม่ยอมให้ แม้แต่สายเลือดคิดคดทรยศทำลายบ้านเมืองได้ แม้จะทนทุกข์เพียงใด
หน้าที่ก็จะอยู่เหนือหัวใจเสมอ"

ทีฑายุหมายถึงแม่ทัพสันธิ ทุกคนหันมอง ขณะที่ธราเทพ ก้าวลงจากบัลลังก์ยื่นตราลัญจกร
ให้สันธิที่มีสีหน้านึกไม่ถึง

"นับตั้งแต่บัดนี้ แม่ทัพสันธิคือผู้สำเร็จราชการแทนเรา"

สันธิแววตาปลาบปลื้มสูงสุด ย่อตัวรับตราลัญจกรเทิดไว้เหนือหัว

"เป็น พระมหากรุณาธิคุณที่สุดแก่ชีวิตข้าแผ่นดินคนนี้ เกล้ากระหม่อมขอสัญญาว่
าจะกระทำหน้าที่เพื่อบ้านเมืองด้วยความซื่อตรงและ ซื่อสัตย์ตราบชั่วชีวิตจะหาไม่"

ทุกคนมีแต่รอยยิ้ม วางใจกับความซื่อสัตย์ยิ่งชีวิตของสันธิ ที่จะเป็นตัวแทนดูแลบ้านเมืองต่อไป

ooooooo

ด้าน หลังวัง กลุ่มหนุ่มสาวเดินคุยกันมาเสียงเฮฮา มีความสุข ธนูเพลิงแอบมองจตารี
บ่อยครั้ง พอจตารี รู้ตัวมองกลับ ธนูเพลิงก็รีบก้มหน้าซ่อนความเขิน

"เอ้า...เฮ้ย มัวแต่มอง ชาตินี้ผู้หญิงเขาจะรู้มั้ยว่ารัก" มาลข่านตะโกนแซว

"มันต้องกล้า บ้าบิ่นแบบนี้"

ว่า แล้วดรัณย์ก็พุ่งเข้าจูบแก้มส้มเสี้ยวที่มัวแต่เพลิดเพลิน ไม่ได้ตั้งตัว ส้มเสี้ยวถึงกับ
หัวเราะค้าง มาลข่านกับประสันต์ ชอบใจเป่าปากวี้ดวิ้วกันใหญ่ ส้มเสี้ยวหน้าแดงกลบความอาย
ด้วยการไล่เตะดรัณย์ ทำเอาญาณียิ้มขำ แต่แล้วชะงักกึกที่จู่ๆ

ประสันต์แกล้งเบียดมาใกล้จับมือญาณีหน้าตา เฉย ญาณีซึ่งมีใจแสร้งมองไปทางอื่น
แต่ไม่ยอมปล่อยมือประสันต์ แถมบีบแรงจนประสันต์หน้าเหยเก มาลข่านเห็นแล้วหัวเราะก๊าก
ส่วนธนูเพลิงกับจตารีก็มัวแต่จ้องกันไปยิ้มกันมาราวกับอยู่กันตามลำพังใน ห้วงรัก...

ที่ริมน้ำ ทีฑายุเดินกุมมือศิศิราอย่างนุ่มนวลทะนุถนอม ท่ามกลางบรรยากาศสวยงามยามเย็น

"ขอบคุณนะทีฑายุ หัวใจที่มีแต่คำว่าปกป้องของเธอทำให้มงกุฎแสงจันทร์กลับมาสูงค่าเหมือนเดิม
" ศิศิราเอ่ยเอื้อน ด้วยรอยยิ้ม

"มัน เป็นหน้าที่ของคนทุกคนที่ต้องจงรักภักดีต่อแผ่นดิน เกิด และไม่ปล่อยให้คนคิดทำลาย
บ้านเมืองมีอำนาจเหนือคนดี ไปได้" ทีฑายุกล่าวหนักแน่น

"แล้วเธอไม่ต้องการอำนาจวาสนาตอบแทนบ้างเลยเหรอ"

"อำนาจวาสนาไม่ใช่สิ่งจีรังยั่งยืนเท่ากับความซื่อสัตย์ และความดี ขอแค่รางวัลความรักจากศิศิรา.
..น้ำค้างหยดนี้เพียงหยดเดียว"

ทีฑายุจูบหน้าผากศิศิราแล้วโอบกอดด้วยความรักที่เต็มเปี่ยม ศิศิรากอดตอบ ซาบซึ้งและชื่นใจ
เหลือเกินที่ตนเอง เลือกคู่ครองไม่ผิด...

ooooooo

-อวสาน-
ไทยรัฐออนไลน์

* โดย จากบทละครโทรทัศน์ทางช่อง 3 โดย พัญสร
* 10 ธันวาคม 2552, 05:00 น.

ภาพมงกุฎ1

มงกุฏ2

มงกุฎ3

แฟนคลับร่วมด้วยช่วยทำ

วันเปิดตัว ละคร รักวุ่น...ลุ้นรัก

น้องนิค คลับน้องนุ่นน

จาก แฟนคลับนุ่น โดยคุณนุจ





รายการบล็อกของฉัน

ผู้ติดตาม